สถานีคิดเลขที่ 12 โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร/ตุ๊กตุ๊กVSคอนเทนเนอร์

สถานีคิดเลขที่ 12 / สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

————————–

ตุ๊กตุ๊กVSคอนเทนเนอร์

——————–

สองพี่น้อง “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ซึ่งถือ เป็นเจ้าแห่งการตลาด

อย่างล่าสุด เราได้เห็น “การเมืองแบบตุ๊ก-ตุ๊ก” ผ่านอีเวนต์ งานวันเกิดของ อดีตนายกฯปู ที่กระทำในนาม “ติ่ง”อดีตนายกฯปู”

ทำให้รูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคำอวยพร และ ความคิดถึง ไปปรากฏหลังรถตุ๊ก-ตุ๊ก

ซึ่งแม้จะไม่กี่สิบคัน แต่ก็เป็นเทรนด์ และอยู่ในกระแสของคนรุ่นใหม่

ผสานไปกับ สเปรย์ฆ่าเชื้อ กลิ่นโคโค่ชาแนล ที่มีผู้ทำให้แจกแฟนคลับ ทำให้ กลิ่นการเมืองหอมกรุ่นยิ่งขึ้นไปอีก

ตอกย้ำให้ โทนี่ วู้ดซั่ม และน้องปู พยายามให้อยู่ในกระแสความสนใจของสังคม

และคงจะมีอัตราเร่งถี่และมากยิ่งขึ้น ตามอัตราเร่งของกระแสการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่

ทั้งนี้ เพื่อให้ “พรรคเพื่อไทย” แม้จะไร้ซึ่งคนชินวัตร ตรึงอยู่ในใจของประชาชนให้ได้

แต่กระนั้น ถึงจะเป็น”เซียน”การตลาดอย่างไรก็ตาม จะวางใจว่าจะซื้อใจชาวบ้านได้เหมือนเดิม ไม่ได้อีกแล้ว

เพราะอีกฝั่งฟากของอำนาจ

แม้จะพลิกพริ้วหรือหาจุดขาย จุดความสนใจ เก่งได้ไม่เท่าฝั่งฟาก”โทนี่-ปู”

แต่ เจอการเมืองแบบตู้คอนเทนเนอร์

คืออยากขวางอะไรก็ยกเอาตู้เหล็กมาวางโครมลงต่อหน้าดื้อๆ

เป็นวิธีการดึกดำบรรพ์

แต่ก็สามารถสะกัดฝ่ายตรงข้ามได้ซะอย่างงั้น

ดูอย่างเกม แก้ไขรัฐธรรมนูญ ล่าสุด

เป้าหมาย ของ ฝ่ายกุมอำนาจคืออะไร

คำตอบก็คือแก้วิธีเลือกตั้ง เป็นแบบ 2 ใบ เพราะเห็นว่าจะเป็นประโยชน์ต่อพรรคการเมืองของฝ่ายตัวเอง

ก็เดินหน้าลุย ใช้พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการปูทางสู่อำนาจ ชิงเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ต่อการลุยเลือกตั้งทันที

ไม่ให้น่าเกลียดมาก ก็ประแป้งลวกๆด้วยการพ่วงประเด็นแก้มาตรา 144- มาตรา185 ที่เปิดทางให้ส.ส.สามารถเข้าไปเอี่ยวการจัดทำงบประมาณและแทรกแซงการบริหารงานของข้าราชการได้

โดยอ้างว่าเป็นขยายสิทธิของผู้แทนปวงชน

แต่แทงม้าผิดตัว ไม่เข้าป้าย ตรงกันข้ามกลับมีกระแสต่อต้านรุนแรง

จนเมื่อต้านกระแสไม่อยู่ โดยเฉพาะจาก”คนกันเอง”อย่างส.ว.ที่หาว่าจะทำลาย หลักการ”รัฐธรรมนูญปราบโกง”

ก็เลยกลับลำ กันดื้อๆ

โดยเราได้เห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โชว์บทพระเอก “ไม่เอาการโกง”

ออกมาประกาศไม่แก้มาตรา144-มาตรา185 ซะงั้นๆ

ไม่ต้องสนใจว่านี่เป็นข้อเสนอของพรรคแกนนำรัฐบาลที่”พี่ป้อม”รับหน้าเสื่ออยู่

เดินหน้าฉีกทิ้ง โดยให้ส.ว.ไม่รับหลักการ อย่าที่เราเห็น

แล้วก็ไปเลือกเอา ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอแก้ไขระบบเลือกตั้ง เป็นแบบ 2 ใบแทน

ชนิดที่พรรคประชาธิปัตย์เองก็คงงง ที่อยู่ๆร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของตัวเองกลายมาเป็นร่างหลักซะอย่างนั้น

สะท้อนว่า ฝ่ายกุมอำนาจ ไม่สนหรอกว่า 2 รายทางจะเป็นอย่างไร

“พปชร.”จะเสียหน้า -เสียการเมืองอย่างไร ก็ไม่สน

ขอบรรลุผลแก้วิธีการเลือกตั้งได้ ก็พอใจ

แถมยังได้พ่วงอีกว่า เห็นไหมเราปกป้องรัฐธรรมนูญปราบโกง

ส.ว.ที่เป็นเป้าจะถูกปิดสวิตซ์ กลายเป็นพระเอก ดื้อๆซะอย่างงั้น

และพระเอกที่ว่าก็พร้อมจะเป็นผู้ร้าย

สามารถล่มแก้รัฐธรรมนูญได้อีกในวาระ2วาระ3 หากไม่พึงใจหรือมีเป้าหมายใหม่

ดังนั้นประชาชน อย่าถามว่าได้อะไรจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังเกิดขึ้น

การเมืองมึนๆดื้อๆด้านๆแบบนี้

ทำให้ถึงพี่โทนี่และน้องปูจะเก่งกาจการตลาดแบบไหนก็สู้ลำบาก

เพราะลอง หลับตานึก รถตุ๊ก-ตุ๊ก วิ่งชนตู้คอนเทนเนอร์

ใครจะอยู่ใครจะไป

———————-