Go Go Squid 2

: Dt, Appledog’s Time

 

Go Go Squid (2019) ภาค 1 ที่มียอดวิวออนไลน์มากกว่า 8,080 ล้านวิว และติดอันดับ 1 ใน 5 ซีรีส์จีนที่ได้รับคำชมจากหน่วยงานของรัฐบาลจีน

เพราะทุกครั้งที่ได้รับชัยชนะจากการแข่งขันอีสปอร์ต (E-Sport) หานซานเหยียนเหล่าต้าทีม K&K มักจะโยนผ้าธงชาติจีนให้ลูกทีมกางโชว์บนเวทีอย่างภาคภูมิ

E-Sport เป็นกระแสที่กำลังมาแรง ในประเทศจีนถึงกับมีหลักสูตร E-Sport ในมหาวิทยาลัย

และมีอาชีพที่ได้รับการส่งเสริมนอกจากนักกีฬา ยังมีนักพากย์หรือผู้จัดการทีม ในการจัดการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ปี 2022 ที่เมืองหางโจวได้บรรจุ E-Sport เข้าไปในโปรแกรมการแข่งขันด้วย

รัฐบาลจีนคิดจะสร้างเมืองเซี่ยงไฮ้ให้เป็นเมืองแห่งอีสปอร์ต นอกเหนือจากเป็นศูนย์กลางธุรกิจ

 

Go Go Squid 2 (2021) เล่าเรื่องต่อจากภาคแรก โดยให้อู่ไป๋ (หูอี้เทียน พระเอกสายละมุน) คนหล่อพูดน้อย แต่เงินเยอะมาก ถึงกับให้หานซางเหยียน (หลี่เซี่ยน) ลูกผู้พี่ยืมเงินได้ ภาคนี้อู่ไป๋จึงเป็นพระเอกของเรื่อง

จากภาคแรกอู่ไป๋แอบชื่นชอบรุ่นพี่อ้ายฉิ้ง (ชื่อแปลว่าความรัก) มากกว่า 10 ปีตั้งแต่วัยรุ่น ภาคนี้เปลี่ยนตัวนักแสดงเป็นหลี่อี้ถง ซึ่งก็ดูเหมาะสมกันดีเคมีตรงกัน พระเอกตัวสูงมากกับนางเอกตัวเล็กน่ารักน่าทะนุถนอม และอู่ไป๋ยังรักมั่นยืนยงไม่เปลี่ยนใจ

แม้หานซางเหยียน/พี่ชายจะห้ามปรามนิดๆ เพราะอ้ายฉิ้งเป็นทั้งเพื่อนเก่าของเขาและแฟนของหวางห่าว (ฝางฮั่นเฉิน/Pang Han Chen) เพื่อนของเขา ซึ่งอู่ไป๋ต้องบอกกับต้าเกออย่างโมโหว่า “ผมเป็นน้องชายของพี่นะ”

ฉากละมุนอุ่นไอรักของพระเอกอู่ไป๋ เริ่มตั้งแต่ตอนแรกมีฝนตก อู่ไป๋ถือร่มไปรับอ้ายฉิ้ง ซึ่งต้องเข้าร่วมการแข่งขันด้วย แม้จะอยู่คนละทีม

และอู่ไป๋ทำสิ่งต่างๆ มากมายให้อ้ายฉิ้งอย่างไม่หวังผลว่าเธอจะเห็นหรือไม่ ทำเพียงเพื่อให้เธอมีความสุข มีความสะดวกใจ

 

 

ภาคนี้การแข่งขันอีสปอร์ตไม่ใช่การเข้ายึดพื้นที่ของคู่แข่งเหมือนภาคที่แล้ว แต่เป็นการแข่งขันหุ่นยนต์หรือรถยนต์ซึ่งประกอบขึ้นเองเพื่อการแข่งขัน โดยมีการตั้งชื่อเช่นเดียวกับผู้แข่งขัน

อู่ไป๋ฉายา “Dt” ตั้งชื่อรถแข่งว่า “นิรนาม” และรถแข่งของเสิ่นเจ๋อ (หวังอันอวี่ พระเอกหล่อปังอีกคน ที่กวนทีนมากๆ กับทรงผมสกินเฮด เป็นนักแสดงที่มีอนาคตน่าจะไปได้ไกล) ฉายา “Grunt” รถแข่งมีชื่อว่า “ลาจี” ภาษาจีนแปลว่า “ขยะ” 555!

เสิ่นเจ๋อเป็นนักแข่งฝีมือดี ที่หลายทีมอยากชวนมาร่วมทีม หากอู่ไป๋หัวหน้าทีม K&K ที่ดูเหมือนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด ที่เพื่อนๆ บอกว่าเป็นภูเขาน้ำแข็ง แต่สามารถหว่านล้อมให้เสิ่นเจ๋อมาอยู่ทีม K&K ได้

อู่ไป๋กับเสิ่นเจ๋อ ทั้งคู่อยู่ทีม K&K ด้วยกัน และยังรักชอบพี่น้องตระกูลอ้ายเหมือนกัน อู่ไป๋ชอบอ้ายฉิ้ง ส่วนเสิ่นเจ๋อชอบอ้ายจิ้ง (หวังเข่อหรู) พี่สาวอ้ายฉิ้ง ความรักของทั้งคู่ชอบผู้หญิงสูงวัยกว่า แบบผมรักชอบพี่สาวครับ

หากทั้งคู่ต้องผ่านด่านพ่อตาให้ได้! (Shi Yi นักแสดงอาวุโส แสดงเป็นคุณพ่อตาที่น่ารักมาก)

 

การคบหากันของอู่ไป๋กับอ้ายฉิ้ง ต้องเก็บเป็นความลับเพราะทั้งคู่มีตำแหน่งหน้าที่ในทีมของตัวเองที่เป็นคู่แข่งกัน จึงต้องระมัดระวัง ด้วยมีผลต่อการแข่งขัน

ภาคนี้คุณตา (Chun Pui นักแสดงอาวุโส) ของหานซานเหยียนและเป็นคุณปู่ของอู่ไป๋ ยังคงมีบทบาทในการจัดการจับคู่ให้หลานชายได้สมใจ เป็นผู้อาวุโสที่น่ารักมากกกก (กดไลก์ให้ ก.ไก่ ล้านตัว)

ซีรีส์ภาคนี้ยังคงนำเสนอการแข่งขันอีสปอร์ต ซึ่งทีม K&K และทีม SP ที่เป็นคู่แข่งกันเสมอ มักเจอกันในรอบตัดสิน เพราะเป็นทีมเก่งทั้งคู่

นักกีฬาอีสปอร์ตมีอายุเป็นอุปสรรค ด้วยความฉับไวทั้งการเคลื่อนไหวของร่างกายกับการตัดสินใจ จึงมีผลให้คนที่มีอายุเพิ่มขึ้น อาวุโสขึ้น จึงต้องเปลี่ยนตำแหน่งหรือเปลี่ยนงาน

ไม่ว่าอาชีพใด อายุมักมีอุปสรรค ยกเว้นบางอาชีพที่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับประสบการณ์…

 

Go Go Squid 2 สร้างจากนิยายมังงะ โดยนักเขียน Mo Bao Fei Bao เรื่องราวน่ารักทันสมัย สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีความรักความฝัน

พระเอกหูอี้เทียนเหมาะกับบทอู่ไป๋มาก เป็นผู้ชายที่มั่นคงและมุ่งมั่นสร้างอนาคต แบบคนจีนรุ่นใหม่ แม้ครอบครัวค่อนข้างมีฐานะ แต่ก็อยากสร้างฐานะด้วยฝีมือตัวเอง

พระเอกหลี่เซี่ยนกับนางเอกหยางจื่อมีฉากให้ปรากฏตัวบ้าง เพื่อให้เรื่องเดินต่อจากภาค 1 ดูขำๆ ดี หลี่เซี่ยนเปลี่ยนทรงผมเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ซึ่งไม่ค่อยชิน ชอบผมทรงเดิมมากกว่า

โดยรวมๆ Go Go Squid 2 นับเป็นซีรีส์ที่ควรค่าแก่การชม ดูแล้วได้ยิ้มได้หัวเราะบ้าง ในสถานการณ์ที่เคร่งเครียดอยู่ขณะนี้…