เสถียร จันทิมาธร วิถีแห่งอำนาจ/แรกประสบ อึ้งเอี๊ยะซือ

เสถียร จันทิมาธร

วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร

แรกประสบ อึ้งเอี๊ยะซือ (93)

เที้ยเอ็งตีหินเหล็กไฟจุดเทียนไขหมอบกราบกับพื้นคำนับต่ออึ้งเอี๊ยะซือ ซือแป๋ เรียนบอกความเป็นมาของเอี้ยก่วย เล็กบ้อซัง โดยสังเขป

อึ้งเอี๊ยะซือยิ้มพลางกล่าว

“เจ้าช่วยชีวิตธิดากับหลานสาวเราโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยส่วนตัว นับเป็นเด็กอันประเสริฐจริงๆ”

ที่แท้อึ้งเอี๊ยะซือได้พบอึ้งย้ง ล่วงรู้รายละเอียดของเรื่องราว

อึ้งเอี๊ยะซือล้วงยารักษาบาดเจ็บบอบช้ำให้เอี้ยก่วยรับประทาน ทั้งยังโคจรพลังนวดเฟ้นกรุยเลือดลมให้

เอี้ยก่วยรู้สึกว่า มือของอึ้งเอี๊ยะซือพอเลื่อนผ่านคล้ายถูกไฟจี้ใส่ ในร่างกายบังเกิดปฏิกิริยาต่อต้านตามสัญชาตญาณ อึ้งเอี๊ยะซือพบว่าผิวหนังของเอี้ยก่วยสั่นสะเทือนคราวหนึ่ง จากนั้นรับรู้ถึงการเต้นของชีพจรแสดงว่ามีพลังการฝึกปรือเหนือธรรมดา

จึงเพิ่มพลังที่มือ

โคจรพลังอยู่ชั่วหม้อข้าวเดือด เอี้ยก่วยรู้สึกแขนขาปลอดโปร่ง สบายสุดเปรียบปานกลับเคลิ้มหลับไปโดยไม่รู้ตัว

วันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมา เอี้ยก่วยพอลืมตาก็เห็นอึ้งเอี๊ยะซือนั่งอยู่หัวเตียง จึงรีบลุกขึ้นคารวะ คำแรกที่อึ้งเอี๊ยะซือเอ่ยขึ้นคือ

“เจ้าทราบหรือไม่ว่ายุทธจักรขนานฉายาเราว่าอะไร”

“ผู้อาวุโสเป็นประมุขเกาะดอกท้อ”

“ยังมีอีก”

ในความรู้สึกของผู้เยาว์อย่างเอี้ยก่วย คำว่า “ภูตบูรพา” ไม่สะดวกกับการกล่าวจากปาก แต่แล้วครุ่นคิด ในฉายาของอึ้งเอี๊ยะซือเมื่อมีคำว่า “ภูต” ย่อมมีนิสัยใจคอแตกต่างจากคนทั่วไป ดังนั้น จึงปลุกปลอบกำลังขวัญกล่าวขึ้น

“ท่านคือภูตบูรพา”

อึ้งเอี๊ยะซือหัวเราะฮาฮา “มิผิด เราฟังว่าเจ้ามีพลังฝีมือใช่ชั่ว จิตใจก็ระอุคุกรุ่น พฤติการณ์กลับประหลาดพิกลเหลือร้าย ทั้งยังฟังว่าเจ้าคิดตบแต่งซือแป๋เจ้าเป็นภรรยา ใช่หรือไม่”

“ถูกแล้ว ทุกผู้คนล้วนห้ามข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าแม้ตายก็ขอตบแต่งนาง”

อึ้งเอี๊ยะซือได้ยินเอี้ยก่วยกล่าววาจาออกมาอย่างเด็ดเดี่ยว ห้าวหาญ ต้องเหม่อมองอย่างตะลึงลาน พลันแหงนหน้าหัวร่อดังๆ สั่นสะเทือนจนหญ้าคาบนกระท่อมไหวสั่นเกรียวกราว

เป็นการพบที่ท้าทาย เป็นการพบที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจ

เห็นอาการหัวร่ออย่างสะสาแก่ใจของอึ้งเอี๊ยะซือเช่นนั้น เอี้ยก่วยแม้ประหลาดใจแต่ก็ไม่พอใจและมีความข้องใจ

“มีอันใดน่าหัวร่อ” กระชากเสียงถาม

“ข้าพเจ้ายังเข้าใจว่าท่านมีฉายาภูตบูรพาคงต้องมีความคิดอ่านอันเลิศลอย หาคาดไม่ว่ากลับไม่แตกต่างกับผู้คนชาวโลก”

“ประเสริฐ ประเสริฐ ประเสริฐ”

กล่าวคำ “ประเสริฐ” ติดต่อกันหลายคำ แล้วก็หันกายเดินออกจากห้องไป สร้างความตะลึงลานให้กับเอี้ยก่วยยิ่ง

ครุ่นคิดขึ้น “คำพูดของเรานับว่าล่วงเกินแต่เขาไฉนไม่มีโทสะ”

เป็นธรรมดาที่ผู้เยาว์อย่างเอี้ยก่วยเพิ่งรู้จักคนอย่างอึ้งเอี๊ยะซือ จึงย่อมไม่เข้าใจ แต่ก็เป็นความไม่เข้าใจในท่ามกลางความตื่นตะลึง

เหมือนกับเป็นเงาสะท้อนของ “ช่องว่าง” ระหว่างคน “ต่างวัย”

เหมือนกับเป็นเรื่องไม่อยู่เหนือความคาดหมาย ไม่ว่าจะมองจากอึ้งเอี๊ยะซือ ไม่ว่าจะมองจากเอี้ยก่วย

เขาทั้ง 2 ล้วนมีคนเข้าใจผิดเสมอๆ

การพบระหว่างเอี้ยก่วยกับอึ้งเอี๊ยะซือทรงความหมายและมีความสำคัญเป็นอย่างสูงในยุทธจักรบู๊ลิ้มซึ่งมากด้วยความหลากหลาย

เท่ากับอึ้งเอี๊ยะซือได้สัมผัสคลื่นลูกใหม่

ขณะเดียวกัน เท่ากับเอี้ยก่วยได้ทะยานเข้าไปในจอมยุทธ์อันถือเป็น “ตำนาน” และมากด้วยความสลับซับซ้อนทางอารมณ์

สลับซับซ้อนไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า “อาวเอี้ยงฮง”