E-DUANG : โทนี่ วู้ดซั่ม จุดประกาย ความหวัง บนซาก หักพัง ประยุทธ์ จันทร์โอชา

คล้อยหลังการออกมาตรการ”เข้ม” กึ่ง”ล็อคดาวน์”เพียงไม่กี่ชั่วโมง สัญญาณจาก โทนี่ วู้ดซั่ม ก็เริ่มปรากฏ

คราวนี้ติดประกาศ “พี่โทนี่สอนน้อง”อย่างตรงไปตรงมา

คำว่าน้องๆในที่นี้ย่อมมิได้หมายถึง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี หรือ นายดวงฤทธิ์ บุนนาค แห่งกลุ่มแคร์ คิด เคลื่อน ไทย ซึ่งร่วมอยู่ในคลับเฮาส์อย่างแน่นอน

หากน่าจะหมายถึงน้องๆที่อยู่ใน “ทำเนียบรัฐบาล” ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากกระทรวงสาธารณสุข

เพราะเป้าหมายสัมพันธ์โดยตรงกับมาตรการ”เข้ม”อันออกมาจาก “ศบค.” ซึ่งตามมากับการแถลงด้วยความครึกครื้นในอารมณ์จากทำเนียบรัฐบาล

โดยเฉพาะน้ำเสียง”นะจ๊ะ”จาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ต้องยอมรับว่า จังหวะการมาเยือนทุกอังคารเว้นอังคารของ โทนี วู้ดซั่ม เหมาะเจาะอย่างยิ่งกับสถานการณ์ในประเทศไทย

เป็นสถานการณ์การทำสงครามกับ”โควิด”

 

แม้ว่า โทนี่ วู้ดซั่ม จะเคยดำรงยศเป็นพันตำรวจโท แม้ว่า โทนี่ วู้ดซั่ม จะไม่ได้เป็นทหาร ไม่เคยผ่านศึกเสือเหนือใต้มาเหมือนกับขุนพลแห่ง”บูรพาพยัคฆ์”

กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่า โทนี่ วู้ดซั่ม มีประสบการณ์เป็นอย่างสูงในการบริหารจัดการ

ทั้งในด้านของ “ธุรกิจ” ทั้งในด้านของ “รัฐกิจ”

อย่างน้อยความเฉียบขาดในการส่งเครื่องบินบินไปรับคนไทยในกัมพูชาก็ต้องยอมรับว่าเหนือกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเคยเป็นผบ.ทบ.

ทั้งเคยผ่านศึกหนักจาก”สึนามิ”และ”ไข้หวัดนก”มาแล้ว

ที่สำคัญก็คือ ความสามารถในการกำหนด”ยุทธศาสตร์”และประดิษฐ์สร้าง”ยุทธวิธี”ออกมาอย่างเหมาะสม

 

ในท่ามกลางซากปรักหักพังของประเทศซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาอย่างต่อเนื่องจากเดือนพฤษภาคม 2557 กระทั่งเดือนมิถุนายน 2564

ทุก”คำพูด”ของ โทนี่ วู้ดซั่ม จึงเท่ากับเป็นการ”จุดประกาย”

เป็นการจุดประกายในความล้มเหลวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา และสร้าง”ความหวัง”ขึ้นมาอีกครั้งภายในสังคมไทย

“ความหวัง”นี้ย่อมมีอานิสงส์ไปยัง “พรรคเพื่อไทย”เด่นชัด