ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 มิถุนายน 2559 |
---|---|
คอลัมน์ | ภาพยนตร์ |
ผู้เขียน | นพมาส แววหงส์ |
เผยแพร่ |
เมื่อสามปีที่แล้ว Now You See Me เป็นหนังที่ได้รับความนิยมอย่างไม่คาดฝัน ด้วย “เวทมนตร์” ที่นักมายากลฝีมือสุดยอดร่ายมนตร์สะกดต่อหน้าต่อตาคนทั่วโลก
กลุ่มนักมายากลเล็กๆ สี่คนได้รับการติดต่อให้เปิดการแสดงบันลือโลกที่ลาสเวกัส ผู้อยู่เบื้องหลังคือ “เนตรภาคี” หรือ The Eye ที่วางแผนสลับซับซ้อนเปิดโปงอภิมหาเศรษฐีชื่อ อาร์เธอร์ เทรสเลอร์ (ไมเคิล เคน) ด้วยการปล้นธนาคารในปารีส ซึ่งห่างไปครึ่งโลก ขนเงินมหาศาลมาแจกจ่ายคนดูการแสดงมายากลในลาสเวกัส
มายากลนี้แสดงในนามของ The Four Horsemen ซึ่งประกอบด้วย แอตลาส (เจสซี ไอเซนเบิร์ก) เมอริตต์ (วู้ดดี้ แฮร์เรลสัน) แจ็ค ไวลเดอร์ (เดฟ ฟรังโก) และเฮนลีย์ รีฟส์ (อิสลา ฟิชเชอร์) ที่ประสานงานกันอย่างเชี่ยวชาญจนตบตาคนดูนับหมื่นต่อหน้าต่อตา
ผู้อยู่เบื้องหลัง “สี่อาชาไนย” มีแรงจูงใจเบื้องหลัง คือ เพื่อแก้แค้นเทรสเลอร์ผู้สร้างความร่ำรวยให้ตัวเองด้วยการหลอกลวงผู้คน รวมทั้งโกงค่าประกันชีวิตของผู้คนมากมาย
การกระทำแบบ “โรบินฮู้ด” หรือโจรปล้นคนรวยที่คดโกงเพื่อมาแจกจ่ายแก่คนยากจนนี้ ทำให้ “คนขี่ม้าทั้งสี่” ถูกตามล่าตัวอย่างไม่ลดละโดยเอฟบีไอและตำรวจสากล โดยมี ไดแลน โรดส์ (มาร์ก รัฟฟาโล) เป็นตัวแทนของหน่วยงานแรก และสาวสวยอัลมา เดรย์ (เมลานี ลอรองต์) เป็นตัวแทนของหน่วยงานหลัง
Now You See Me จบลงด้วยการแสดงมายากลบนหลังตึกต่อหน้าสาธารณชน และหลังจากแจกจ่ายเงินที่ปล้นมาได้ให้แก่ผู้คนในท้องถนนแล้ว คนขี่ม้าทั้งสี่ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยที่คนทั่วไปเข้าใจว่าหนึ่งในนั้นคือ แจ็ค ไวลเดอร์ เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถชนไปแล้ว และ แธดเดียส แบรดลีย์ (มอร์แกน ฟรีแมน) ถูกจับตัวไปเข้าคุก ด้วยความแค้นของไดแลน ผู้วางแผนการแก้แค้นอย่างสลับซับซ้อน ใจเย็น และใช้เวลาถึงสามสิบปีกว่าจะลงมือ
ภาคสองเริ่มเดินเรื่องหลังจากนั้นหนึ่งปี “สี่อาชาไนย” ยังคงมุดอยู่ใต้ดิน ไม่มีใครได้พบเห็น แจ็ค ไวลเดอร์ ยังอยู่ดี ไม่ได้เสียชีวิตไปอย่างที่ใครๆ เข้าใจ และสาวคนเดียวในกลุ่มถอนตัวออกจากกลุ่มไป (ด้วยเหตุผลทางเทคนิค เนื่องจาก อิสลา ฟิชเชอร์ ผู้แสดง ตั้งครรภ์ จึงไม่สามารถร่วมแสดงได้) ต่างคนต่างรอคอยคำบัญชาจากเนตรภาคีอีกครั้ง
และไดแลนยังคงแทรกซึมอยู่ในเอฟบีไอในสถานะเดิม
และแล้วคำบัญชาก็มาถึง พร้อมกับสาวคนใหม่ที่จะมาร่วมทีมให้ครบ “สี่อาชาไนย” คือสาวแสบปากคมกริบ ชื่อลูล่า (ลิซซี แคปลัน)
งานครั้งนี้คือเปิดการแสดงเปิดโปงเทคโนโลยีล่าสุดในรูปโทรศัพท์มือถือที่จะขโมยข้อมูลส่วนตัวของคนทุกคนทั่วทั้งโลกไว้ใช้เพื่อประโยชน์ใดๆ ก็ได้
แต่ระหว่างการแสดง สี่อาชาไนย ก็ถูกดัดหลังครั้งใหญ่ แผนการพังทลาย รวมทั้งไดแลนก็โดนเปิดโปงว่าเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมดนี้
และผู้อยู่เบื้องหลังการเปิดโปงคราวนี้ ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากพ่อมดคนเก่งของเรา แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่เปลี่ยนข้างไปเป็นพ่อมดตัวร้าย เดี๋ยว…อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะคะ ว่าหนังเรื่องนี้เลอะเทอะขนาดจับแพะมาชนแกะ เอาเวทมนตร์ (ที่สมมติว่ามีจริง) มาปะปนกับมายากล (ที่ใช้การตบตาผู้ชมเป็นหลัก)
เปล่าเลย ที่พูดนี้หมายความว่า แดเนียล แรดคลิฟฟ์ ผู้ที่โตขึ้นมาต่อหน้าต่อตาเราในฐานะพ่อมดน้อย แฮร์รี่ พอตเตอร์ มาสวมบทบาทเป็นพ่อมดทางเทคโนโลยี ในนาม “วอลเตอร์ เมบรี” ซึ่งจัดฉากการตายของตัวเองต่อหน้าผู้คน เพื่อที่จะได้หลบไปสั่งการอยู่หลังฉาก
นอกจากการเปิดโปงแล้ว เมบรีก็จัดการลักพาตัวสี่อาชาไนยไป ในลักษณะที่เหลือเชื่อที่สุด แต่ก็ได้รับการอธิบายอย่างละเอียดว่าการตบตาครั้งนี้กระทำได้ยังไง
อ้อ ลืมบอกไปว่านักมายากลระดับโลกตัวจริง เดวิด คอปเปอร์ฟีลด์ (ที่เคยเปิดการแสดงเสกให้รถยนต์ทั้งคันหายไปต่อหน้าต่อตาผู้ชม และอื่นๆ) ร่วมอำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ด้วย คงต้องเป็นคนให้ข้อมูลแก่ผู้เขียนบทว่ามายากลเหลือเชื่อต่างๆ นั้นมีวิธีทำได้อย่างไรบ้าง
และอย่างหนึ่งคือ การสะกดจิต ซึ่งทำให้บทบาทของ วู้ดดี้ แฮร์เรลสัน มีความสำคัญมาก
เพื่อถ่ายน้ำหนักไปให้แก่ฝ่ายตรงข้ามบ้าง หนังจึงเติมบทฝาแฝดของเมอร์ริตต์ (ซึ่งเล่นโดยแฮร์เรลสัน เหมือนกัน หน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบ เพียงแต่หัวหยิกผมเต็มหัว ขณะที่เมอร์ริตต์หัวล้าน) ให้กลายมาเป็นไม้เบื่อไม้เมากับฝ่ายสี่อาชาไนย
สิ่งที่เมบรีต้องการให้สี่อาชาไนยทำให้ คือการขโมยแท่งข้อมูลแท่งเล็กๆ ออกจากใต้จมูกเจ้าของ
คราวนี้เล่าเรื่องเสียจนเหนื่อยเลยค่ะ แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นสปอยเลอร์จนเกินไปนัก เพราะเรื่องราวค่อนข้างซับซ้อนสับสน และยังมีการหักมุมพลิกกลับที่ท้าทายสติปัญญาอีกเยอะ
แธดเดียส แบรดลีย์ ซึ่งถูกจับเข้าคุกในตอนท้ายหนังภาคแรก กลับมาเป็นคนเล่าเรื่องตอนเริ่มเรื่องของภาคนี้ และย้อนให้เห็นเหตุการณ์เมื่อสามสิบปีก่อน ที่ไลโอเนล ไชรค์ นักมายากลสะเดาะกุญแจหนีความตาย ซึ่งเป็นพ่อของไดแลน เสียชีวิตในหีบปิดล็อกแน่นหนาที่ถูกหย่อนลงไปในน้ำ
เหตุการณ์นี้คือเบื้องหลังทั้งหมดของ Now You See Me ทั้งสองภาค
ถามว่าหนังภาคนี้สนุกเหมือนภาคแรกหรือเปล่า ขอบอกว่าดูแล้วเหนื่อยกว่าภาคแรกค่ะ หนังพยายามจะฉลาดให้เท่าหรือมากกว่าภาคแรก ซึ่งทำให้ต้องสร้างมายากลให้ใหญ่และเหลือเชื่อยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ฉากที่หล่นลงท่อยอดตึกที่นิวยอร์ก ไปโผล่ในร้านอาหารที่มาเก๊านั้น ออกจะท้าทายต่อสิ่งที่เรียกว่า “การเก็บความไม่เชื่อไว้ชั่วคราว” หรือ suspension of disbelief เกินไปหน่อยค่ะ แล้วยังการถูกผลักตกจากเครื่องบินขณะกำลังบิน ก็เป็นสิ่งที่น่าฮือฮาอยู่หรอก แต่เหลือเชื่อค่ะ
หนังลงจบแบบปลายเปิด เหมือนจะเตรียมการสำหรับมีภาคสามต่อไป
ถึงจะค่อนข้างเบื่อแล้ว แต่ถ้ามีภาคสามออกมา ก็คงยังต้องติดตามอีกนั่นแหละค่ะ ดูซิว่าเขาจะเอาอะไรมาหลอกให้เราเชื่อได้อีก
NOW YOU SEE ME 2
กำกับการแสดง
Jon M. Chuนำแสดง
Jesse Eisenberg
Mark Ruffalo
Dave Franco
Woody Harrelson
Lizzy Caplan
Michael Caine
Daniel Radcliffe
Morgan Freeman