ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 7 - 13 กรกฎาคม 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | กรองกระแส |
เผยแพร่ |
กรองกระแส
แรงงานต่างด้าว
เริ่มต้นจากปรารถนาดี
ไม่อยู่กับความจริง
ถามว่าพระราชกำหนดว่าด้วย “แรงงานต่างด้าว” อันผ่านมติอนุมัติเห็นชอบของ ครม. ตามข้อเสนอจากกระทรวงแรงงาน สะท้อนอะไร
สะท้อนเป้าหมาย 2 เป้าหมาย
1 เพื่อการจัดระบบแรงงานต่างด้าวให้อยู่ในระเบียบแบบแผนเพื่อลดทอนปัญหา “การค้ามนุษย์” ที่ประเทศไทยถูกต่างประเทศวิพากษ์วิจารณ์
เท่ากับเป็นรูปธรรมว่ารัฐบาลไทยตั้งใจในการแก้ไขปัญหา
ขณะเดียวกัน 1 เมื่อรัฐบาลไทยมีการเคลื่อนไหวอย่างเอาการเอางานเช่นนี้ก็หวังว่ากระทรวงต่างประเทศสหรัฐจะจัดอันดับประเทศไทยในเรื่องการค้ามนุษย์อย่างที่เรียกว่า “เทียร์” ใหม่
เพราะหากยกไปอยู่ในระดับที่ดีย่อมหมายถึงภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ
ต้องยอมรับว่าการตราพระราชกำหนดของรัฐบาลไทยมาจากความปรารถนาดี มาจากความตั้งใจจริง เพื่อหวังจะแก้ปัญหาจากอันดับเทียร์ ไม่เพียงเพื่อภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศ หากน่าจะเป็นกระดานหกทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศดีขึ้น
แต่แล้วความปรารถนาดีของรัฐบาลไทยกลับสร้างปัญหาอย่างใหม่ตามมาทั้งๆ ที่มิได้มีเจตนาเลยแม้แต่น้อย
เจตนา กับ ผล
ไม่เป็นเอกภาพ
ตัวอย่างจากการตราพระราชกำหนดว่าด้วยแรงงานต่างด้าวแสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมว่าดำเนินไปอย่างไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ขาดการศึกษาผลดีผลเสียอย่างรอบด้าน
มองเห็นแต่ด้านอันเป็นผลดี แต่มองข้ามด้านอันเป็นผลเสีย
ปฏิกิริยาจากหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย นับว่าแจ่มชัด ตรงเป้าอย่างที่สุด
อย่าลืมว่า 3 องค์กรนี้เป็นสดมภ์หลักในทางเศรษฐกิจ
ตามปรกติแล้วไม่ว่าหอการค้าแห่งประเทศไทย ไม่ว่าสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ไม่ว่าสมาคมธนาคารไทย ล้วนให้ความร่วมมือกับ คสช. และรัฐบาลเป็นอย่างดี และร่วมอยู่ในคณะกรรมการร่วมเอกชนอย่างต่อเนื่อง
การที่ทั้ง 3 องค์กรออกมาคัดค้านอย่างเป็นทางการ เท่ากับยืนยันว่าปัญหาอันเนื่องแต่พระราชกำหนดว่าด้วยแรงงานต่างด้าวหนักหนาสาหัสจริงๆ
รูปธรรมที่แรงงานพม่า แรงงานกัมพูชา แรงงานลาว ทยอยกลับบ้านนับว่าเด่นชัด
ในที่สุด รัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้คำสั่งหัวหน้า คสช. ตามอำนาจของมาตรา 44 ชะลอการบังคับใช้พระราชกำหนดออกไป
เท่ากับเป็นการยอมรับในความผิดพลาด บกพร่อง
เจตนา ปรารถนาดี
ไม่อยู่กับความจริง
กระบวนการในทางความคิดแบ่งออกเป็น 2 กระบวนมาอย่างยาวนาน กระบวนการ 1 คือกระบวนการในแบบโรแมนติก กระบวนการ 1 คือกระบวนการในแบบเรียลลิสติก
โรแมนติก เริ่มจากความปรารถนาดี ต้องการดัดแปลงโลกตามความปรารถนาดีของตน
เรียลลิสติก เริ่มต้นจากความเป็นจริง ต้องการดัดแปลงโลกตามความเป็นจริงที่ดำรงอยู่
กรณีพระราชกำหนดว่าด้วยแรงงานต่างด้าวแสดงออกอย่างเด่นชัดว่า เริ่มจากความปรารถนาดี แต่เป็นความปรารถนาดีซึ่งไม่ยืนอยู่กับสภาพความเป็นจริง
แทนที่ความปรารถนาดีจะเป็นเรื่องดี กลับกลายเป็นพิษและสร้างปัญหา
บังเอิญที่ปัญหาอันเกิดตามมาอย่างฉับพลันทันใดตกกระทบกับสังคมและธุรกิจโดยรวม จึงก่อให้เกิดความเดือดร้อนอย่างชนิดที่เรียกว่าไปทุกหย่อมย่าน
การก่อสร้างหยุดชะงัก การประมงเป็นอัมพาต ร้านอาหารและสถานบริการขาดกำลังคน
แม้ว่าจุดเริ่มของกระทรวงแรงงาน จุดเริ่มของ ครม. อันเป็นองค์กรตัดสินใจของรัฐบาลจะเปี่ยมด้วยความปรารถนาดีสักเพียงใด แต่เมื่อไม่ยืนอยู่กับข้อเท็จจริง ขาดการศึกษาผลดี ผลเสียอย่างสมบูรณ์ครบถ้วน ในที่สุดเจตนากับผลก็ไม่เป็นเอกภาพกัน
ความปรารถนาดีจึงกลายเป็นผลร้าย ผลเสีย เท่ากับเป็นการสร้างและขยายปัญหาอย่างใหม่ขึ้นมาในท่ามกลางความเดือดร้อน
เจตนาดี ยังไม่พอ
ต้องอยู่กับความจริง
ไม่มีใครปฏิเสธว่าพื้นฐานของพระราชกำหนดว่าด้วยแรงงานต่างด้าวมาจากความรัก ความปรารถนาดีที่จะจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว เพื่อสร้างภาพลักษณ์ประเทศให้หลุดพ้นจากกระบวนการการค้ามนุษย์อันเลวร้าย
แต่เมื่อความปรารถนาดีนี้มิได้ดำรงอยู่กับสภาพความเป็นจริงที่แรงงานต่างด้าวมีบทบาทเป็นอย่างสูงอยู่ในสังคมไทย
จึงมิได้เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ กลับกลายเป็นปัญหาขึ้นมาใหม่
การแปรแนวคิดไปสู่นโยบายไปสู่การปฏิบัติจึงไม่ควรเริ่มต้นจากฐานแห่งความปรารถนาดีอย่างด้านเดียว แต่ควรนำเอาความปรารถนาดีนั้นไปศึกษาและทำความเข้าใจกับสภาพความเป็นจริงให้ถ่องแท้สมบูรณ์
แปรความไม่รู้ให้กลายเป็นความรู้ แปรอวิชชาให้กลายเป็นวิชชา