วารี วิไล : ตำนาน Fleetwood Mac Lindsey Buckingham/Christine McVie กลับมาในฟอร์มดูโอ

อัลบั้มใหม่ของ 2 นักร้องนักดนตรีรุ่นใหญ่ Lindsey Buckingham/Christine McVie ประเดิมการออกวางจำหน่ายด้วยอันดับท้อป 20 ในชาร์ตอัลบั้มบิลบอร์ด และอันดับ 5 ในชาร์ตอัลบั้มของอังกฤษ

แฟนเก่าของ Fleetwood Mac คงได้ฟังซิงเกิลแรกของอัลบั้มนี้ไปแล้ว นั่นคือ In My World

ทั้ง ลินด์ซีย์ บัคกิงแฮม ชาวอเมริกัน ซึ่งตอนนี้อายุ 67 ปี และ คริสทีน แม็กวี ชาวอังกฤษ อายุ 73 ปี ต่างเป็นสมาชิกวง Fleetwood Mac ผ่านความรุ่งโรจน์ ร้อนหนาวและแตกร้าวมาด้วยกัน

การมาร่วมงานเป็นดูโอรอบนี้ มีสมาชิกเก่าของฟลีตวู้ดแม็กอีก 2 คนมาร่วมด้วย คือ จอห์น แม็กวี เบส และ มิก ฟลีตวู้ด กลอง

ขาดหายไปคนเดียวคือ สตีวี นิกส์ นักร้อง ซึ่งเป็นซุปตาร์อีกคนของวงนี้

 

นักฟังเพลงคงทราบดีว่า ฟลีตวู้ดแม็ก เป็นวงดังที่โด่งดังใน 2 ห้วงเวลา ด้วยสไตล์ดนตรีที่แตกต่างกัน

ห้วงแรกในตอนปลายของยุค 60 ฟลีตวู้ดแม็ก มี “ปีเตอร์ กรีน” มือกีตาร์บลูส์ ที่เคยร่วมวง เดอะบลูส์ เบรกเกอร์ ของ จอห์น มายอล เป็นตัวชูโรง

กรีนเป็นชาวอังกฤษ เป็นมือกีตาร์บลูส์ ที่ศิลปินบลูส์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น บีบีคิงส์ และ เอริก แคลปตัน ให้การยกย่อง

กรีนรวบรวมนักดนตรีมาร่วมวง และนำเอาชื่อของ มิก ฟลีตวู้ด และ จอห์น แม็กวี มาเป็นชื่อวง เขาเป็นเจ้าของเพลงอย่าง Black Magic Woman ที่นักฟังเพลงจะรู้จักในเวอร์ชั่นของซานตาน่า มากกว่า เพราะเอาไปเล่นใหม่จนโด่งดัง

เพลงเอกๆ ของกรีน ยังได้แก่ Need Your Love So Bad อันเป็นบลูส์อมตะไปแล้ว นอกจากนี้ ยังมีเพลงอันดับ 1 ในชาร์ตซิงเกิลอังกฤษ คือ Albatross อีกเพลงที่ถือเป็นสัญลักษณ์ของกรีนก็คือ Man Of The World

กรีนปิดฉากความรุ่งโรจน์ของตัวเองและฟลีตวู้ดแม็กในยุคแรก ด้วยอาการป่วยทางจิตของตัวเอง ทำให้ต้องหยุดไปรักษาตัว ในขณะที่กำลังรุ่งโรจน์ กว่าจะได้กลับมาใหม่ก็นับเป็นสิบปีเหมือนกัน

เมื่อกรีนวางมือไป มิก ฟลีตวู้ด และ จอห์น แม็กวี ทำวงใหม่ นำเอาคริสทีน เข้ามา ทาบทาม ลินซีย์ บัคกิงแฮม นักดนตรีอเมริกัน ซึ่งดึงเอาแฟนสาว สตีวี นิกส์ ชาวแอริโซนา สหรัฐอเมริกา เข้ามาด้วย

ทั้งสองคนรวมตัวกันออกอัลบั้ม Buckingham Nicks ในปี 1973

 

หลังจากนั้นก็คือตำนานอีกบท ฟลีตวู้ดแม็ก โด่งดังสุดขีดในห้วง 1975 ถึง 1987 ด้วยแนวป๊อปร็อก เริ่มจากอัลบั้มแรก Fleetwood Mac เข้าอันดับ 1 ในชาร์ต ตามมาด้วยอัลบั้ม Rumours ผลงานที่สองของวงในยุคนี้ ออกเมื่อปี 1977 เข้าอันดับ 1 ในชาร์ตอัลบั้มบิลบอร์ดถึง 31 สัปดาห์ ขายไป 40 ล้านชุดทั่วโลก มีเพลงดังมากมายและยังได้รางวัลแกรมมี่จากผลงานชุดนี้อีกด้วย

พร้อมกับความสำเร็จ ก็คือความสัมพันธ์ยุ่งเหยิงในวง เริ่มจากวงมีคู่รักสองคู่ คือ ลินซีย์กับสตีวี และจอห์นกับคริสตีน แต่อยู่ๆ ไป จอห์นก็ดันไปยุ่งกับสตีวี จนกลายเป็นความร้าวฉาน

ผลงานของวงในระยะนี้ ต่อจาก Rumours คือ Tusk ในปี 1979, Mirage ปี 1982 และ Tango in the Night ปี 1987

ปี 1987 บัคกิงแฮมออกจากวง คริสทีนกับจอห์นเลิกกัน แต่ยังร่วมวงกันต่อไป มิกนำเอานักดนตรีเข้ามาแทน แต่ก็ถือเป็นการสิ้นสุดของไลน์อัพที่สร้างผลงานโดดเด่น

วงยังออกแสดง และมีการปรับเปลี่ยนสมาชิกเข้าๆ ออกๆ มีการรียูเนี่ยน จนกระทั่งออกอัลบั้มแสดงสด The Dance เมื่อปี 1997 กระทั่ง 2014 คริสทีนกลับเข้าร่วมวงอย่างเป็นทางการอีกครั้ง

 

สําหรับอัลบั้ม Lindsey Buckingham/Christine McVie ชุดนี้ ทำให้มีการเอ่ยถึง Buckingham Nicks เมื่อปี 1973 อีกครั้ง แนวเพลงเป็นป๊อปที่มีท่วงทำนองลงตัว เสียงประสานที่มีพลังสะดุดหู

ทั้งคู่ตระเวนออกรายการทีวีหลายช่อง สภาพร่างกายและเสียงย่อหย่อนไปบ้าง แต่ในภาพรวมยังถือว่าไม่หย่อนไปจากคุณภาพที่เคยสร้างไว้สมัยยังหนุ่มสาวเท่าไหร่นัก

นักวิจารณ์ชี้ว่า นอกจากซิงเกิ้ลแรก อีกสามเพลงที่ไม่ควรพลาดจากชุดนี้ คือ Red Sun, Love Is Here to Stay และ Carnival Begin

10 เพลงในชุดนี้ ทั้งสองคนผลัดกันร้องนำ เริ่มด้วย Sleeping Around the Corner จากนั้นคือ Feel About You, In My World, Red Sun, Love Is Here to Stay

Too Far Gone, Lay Down for Free, Game of Pretend, On with the Show และปิดท้ายด้วย Carnival Begin

เป็นผลงานจากศิลปินระดับตำนานอีกชุดหนึ่งที่น่าติดตาม