การ์ตูนที่รัก/เจ้าชายกบ

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

เจ้าชายกบ

Charlotte “Lotte” Reiniger (1899-1981) สร้างเจ้าชายกบ (The Frog Prince) สองครั้ง ครั้งแรกในปี 1954 เป็นการ์ตูนเงา (silhouette animation) และครั้งที่สองในปี 1961 เป็นการ์ตูนสี

เจ้าชายกบเป็นนิทานกริมม์ เป็นหนึ่งในนิทานที่ถูกใช้เป็นกรณีศึกษาจิตวิเคราะห์ของฟรอยด์มากที่สุดเรื่องหนึ่ง ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้าใจง่ายและสามารถแสดงถึงโครงสร้างของจิตใจ

การ์ตูนเงาเจ้าชายกบของล็อตเต้ฉบับปี 1954 มีความยาว 10 นาที เล่าเรื่องเหมือนนิทานกริมม์ยกเว้นในตอนท้ายก่อนที่กบจะกลายร่างเป็นเจ้าชายกบ

ฉบับการ์ตูน พระราชามีพระธิดา 3 องค์ พระราชาได้ลูกบอลทองคำมาลูกหนึ่งซึ่งมีคำทำนายว่าจะนำทางพระธิดาองค์หนึ่งไปพบเนื้อคู่

พระราชาโยนลูกบอลให้พระธิดาองค์โต องค์โตทำหล่น โยนให้องค์รอง องค์รองทำตก โยนให้องค์สุดท้อง องค์สุดท้องรับไว้ได้ พระราชาจึงพระราชทานลูกบอลทองคำให้แก่พระธิดาองค์สุดท้อง แต่พระธิดาทำลูกบอลตกบ่อน้ำหายไป

กบตัวหนึ่งอาสาจะลงไปงมเอาลูกบอลขึ้นมาให้ แต่ขอสัญญาจากพระธิดาว่าจะรับกบไปอยู่ด้วย ร่วมโต๊ะอาหาร และเล่นด้วยกัน

เนื้อเรื่องตอนนี้ไม่ตรงกับนิทานกริมม์ ในนิทานกริมม์กบจะขอนอนเตียงเดียวกันอีกด้วย

พระธิดาให้สัญญา กบจึงกระโดดลงไปในบ่อน้ำลึก แล้วเอาลูกบอลทองคำจากก้นบ่อขึ้นมาให้พระธิดา

พระธิดาดีใจมากคว้าลูกบอลได้ก็วิ่งกลับไปวังเพื่อเสวยอาหารร่วมกับพระราชา

ระหว่างที่พระราชาเสวยอาหารร่วมกับพระธิดาทั้งสามนั้นเอง กบมาเคาะประตูที่หน้าพระราชวังเพื่อทวงสัญญาขอทานอาหารโต๊ะเดียวกัน

เมื่อทหารยามเข้ามารายงานเรื่องราวให้แก่พระราชา พระราชาถือคำสัญญาเคร่งครัดมีรับสั่งให้พระธิดาทำตามสัญญาห้ามบิดพลิ้ว

กบจึงได้ร่วมโต๊ะอาหารกับพระธิดาและพระราชา จากนั้นจึงเต้นรำให้พระราชาดู พระราชาพอใจกบเป็นอันมาก

พระธิดาทนไม่ไหวขอตัวไปนอน กบตามไปที่หน้าห้องนอนขอเข้าไปในห้องนอนด้วย พระธิดาไม่ยินยอม กบจึงกลายร่างเป็นเจ้าชายรูปงาม พระธิดาดีใจก็เปิดประตูรับเจ้าชายเข้าไปนอนด้วยกันสุขสันต์นิรันดร ง่ายๆ เช่นนี้เอง

ความตอนท้ายนี้ไม่ตรงกับนิทานกริมม์อีก ในนิทานกริมม์พระธิดาเหลืออดที่กบกำเริบเสิบสานกระโดดขึ้นมานอนบนเตียงจึงคว้ากบขว้างไปที่กำแพง กบกระแทกกำแพงอย่างแรงตกลงมากลายเป็นเจ้าชายกบ

ไม่เคยมีเจ้าหญิงจุมพิตกบในนิทานกริมม์

จิตวิเคราะห์ของฟรอยด์อธิบายดังนี้

พระธิดาเป็นคนสุดท้อง เพิ่งจะแตกวัยสาวและเป็นพรหมจรรย์ แต่ด้วยแรงปรารถนาทางเพศที่อยากจะสมสู่ ทั้งเรื่องที่ลูกบอลทองคำคือเครื่องมือที่จะพาหล่อนไปพบชายที่หมายปอง หรือเพราะกบเองที่มีรูปร่างภายนอกเหมือน phallus (องคชาต)

แรงปรารถนานี้คือความอยาก (id) ทำให้หล่อนรับปากกบโดยไม่คิด คิดแต่จะเอาลูกบอลคืนมาโดยไม่ระวัง ไม่ทันเฉลียวใจว่ากบมีหน้าตาและรูปร่างน่าเกลียดพิลึกพิลั่นเพียงใด

คนเราเป็นแบบนี้ อยากขึ้นมาก็หน้ามืด ไม่ว่าจะเป็นอยากได้เงิน ชื่อเสียง ลาภยศหรือตัณหาใดๆ ลืมหมดสิ้นซึ่งเหตุผล

เมื่อพระธิดาได้ลูกบอลคืนมาแล้ว แรงปรารถนาผ่อนคลายลง รู้ตัวว่าได้สัญญาอะไรพล่อยๆ ไปจึงวิ่งหนี

แต่พระราชาตรัสว่า “สัญญาต้องเป็นสัญญา” กดดันพระธิดามิให้ทำอะไรตามอำเภอใจ พระธิดาจำใจรับกบร่วมโต๊ะอาหาร

กบดีใจเต้นรำให้ดู แต่จะเต้นยังไงก็เป็นกบเต้น นั่นทำให้พระธิดาอึดอัดคับข้องใจ (frustration) เป็นอันมาก เพราะที่แท้แล้วจิตใต้สำนึก (unconscious) ยังอยากจะสมสู่ แต่ตนเองพยายามสะกดเอาไว้ด้วยมาตรฐานทางศีลธรรม (superego)

คนเราเป็นแบบนี้ อยากมีอยากได้ อยากปล้ำสารพัด แต่คนมิใช่สัตว์ เรามีกติกาทางสังคมและมาตรฐานทางศีลธรรมด้วยเสมอ ทำให้เกิดข้อขัดแย้งในจิตใจอยู่เนืองๆ

เมื่อพระธิดาเข้าห้องนอน กบตามไปที่หน้าประตูห้องนอนทวงสัญญาว่าพระธิดารับปากว่าจะรับไว้อยู่ด้วย พระธิดายิ่งทวีความอึดอัดคับข้องใจมากยิ่งขึ้น

ด้านหนึ่งเป็นความปรารถนาจะสมสู่

อีกด้านหนึ่งก็คอยหักห้ามใจเอาไว้ เมื่อความขัดแย้งในใจ (conflict) ถึงที่สุดจึงคว้ากบขว้างใส่กำแพง กบกลายเป็นเจ้าชายรูปงาม

ความขัดแย้งคลี่คลาย พระธิดาได้สมสู่อย่างถูกต้องเพราะตนเองได้แสดงให้เห็นถึงการประนีประนอมระหว่าง id และ superego แล้ว

คนเราเป็นแบบนี้ จิตใจ (mind) หรือตัวตน (self) หรืออีโก้ (ego) จะทำหน้าที่ประสาน id และ superego เข้าด้วยกันแล้วหาทางออกในที่สุด ถ้าพระธิดารับรักกบแต่แรกก็ออกจะร่านสวาทมากไป

ถ้าหักห้ามใจไว้สำเร็จก็ออกจะเก็บกดมากไป

แต่พอแสดงความเกรี้ยวกราดด้วยการขว้างกบไปกระทบกำแพงเพื่อให้ตนเองสบายใจว่าพยายามแล้ว ถึงตอนนี้ก็ถึงเวลาเสพสมอย่างมีความสุข

นิทานเจ้าชายกบได้แสดงให้เห็นด้วยว่ามาตรฐานทางศีลธรรมส่วนหนึ่งมาจากพ่อแม่ แต่ก็เป็นมาตรฐานทางศีลธรรมที่ฟังแล้วปวดหัวได้เสมอๆ

เป็นพระราชาที่ให้ลูกบอลทองคำเพื่อจะได้มีคู่ เป็นพระราชาที่บังคับให้รักษาสัญญา พระธิดาก็อยากจะมีคู่แต่มิได้อยากมีคู่หน้าตาเหมือนกบ กริยาขว้างกบปะทะกำแพงเป็นกริยาที่เด็กๆ จำเป็นต้องทำเพื่อก้าวผ่านไปเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว

การ์ตูนของล็อตเต้ตัดท่อนขว้างกบนี้ออกไป

ถึงปี 1961 ล็อตเต้สร้างเจ้าชายกบอีกครั้งเป็นการ์ตูนสีไม่มีบทพูด เงาดำที่ฉากหน้าอันเป็นเอกลักษณ์กลายเป็นภาพสี ส่วนฉากหลังยังคงเอกลักษณ์เดิมคือเป็นภาพนิ่งเว้นแต่ว่าเป็นภาพสีด้วย

การ์ตูนปี 1961 นี้ยาวเพียง 5 นาที เล่าเรื่องเฉพาะตอนที่กบลงไปงมหาลูกบอล มันต้องผ่านกุ้งหอยปูปลามากมาย จิ้งเหลนก็มี ก่อนที่จะต้องต่อสู้กับราชาปลาหมึกยักษ์ในตอนจบ

เป็นการ์ตูนสีสองมิติที่ออกจะประดักประเดิดมากเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีสร้างหนังในปี 1961

ปี 1961 ดิสนีย์สร้างทรามวัยกับไอ้ด่าง (101 Dalmatians) แล้ว