2503 สงครามลับ สงครามลาว (32)/บทความพิเศษ พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

บทความพิเศษ

พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

 

2503 สงครามลับ

สงครามลาว (32)

 

บันทึก “เชลยศึกทรหด” ของ พ.อ.ชัยชาญ หาญนาวี ต่อไป…

“ผมเกิดความคิดเข้ามาในสมองแวบหนึ่งว่า ในเครื่องบินยังมีระเบิดมืออยู่ถุงหนึ่ง คงประมาณสัก 4 หรือ 5 ลูก แต่ความคิดระลอกหนึ่งบอกให้รู้ว่า คนโง่เท่านั้นที่จะกระทำการในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนั้น ชีวิตตัวเองอยู่ตรงปากกระบอกปืนของข้าศึกรอบข้างเช่นนี้ อย่าว่าแต่จะเอื้อมมือไปหยิบเอาระเบิดมาถอดสลักนิรภัยแล้วก็ขว้างออกไปเลย แม้แต่จะขยับตัวเพียงนิดเดียวหรือเพียงหายใจแรงไปหน่อยเท่านั้น ก็อาจจะโดนยิงทิ้งทันที”

“วันพระไม่ได้มีหนเดียว หนหน้ายังมี และโลกใบนี้คงไม่ให้คนที่แพ้ในวันนี้ต้องเป็นผู้พ่ายแพ้ตลอดไปหรอกนะ”

“ฐานะเชลยศึกของผมและนักบินอเมริกันก็เริ่มต้นตั้งแต่วินาทีนั้น และเป็นวินาทีของการเริ่มต้นของชีวิตที่ต้องต่อสู้อย่างยืดยาว จากวินาทีเป็นนาที เป็นชั่วโมง เป็นวัน เป็นเดือน และเป็นปี จนกระทั่งเกือบ 10 ปี”

วันนั้น 21 พฤษภาคม 2508 พ.อ.ชัยชาญ หาญนาวี อายุ 34 ปี ยศสิบเอก

 

กองทัพบกกับ “สงครามลับในลาว”

แรกเริ่มที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ตัดสินใจให้ความช่วยเหลือรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรลาวนั้น ตำรวจพลร่มจากค่ายนเรศวร หัวหิน ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของสงครามกองโจรมาตั้งแต่ครั้งถือกำเนิดเมื่อ พ.ศ.2494 เป็นหน่วยติดอาวุธหน่วยแรกที่ถูกส่งเข้าไปปฏิบัติภารกิจลับในลาวเมื่อปลายปี พ.ศ.2503

ต่อมาเมื่อกองทัพบกพร้อม จึงเริ่มส่งชุดปฏิบัติการพิเศษเข้าไปปฏิบัติภารกิจลับสุดยอดนี้ในลาว ซึ่ง ส.อ.ชัยชาญ หาญนาวี ก็เป็นหนึ่งในกำลังพลที่อาสาสมัครเข้าทำงานเสี่ยงอันตรายครั้งนี้ โดยได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติงานที่เมืองเชียงลม แขวงไชยบุรี ตอนเหนือของประเทศลาว ใกล้ชายแดนไทยด้านจังหวัดน่าน มีภารกิจฝึกอบรมชาวบ้านในการต่อสู้กับฝ่ายคอมมิวนิสต์

จนกระทั่งถูกข้าศึกจับตัวได้พร้อมเพื่อนนักบินอเมริกันเมื่อ 21 พฤษภาคม 2508

 

เกียรติยศจากสหรัฐ

เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2562 นายเกล็น ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อการจากไปของ พ.อ.ชัยชาญ หาญนาวี ความว่า

ในนามของสหรัฐอเมริกา ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว ญาติมิตร และสหายผู้เคยร่วมรบของ พ.อ.ชัยชาญ หาญนาวี ในการถึงแก่กรรมของท่านเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่จังหวัดลพบุรี

พ.อ. “ชิพ” ชัยชาญ เป็นทหารรบพิเศษแห่งกองทัพไทย ผู้ตกเป็นเชลยศึกที่ถูกคุมขังยาวนานที่สุดที่เรือนจำฮัวโล หรืออีกชื่อคือ “ฮานอย ฮิลตัน” ในกรุงฮานอย เมื่อช่วงสงครามเวียดนาม นานกว่า 10 ปี และเป็นเชลยศึกผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกันกับวุฒิสมาชิกสหรัฐ จอห์น แม็กเคน, พล.ร.อ.เจมส์ สตอกเดล และเหล่าทหารผู้กล้าอีกหลายนาย ซึ่งต่อมาท่านได้รับเหรียญกล้าหาญ ซิลเวอร์ สตาร์ และเครื่องอิสริยาภรณ์ ลีเจียน ออฟ เมอริต จากสหรัฐ ซึ่งเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติและความกล้าหาญของท่านที่ได้ช่วยเหลือเชลยศึกชาวอเมริกันมากมายที่ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำ

โดยเจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันที่ประจำอยู่ที่ประเทศไทยต่างรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รู้จักกับ พ.อ.ชัยชาญ ท่านเป็นผู้ที่มีความกล้าหาญ ถ่อมตน และเฉลียวฉลาดเป็นอย่างยิ่ง ดังคำกล่าวของผู้แต่งที่ไม่ปรากฏนามซึ่งอธิบายช่วงชีวิตของทหารกล้าผู้นี้ได้เป็นอย่างดีว่า “ผู้ที่กล้าหาญเผชิญได้แม้ความตาย แต่ผู้ที่อยู่กับความหวาดกลัวก็เปรียบเสมือนใช้ชีวิตอย่างสูญเปล่า”

kapook.com 30 กรกฎาคม 2560 ได้สรุปที่มาของการยกย่องจากสถานทูตอเมริกาดังนี้

พ.อ.ชัยชาญ หาญนาวี เกิดที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้ารับราชการทหารตำแหน่งทหารพลร่มของกองรบพิเศษที่ 1 ค่ายวชิราลงกรณ์ จังหวัดลพบุรี และได้ถูกส่งไปรบในลาวเป็นพลวิทยุ

จากนั้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2508 มีนักบินอเมริกันกลุ่ม Air America ชวน พ.อ.ชัยชาญไปเป็น Spotter เดินทางโดยเครื่องบินจากเชียงลมไปส่งเสบียงตามฐานในลาว ปรากฏว่าถูกยิงเครื่องตก ทหารในเครื่องเสียชีวิตหมด เหลือเพียงท่านกับนักบิน แม้พยายามหลบหนี แต่สุดท้ายถูกจับได้ ถูกนำไปขังที่ค่ายเดียนเบียนฟู ซึ่งคนไทยรู้จักดีจากภาพยนตร์ “แหกค่ายนรกเดียนเบียนฟู” โดยถูกซ้อมอย่างหนัก อย่างทารุณและโหดร้าย ถูกจับใส่ขื่อคาอยู่นานถึง 2 ปี 10 เดือน ต้องนอนแช่อุจจาระ แช่ปัสสาวะของตัวเอง ได้อาบน้ำเดือนละครั้ง ไม่ได้พูดไม่ได้คุยกับใครเป็นเวลาถึง 5 ปี เนื่องจากถูกขังเดี่ยว และสุดท้ายต้องถูกเข้าห้องมืดอีก 6 เดือน

แต่เขาผ่านมันมาได้ด้วยจิตใจอันเด็ดเดี่ยว ด้วยเกียรติของชายชาติทหาร ความกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่ง

หลังจากนั้นถูกส่งไปที่ค่ายในฮานอย 1 ปี ได้รับหน้าที่เป็นคนทำความสะอาด จึงทำให้ได้พบปะเชลยศึกคนอื่น จนไปเจอเชลยนักบินเวียดนามใต้ แต่ยังสื่อสารไม่รู้เรื่อง ต้องใช้ภาษามือกัน จนกระทั่งท่านเรียนรู้ภาษาได้บ้าง นายทหารเวียดนามก็ให้ท่านช่วยแอบขโมยกระดาษ ดินสอ ส่งกระดาษรหัสลับติดต่อกับเชลยศึกคนอื่นๆ ซึ่งส่วนมากก็เป็นทหารอเมริกัน และแอบแบ่งอาหารให้เชลยคนอื่น โดยมีการสอน “Tap Code” ให้ท่าน และก็พยายามศึกษาภาษาอังกฤษจนใช้สื่อสารได้

การกระทำของท่านเสี่ยงต่อชีวิตมากเพราะถ้าโดนจับได้ตายสถานเดียว กระทั่งรัฐบาลอเมริกันเจรจากับเวียดนามเหนือ เรื่องให้ปล่อยตัวเชลยศึกจากคุกฮานอยฮิลตัน การเจรจาเป็นผลสำเร็จ เวียดนามจึงได้ปล่อยเชลยศึกกลับบ้าน

แต่ พ.อ.ชัยชาญยังไม่ได้รับการปล่อยตัว โดยถูกส่งไปที่ Pho Yen (ฟูเย็น) ซึ่งมีเชลยศึกทหารไทยอยู่ 216 นาย ในระหว่างที่อยู่ที่นั่นถูกทรมานทารุณหนัก เพราะเวียดนามเหนือต้องการให้ท่านเกลี้ยกล่อมเชลยศึกไทยให้เป็นคอมมิวนิสต์ แต่ท่านไม่ยอม

หลายเดือนต่อมา อดีตเชลยศึกชาวอเมริกันที่ท่านช่วยไว้ก็ได้มีการถามไถ่กันว่ามีข่าวคราวว่า พ.อ.ชัยชาญไปอยู่ไหน เป็นอย่างไรบ้าง แต่ไม่มีใครรู้ พวกเขาจึงรวมตัวกันไปร้องเรียนต่อรัฐบาลอเมริกาให้ช่วยตามหา สุดท้ายหาเจอและนำไปสู่การเจรจากันระหว่างอเมริกา ไทย และเวียดนามเหนือ ให้ปล่อยเชลยศึกทหารไทย

สุดท้าย พ.อ.ชัยชาญจึงได้รับการปล่อยตัว หลังจากที่ถูกกักขังเป็นเวลา 9 ปี 4 เดือน 8 วัน นับเป็นเชลยศึกที่ถูกกักขังนานที่สุดในสงครามเวียดนาม แต่ทว่าเมื่อกลับมาถึงไทย ท่านก็ต้องพบเหตุการณ์หักมุมครั้งใหญ่ของชีวิต เมื่อพบว่าภรรยานั้นได้มีสามีใหม่ไปแล้ว และได้รับพระราชทานยศชั้นนายพัน เนื่องจากกองทัพไทยคิดว่าน่าจะเสียชีวิตไปในสงครามแล้ว

แต่เมื่อยังมีชีวิตอยู่ก็ได้กลับมารับราชการต่อไป เริ่มต้นด้วยยศร้อยเอก

จากนั้นอดีตเชลยศึกอเมริกัน นำโดยนาวาอากาศเอก Flynn ผู้บังคับบัญชา Lackland Air Force Base ได้เรียนเชิญท่านไปอเมริกาเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อเป็นการตอบแทนวีรกรรม โดยรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาได้มอบเหรียญกล้าหาญชั้น Silver Star (รองจากเหรียญกล้าหาญชั้นสูงชั้นเดียว) จัดพิธีสวนสนามกองทหารเกียรติยศ รวมทั้งได้จัดให้แขวนรูปถ่ายของท่านไว้ที่ Pentagon ใน Pentagon’s Hall of Heroes จะมีที่เรียกว่า Hall of Hero’s ซึ่งมีรูปถ่ายของทหารที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นวีรบุรุษแขวนไว้ ถือเป็นการเทิดทูนเกียรติอย่างสูงสุด และท่านเป็นทหารต่างชาติเพียงคนเดียวที่ได้รับเกียรติอันสูงส่งนี้ และยังได้เข้าเรียนที่ฐานทัพ Lackland Air Force Base เป็นเวลา 10 เดือน และได้ไปเรียนต่อที่ศูนย์สงครามพิเศษ Fort Bragg ทางด้านสงครามจิตวิทยาอีก 7 เดือน

เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2561 พ.อ.ชัยชาญป่วยเนื่องจากเส้นเลือดใหญ่ในสมองอุดตัน และเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ก่อนจะเสียชีวิตอย่างสงบในเวลา 23.45 น. ของวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ในวัย 87 ปี