ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ | ม็อบ 24 มิถุนา : ประตูบานใหม่สู่จุดจบของระบอบประยุทธ์

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์www.facebook.com/sirote.klampaiboon

ม็อบ 24 มิถุนา : ประตูบานใหม่สู่จุดจบของระบอบประยุทธ์

คุณประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ที่คนไทยค่อนประเทศไม่ยอมรับอย่างที่ทุกคนรู้กัน

หลักฐานง่ายๆ คือคุณประยุทธ์ไม่ใช่ผู้นำพรรคที่ประชาชนไว้ใจจนชนะเลือกตั้ง, พรรคพลังประชารัฐที่สนับสนุนคุณประยุทธ์เป็นนายกฯ คือพรรคที่แพ้ ยิ่งไปกว่านั้นคือพรรคนี้หาเสียงโดยแทบไม่พูดถึงคุณประยุทธ์เลย

ความไม่ยอมรับที่ประชาชนมีต่อคุณประยุทธ์ทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นจนคุณประยุทธ์ทำอะไรก็มีแรงต้านตลอดเวลา แต่ถึงแม้จะเป็นคนที่เคยยอมรับคุณประยุทธ์ ความเป็นคุณประยุทธ์ที่ไม่ฉลาด, ไม่มีประสิทธิภาพ และไม่มีเสน่ห์ก็ทำให้คนเหล่านี้ลดความเชื่อมั่นต่อคุณประยุทธ์ลงไปด้วยเช่นกัน

ในการสำรวจความเห็นของนิด้าโพลเรื่องบุคคลที่อยากให้เป็นนายกฯ ครั้งล่าสุด จำนวนประชาชนที่สนับสนุนคุณประยุทธ์ในไตรมาส 2/2564 ลดเหลือเพียง 19.32% จากเดิมซึ่งเคยอยู่ที่ 28.79% ในใตรมาส 1/2564 และ 30.32% ในไตรมาส 4/2563 หรือเท่ากับลดลงเกือบเท่าตัวในระยะเวลาเพียง 6 เดือน

ตามผลการสำรวจนี้ ความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีต่อคุณประยุทธ์ถดถอยอย่างต่ำติดต่อกันครึ่งปี

แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือความเชื่อมั่นลดฮวบเดือนเมษายน-มิถุนายน 2564 ซึ่งตรงกับช่วงที่รัฐปล่อยคลับไฮโซกลางทองหล่อแพร่โควิด จากนั้นคนติดเชื้อทั้งประเทศทะลุสองแสนสอง และตายแล้วเกือบสองพัน

ตรงกันข้ามกับปีที่แล้วที่คนกลุ่มต่างๆ ใน “ระบอบประยุทธ์” พยายามปั้นน้ำเป็นตัวว่าคุณประยุทธ์เป็นนายกฯ เก่งเทียบเท่า “วินสตัน เชอร์ชิล” เพราะทำให้ไทยเชื้อไม่ระบาด สถานการณ์ของประเทศไทยตอนนี้รุนแรงเป็นอันดับต้นของโลกจนภาพความเป็นนายกห่วยพุ่งสูงขึ้นแบบไม่มีทางแก้ตัว

พูดให้เห็นภาพขึ้น จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ 4,059 ในวันที่ 22 มิถุนายน คือตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุดใน 22 วัน ส่วนผู้ติดเชื้อที่ไม่ใช่นักโทษจำนวน 3,984 คือตัวเลขสูงสุดตั้งแต่เกิดเหตุไวรัสระบาด หลายจังหวัดมีผู้ติดเชื้อใหม่นิวไฮ และไทยกลายเป็นประเทศที่ผู้ติดเชื้อรายวันมากอันดับ 15 ของโลกโดยปริยาย

นับจากวันที่ 16 มิถุนายน ซึ่งคุณประยุทธ์แถลงจะเปิดประเทศใน 120 วัน สถานการณ์การระบาดและการฉีดวัคซีนของไทยเลวร้ายหมด รัฐบาลฉีดวัคซีนได้เฉลี่ยวันละ 90,000 โดส หรือต่ำกว่า 5 เท่าเมื่อเทียบกับยอดฉีดที่ควรทำได้ต่อวันคือวันละ 470,000-480,000 เพื่อฉีดให้ได้สิ้นปี 100 ล้านโดส

ด้วยตัวเลขดังที่กล่าวมา ประเทศไทยวันนี้เผชิญสถานการณ์ที่เลวร้ายลงทุกด้านอย่างต่อเนื่อง เชื้อระบาดพุ่ง คนตายเพิ่ม แผนวัคซีนผิดเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยต้นเหตุของปัญหาทั้งหมดมาจากการบริหารงานของคุณประยุทธ์ที่คุมรัฐบาล, ศบค. และ ศบค.กทม.ไว้ที่ตัวเองคนเดียวตลอดหนึ่งปี

การขยายตัวของโควิดสายพันธุ์อินเดียทำให้ผู้ติดเชื้อพุ่งจนระบบสาธารณสุขทำงานหนักขั้นเตียงผู้ป่วยหนักใน กทม.ใกล้จะไม่พอ

ข้อสังเกตวัคซีนซิโนแวคสู้เชื้ออินเดียไม่ได้นั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

แต่คุณประยุทธ์กลับซื้อเพิ่มรวมแล้วเกือบ 50 ล้านโดสทั้งที่ราคาแพงกว่าวัคซีนอื่นหลายเท่าตัว

คุณประยุทธ์เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ทำเศรษฐกิจพินาศก่อนเชื้อระบาด แต่ทันทีที่เกิดการระบาด ความพินาศก็กลายเป็นความย่อยยับ การท่องเที่ยวถูกมองเป็นทางออกทั้งที่ไม่ใช่แหล่งรายได้ใหญ่ที่สุดของประเทศ แต่เมื่อสถานการณ์โควิดเลวร้ายลง แผนหวังพึ่งการท่องเที่ยวก็คงต้องปิดตัวตาม

ในความรู้สึกของคนธรรมดาที่ไม่ได้มีเส้นหรือเกาะรัฐบาลทำมาหากิน คุณประยุทธ์ทำให้ประเทศถดถอยจนสังคมมีแต่ความหดหู่สิ้นหวัง

การอยู่ในอำนาจของคุณประยุทธ์คือการจองจำให้ประเทศอยู่ใต้หัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจ และหัวหน้าทีมสาธารณสุขที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

คุณประยุทธ์ไม่มีคุณสมบัติและความสามารถพอจะเป็นนายกรัฐมนตรี ยิ่งทบทวนผลงานของคุณประยุทธ์ยิ่งเห็นชัดว่าแต่ละวันที่คุณประยุทธ์มีอำนาจคือโอกาสที่ประเทศจะพบหายนะมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการดันทุรังซื้อวัคซีนห่วยราวคลุ้มคลั่ง หรือความไม่สามารถฟื้นการทำมาหากิน

ในโลกของคนธรรมดาที่ไม่ได้เกาะรัฐบาลทำมาหากิน ความเชื่อมั่นต่อคุณประยุทธ์ที่ถดถอยลงทำให้คำถามว่าเมื่อไรคุณประยุทธ์จะออกดังก้องมากขึ้นเรื่อย

แต่เช่นเดียวกับที่คนขับแท็กซี่และชาวบ้านร้านช่องคิดกันทั่วประเทศ คุณประยุทธ์มีเส้นจนไม่มีทางที่จะทำให้ออกจากตำแหน่งได้เลย

ม็อบ 24 มิถุนา เป็นการจุดประกายขบวนการขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ครั้งใหม่ในประเทศไทย เพราะขณะที่ม็อบปี 2563 ชูประเด็นปฏิรูปสถาบันจนถูกรัฐบาลฉวยโอกาสยัดคดีคู่ขนานกับปลุกระดมให้กลุ่มขวาจัดใช้กำลัง การชุมนุมหน้าทำเนียบวันที่ 24 มิถุนายน กลับยังไม่โดนโจมตีด้วยเรื่องนี้แม้แต่นิดเดียว

ตรงข้ามกับการต่อสู้ปี 2563 ที่ยืนยันสู้แบบทะลุเพดานบนความเชื่อว่าจะแก้ปัญหาโครงสร้างพร้อมกับไล่ประยุทธ์ได้ในบั้นปลาย กลุ่มผู้ชุมนุมหน้าทำเนียบเน้นยุทธวิธีไล่ประยุทธ์โดยไม่แตะประเด็นปฏิรูปสถาบันเท่ากับกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยปี 2563 แต่ก็มีการพูดพาดพิงเรื่องนี้ในแถลงการณ์

ขณะที่กลุ่มราษฎรที่เป็นแกนหลักของการต่อสู้ปี 2563 ยืนยันดันเพดานผลักดันปฏิรูปสถาบันต่อไป

กลุ่มไทยไม่ทนโดยคุณจตุพร พรหมพันธุ์, คุณวีระ สมความคิด และคนอื่นๆ ก็แถลงในวันที่ 22 มิถุนายน ว่าการขับไล่ประยุทธ์จะทำไปพร้อมกับผลักดันให้ตั้งกรรมาธิการปฏิรูปกองทัพ-ตำรวจ รวมทั้ง “ปรับปรุงสถาบัน”

กระบอกเสียงรัฐบาลโจมตีกลุ่มคุณวีระและจตุพรว่าพูดเรื่องนี้เพราะหวังดึงมวลชน แต่ทุกคนที่เห็นชะตากรรมเพนกวิน-รุ้ง ฯลฯ ย่อมรู้ว่าการพูดเรื่องสถาบันนั้นอันตราย คำพูดคุณวีระเรื่องนี้จึงไม่น่าจะมีที่มาแบบนั้น และชวนให้คิดว่าหรือสังคมไทยจะสนใจประเด็นนี้มากอย่างที่เกิดในปี 2563 จริงๆ

แม้การชุมนุมวันที่ 24 มิถุนายน จะเกิดในเวลาที่โควิดระบาดจนไม่มีผลต่อการขับไล่คุณประยุทธ์ทันที การชุมนุมก็เป็นสัญลักษณ์ว่าพลังของความต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศไม่หายไปไหน การสะสมพลังรอบใหม่กำลังเกิดขึ้น

เหลือเพียงแค่ใครจะเป็นคนปลดปล่อยพลังนั้นออกมาเท่านั้นเอง

ขณะที่ประชาชนลงถนนต้านเผด็จการและชูสามนิ้วท้าทายอำนาจรัฐตลอดปี 2563 เพราะความเชื่อเรื่องเสรีภาพและความเสมอภาค การชุมนุมในปี 2564 มีที่มาจากความไม่พอใจเรื่องเศรษฐกิจและความล้มเหลวในการแก้ปัญหาโควิด จำนวนมวลชนที่พร้อมเผชิญหน้ากับรัฐจึงมากขึ้นเป็นทวีคูณ

คนที่ตาสว่างแล้วย่อมไม่กลับไปอยู่ในความมืดบอดฉันใด คนที่เคยร่วมชุมนุมหรือเคลื่อนไหวต้านอำนาจรัฐตลอดปี 2563 ย่อมไม่กลับไปสนับสนุนระบอบเผด็จการประยุทธ์ฉันนั้น

การเมืองของการต่อต้านอำนาจรัฐในปี 2564 จะเดินไปสู่สถานการณ์ที่เข้มข้นและดุเดือดกว่าปี 2563 อย่างแน่นอน

คุณประยุทธ์ในปี 2563 เป็นแถวหน้าของการใช้เล่ห์เหลี่ยมรักษาอำนาจท่ามกลางเสียงด่าของคนทั้งประเทศ แต่อำนาจที่ไม่มีปัญญาแก้ปัญหาเศรษฐกิจและโควิดทำให้คุณประยุทธ์เป็นภัยคุกคามชีวิตประชาชน เพราะทำให้ทุกคนอดอยาก, หากินไม่ได้, เสี่ยงติดเชื้อและตายจากความห่วยของรัฐบาล

ไม่มีใครตอบได้ว่าอนาคตของการขับไล่คุณประยุทธ์รอบนี้จะเป็นอย่างไร คุณจตุพรประกาศแล้วว่ารัฐบาลเตรียมยัดคุกวันที่ 8 กรกฎาคม ส่วนตำรวจก็แถลงว่าจะใช้การชุมนุม 24 มิถุนา เป็นข้ออ้างถอนประกันเพนกวิน-รุ้ง-ไมค์ ฯลฯ ซึ่งจะทำให้คนเกลียดรัฐบาลมากขึ้นจนกลายเป็นการรอขับไล่ต่อไป

ตรงกันข้ามกับความเชื่อคุณประยุทธ์ว่าคนต่อต้านรัฐบาลถูกปลุกปั่นยุยง ไม่มีใครทำให้ประชาชนรังเกียจรัฐบาลเท่าคุณประยุทธ์ที่ไม่อยู่กับร่องกับรอย แก่แต่คุมสติไม่ได้ ความสามารถไม่มี ดำเนินนโยบายวัคซีนที่ผิดพลาดซึ่งกระทบชีวิตคนจำนวนมาก แต่ไม่เคยมีคำอธิบายอะไรให้ประชาชน

วันเวลาของคุณประยุทธ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนไม่ได้เลือกกำลังจะจบลงในอีกไม่นาน และเหมือนกับผู้นำที่คนส่วนใหญ่รังเกียจทั่วโลก

สิ่งเดียวที่ประชาชนรอคอยที่จะเห็นคือคนแบบนี้จะมีจุดจบอย่างไรหลังจากใช้อำนาจสร้างความเสียหายมาเป็นเวลาหลายปี