สมุนไพรเพื่อสุขภาพ / โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง/ฟ้าทะลายโจรราชาแห่งรสขม สมคำพังเพย ‘หวานเป็นลมขมเป็นยา’ (2)

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ/โครงการสมุนไพรเพื่อการพึ่งตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org

ฟ้าทะลายโจรราชาแห่งรสขม

สมคำพังเพย ‘หวานเป็นลมขมเป็นยา’ (2)

 

กล่าวในตอนที่ 1 ถึงศาสตร์การแพทย์แผนไทยให้เรียนรู้รสของเภสัชวัตถุ ทั้งที่เป็นพืชวัตถุ สัตว์วัตถุ และธาตุวัตถุ ซึ่งคือศิลปะของการประกอบโรคศิลปะ ที่ย่อมต้องรู้จักพิจารณาใช้รสยาจากสมุนไพรต่างๆ มาใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคตามสมควร

ในคัมภีร์ฉันทศาสตร์ ว่าด้วยคัมภีร์ตักกะศิลากล่าวถึงโรค “ห่าลงเมือง” หรือโรคระบาดร้ายแรง ประเภทไข้พิษ ไข้กาฬ ไข้เหนือ ซึ่งรวมถึงไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดน้อย กล่าวว่า “ถ้ายังไม่รู้ว่าจะใช้ยาอะไรแก้ไข้ตักกะศิลา ก็ให้ใช้พืชยาสมุนไพรทั้งหลายที่มีรสประธาน ‘เย็นเป็นอย่างยิ่ง’ และมี ‘รสขมจริง’ รวมทั้งพืชยาที่มี ‘รสฝาด’ กับ ‘รสจืด’ ด้วยก็ได้”

ซึ่งฟ้าทะลายโจรตรงคอนเซ็ปต์ เย็นจริง ขมจริง

ในคัมภีร์วรโยคสารว่าด้วยรสลักษณะ 6 รสนั้น ท่านแจกแจงสรรพคุณของรสขมไว้ละเอียดพอสมควรว่า “รสขมนั้นให้เจริญไฟธาตุ แก้ร้อน แก้กระหายน้ำ กระทำซึ่งมลทิน (สิ่งสกปรก) คือมูตร (น้ำปัสสาวะ) แลคูถ (อุจจาระ) เป็นต้น ให้บริสุทธิ์ ชำระปากให้รู้รสอาหาร” ซึ่งเป็นการขยายสรรพคุณรสขมตาม “รส 9” ของคัมภีร์ฉันทศาสตร์ ที่ว่ารสขมช่วยแก้โรคอันเกิดจาก “ดีและโลหิต” ผิดปกติ

ตรงนี้จะสังเกตเห็นความย้อนแย้งในสรรพคุณรสขมของฟ้าทะลายโจร คือในขณะที่เป็นยาเย็นแก้ไข้ ดับไฟร้อน แต่ก็ช่วยเจริญไฟธาตุช่วยย่อยอาหาร และช่วยให้รู้รสอาหารอีกด้วย

แพทย์อายุรเวทและยูนานิของอินเดียจึงใช้สมุนไพรที่มีชื่อในภาษาฮินดีว่า “กิรายัต” (Kirayat) หรือ “กัลปานัธ” (Kalpanath) เพื่อเป็นยาขมช่วยให้ผู้ป่วยเจริญอาหารและรู้รสอาหารในช่วงที่เพิ่งฟื้นจากไข้ด้วย

สมุนไพรสายพันธุ์อินเดียดังกล่าวที่แท้ก็มีชื่อวิทยาศาสตร์เช่นเดียวกับสมุนไพรไทยฟ้าทะลายโจรว่า Andrographis paniculate นั่นเอง

โควิด-19 นอกจากทำให้มีไข้แล้ว ยังทำให้จมูกไม่รับกลิ่น ลิ้นไม่รู้รสอีกด้วย

ดังนั้น รสขมของฟ้าทะลายโจร จึงน่าจะใช้แก้อาการลิ้นไม่รู้รสอันเกิดจากโควิด-19 ได้อีกสรรพคุณหนึ่ง

 

อันที่จริง ฟ้าทะลายโจรน่าจะเป็นพืชพันธุ์สมุนไพรที่นำเข้ามาปลูกในไทยนานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว นานกว่าเห็ดหลินจือ หญ้าปักกิ่งและเจียวกู่หลานสมุนไพรเดี่ยวที่หมอไทยหลายท่านก็นิยมกันอยู่

จึงไม่ควรรังเกียจสมุนไพรที่แปลงชื่อแปลงสัญชาติเป็นไทยแล้วอย่างฟ้าทะลายโจร ซึ่งยังมีชื่อเรียกเป็นภาษาไทยอีกหลายชื่อ ตามภาษาปากของแต่ละท้องถิ่นทั่วไทยแลนด์

เช่น ชาวกรุงเทพฯ เรียกฟ้าทะลายโจร ฟ้าทะลาย น้ำลายพังพอน คนภาคกลางเรียกขุนโจรห้าร้อย ชาวร้อยเอ็ดเอิ่นว่า สามสิบดี เขยตายแม่ยายคลุม ชาวพนัสนิคมเรียกว่าฟ้าสาง สงขลาว่าหญ้ากันงู ยะลาว่าเมฆทะลาย และพัทลุงเรียกฟ้าสะท้านและแถมยังมีชื่อเรียกฟังเสียวหูว่า ฉีกะฉาว

จึงไม่แปลกที่หมอพื้นบ้านไทยเลือกสรรสมุนไพรฟ้าทะลายโจรเข้าตำรับยาหลายสูตร

ยกตัวอย่าง เช่น หมอพื้นบ้านพัทลุง ท่านใช้ฉีกะฉาวในสูตรตำรับยาแก้ไข้ ประกอบด้วย ฉีกะฉาว (ฟ้าทะลายโจร) ย่านเจ็ดหมูน (บอระเพ็ด) ผักเสี้ยนผี กระชายดำ ปราบดิน (โด่ไม่รู้ล้ม) บดผงละลายน้ำผึ้งรวง กินแก้ไข้

ส่วนตำรับยาแก้ไอเรื้อรัง หมอพื้นบ้านท่านก็ยักย้ายฟ้าทะลายโจรเข้าสูตรยาที่มีส่วนประกอบ ฟ้าทะลายโจร กรดน้ำ บานไม่รู้โรยป่า หญ้าใต้ใบ หรือหมอพื้นบ้านเมืองแพร่ท่านใช้ฟ้าทะลายโจรในสูตรตำรับยาแก้หอบหืด คือ ฟ้าทะลายโจร สมอไทย ตำแยแมว มะแว้ง มะขามป้อม รากทองพันชั่ง ชะเอมเทศ อ้อยสามสวน มะนาวแทรกเกลือ

และยังมียาหมอพระเมืองแพร่แก้ปวดเยี่ยวขัด มีสูตรยาดังนี้ ฟ้าทะลายโจร หญ้าหนวดแมว โด่ไม่รู้ล้ม ไม้ตีนนก หญ้าเล็บมือ (ชุมเห็ดเทศ) หญ้าควยงู (หญ้าพันงูขาว) และเครือหนำแน่ (เถารางจืด) เป็นต้น

นี่ถ้าหมอพื้นบ้านไทยสามารถพัฒนาสูตรตำรับยาฟ้าทะลายโจรโค่นโควิด-19 ได้สำเร็จ สมุนไพรฟ้าทะลายโจร อาจจะมีชื่อเท่อีกฉายาหนึ่งว่า “ฟ้าทะลายโควิด” ก็เป็นได้นะ จะบอกให้

 

จะเห็นได้ว่าหมอพื้นบ้านท่านรู้จักนำพืชพันธุ์อาคันตุกะรสขมอย่างฟ้าทะลายโจรมาปรุงเป็นตำรับยาพื้นบ้านมานานแล้ว

ในขณะหมอยาตำราหลวงยังกอดตำราอยู่ไม่เรียนรู้ปรับใช้ยาสมุนไพรที่มีประโยชน์โดยใช้หลักสรรพคุณตามรสยา

แม้ในคณะเภสัชของแพทย์แผนไทยเองที่นับพิกัดยาตั้งแต่ขั้น จุลพิกัด คือเน้นตัวยาตรง เพียง 2 อย่าง ก็เพียงพอที่จะใช้ปรุงยาง่ายๆ รักษาอาการโรคได้ ซึ่งยาจุลพิกัด ไม่จำเป็นต้องประกอบด้วยสมุนไพรคนละชนิด แต่อาจใช้สมุนไพรเพียงตัวเดียว จากส่วนเดียวกัน ต่างกันเพียงอายุการเก็บมาใช้เท่านั้น

เช่น จุลพิกัด พริกไทยทั้ง 2 ประกอบด้วย พริกไทยดำกับพริกไทยล่อน (พริกไทยขาว) เป็นต้น

ถ้าแพทย์จะตั้งพิกัดยาฟ้าทะลายโจรเป็นจุลพิกัดก็ได้ เช่น ฟ้าทะลายโจรทั้ง 2 ประกอบด้วย ฟ้าทะลายโจรไทยกับฟ้าทะลายโจรเทศ (ที่นำเข้าจากจีน อินเดียหรือบังกลาเทศ) ก็ได้ เป็นต้น

ขณะนี้มีการแปลงโฉมสมุนไพรฟ้าทะลายโจรจากยาแผนโบราณ แก้ไข้ แก้เจ็บคอ แก้ท้องเสีย ยกระดับขึ้นเป็นยาใหม่ในบัญชียาหลักแห่งชาติอย่างน้อยอีก 2 ตำรับที่ใช้ผงฟ้าทะลายโจร และสารสกัดชื่อฝรั่งว่า แอนโดรกราโฟไลด์ เพื่อให้แพทย์แผนปัจจุบันสามารถใช้เป็นยาร่วมรักษาโรคโควิด-19 ที่กำลังระบาดใหญ่อยู่เวลานี้

จึงเป็นโอกาสดีที่กระทรวงสาธารณสุขจะสนับสนุนให้แพทย์แผนไทยร่วมกับแพทย์แผนปัจจุบันเป็นสหวิชาชีพทางการแพทย์เพื่อใช้ฟ้าทะลายโจร รักษาไข้โควิด-19 ซึ่งน่าจะจัดอยู่ในจำพวกไข้ตักกะศิลาหรือโรคห่าลงปอดที่แก้ได้ด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย

ตัดโควิดแต่ต้นไข้ ตัดไฟแต่ต้นลม โดยเปิดกว้างนำเอาสมุนไพรต่างๆ มาพัฒนาต่อยอดสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อกอบกู้ประเทศไทยให้รอดจากมหันตภัยโควิด-19 โดยเร็ว ร่วมกับมาตรการเร่งระดมฉีดวัคซีนทั่วโลกที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้