เครื่องเสียง/พิพัฒน์ คคะนาท [email protected]

Sennheiser IE 900

Ultra Hi-Fi Earbuds

เพิ่งจะมีข่าวให้ฮือฮาวงการเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่ได้ประกาศขายหรือควบรวมกิจการด้านหูฟังให้กับ Sonova แบรนด์อุปกรณ์เครื่องช่วยฟังรายใหญ่ของสวิส (Sonova Holding AG) ที่มีนิยามของแบรนด์ว่า Hear the World ไปด้วยมูลค่า 200 ล้านยูโร

และยังไม่ทันที่ควันของข่าวฮือฮานั้นจะจางลง เมื่อไม่นานวันที่ผ่านพ้น Sennheiser ยักษ์ใหญ่ด้านโสตทัศนูปกรณ์ (Audio Visual Equipment) ของเยอรมนี ที่แวดวงเครื่องเสียงรู้จักกันดีในฐานะผู้ผลิตชุดหูฟังชั้นนำ ก็ได้ออกข่าวมาให้เป็นที่กล่าวขานถึงกันอีก

นั่นก็คือ ได้ประกาศเปิดตัวชุดหูฟังแบบ Earbuds ที่ให้คุณภาพเสียงซึ่งจะเป็นประสบการณ์ใหม่แก่ผู้ฟัง ด้วยคุณภาพเสียงระดับ Ultra Hi-Fi โดยมีกำหนดออกสู่ตลาดช่วงเดือนหน้า ซึ่งเวลานี้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานตัวแทนในสหรัฐอเมริกา ได้เปิดให้สั่งจองล่วงหน้าหรือ Pre-Order ได้แล้ว ด้วยสนนราคา US$1,299.95 (ไม่รวมภาษีท้องถิ่น)

มาถึงบ้านเรา, ไม่แน่ว่าจ่ายไปครึ่งแสน (บาท) จะมีเหลือทอนหรือเปล่า

 

ย้อนกลับไปที่ข่าวการขายกิจการหรือควบรวมกัน (บางส่วน) อีกสักเล็กน้อย ด้วยมีข้อตกลงหนึ่งคือส่วนที่เซ็นน์ไฮเซอร์ขายไปนั้น เป็นแผนก Consumer Audio Products ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ระดับ Professional ซึ่งส่วนใหญ่ใช้งานในกลุ่มมืออาชีพและสตูดิโอ อาทิ ไมโครโฟน ชุดหูฟังมอนิเตอร์ ตลอดจนอุปกรณ์ประเภท Audio Interface นั้น เซ็นน์ไฮเซอร์ยังคงเก็บเอาไว้ ด้วยเป็นธุรกิจอุตสาหกรรมหลักของบริษัท และในส่วนของชุดหูฟังนั้นได้ระบุเอาไว้ว่าจะหันไปพัฒนา และผลิตสินค้าในกลุ่มตลาดบนสุดที่เขาได้คำว่า Top-Tier แทน

และกับ Model IE 900 นี้จะเป็นผลิตภัณฑ์ระดับที่ว่า ซึ่งได้ออกแบบและถูกผลิตมาเพื่อชิมลางเป็นปฐมฤกษ์หลัง Deal เกือบหมื่นล้าน (บาท) จบหรือเปล่า, ก็มิทราบได้นะครับ

คราวนี้มาดูรายละเอียดของชุดหูฟังราคาประมาณครึ่งแสนตัวนี้กัน

 

สิ่งแรกที่เห็นและให้ต้องอุทาน (อยู่ในใจว่า – เฮ้ย) นี่มันเหมือนกับหันหลังให้หรือท้าทาย ‘เทรนด์’ ของชุดหูฟังแบบใช้งานสอดเข้าหูกันชัดๆ เลยนี่ (หว่า)

ด้วยสะดุดตาแรกที่ว่านั้นก็คือ ‘สาย’ ครับ ซึ่งในข่าวที่อ่านพบเจอบอกว่ามาพร้อม Cords (ไม่ได้ใช้คำว่า Cable) และนั่นก็หมายความว่านอกจากหูฟังชุดนี้จะไม่สนใจเทคโนโลยี Bluetooth แล้ว ยังเมินเฉยต่อความนิยมของตลาดชุดหูฟังแบบนี้ ที่ส่วนใหญ่มุ่งไปยังอุปกรณ์ที่เป็น TWS : Truly Wireless Stereo อีกด้วยนั่นเอง

แต่หลังความรู้สึกนั้นก็พอจะเข้าใจได้อยู่ล่ะนะครับ ที่เซ็นน์ไฮเซอร์รุ่นใหม่นี้ยังคงออกแบบลักษณะการเชื่อมต่อด้วยการใช้สาย เพราะเป็นที่ยอมรับกันว่าระบบเสียงที่ใช้การถ่ายโอนสัญญาณผ่านสายตัวนำนั้น จะให้คุณภาพเสียงออกมาได้ดีที่สุด

เพราะการออกแบบอุปกรณ์ที่ดี จะสามารถลดทอนการสูญเสียของรูปสัญญาณได้จนถึงระดับปราศจากนัยยะสำคัญ

ขณะที่การส่งผ่านสัญญาณข้อมูลแบบไร้สายนั้น แม้อุปกรณ์จะถูกออกแบบมาดีเยี่ยมเพียงไรก็ตาม ยังคงมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียจากปัจจัยภายนอกที่อยู่เหนือความควบคุมอยู่ดี อาทิ ความเสถียรของเครือข่ายรับ/ส่ง เป็นต้น

 

Sennheiser IE 900 มีโครงสร้างหลักที่ขึ้นรูปด้วยวัสดุอะลูมิเนียม (Aluminum Housing) ชิ้นเดียว แบบ Monocoque Chassis โดยผ่านการเจียรด้วยเครื่อง CNC : Computer Numerical Control ที่มีประสิทธิภาพสูง และมีความเที่ยงตรงสูงสุด พร้อมผ่านกระบวนการอะโนไดซ์มาอย่างประณีต พิถีพิถัน ก่อเกิดเป็นภาพลักษณ์ที่มีความสวยงามระดับประณีตศิลป์ ที่สามารถคงความเรียบหรูและให้ใช้งานได้ตราบนานเท่านาน

ภายในถูกออกแบบเป็นชั้นๆ ในลักษณะ Triple-Chamber ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองภายใต้รหัส T3CA ซึ่งมีชื่อเรียกเฉพาะว่า Three Helmholtz Resonator Chambers โดยมีคุณสมบัติทางด้านการเก็บซับเสียงที่ดี ช่วยให้ชุดตัวขับเสียงสามารถถ่ายทอดเสียงออกมาได้อย่างถูกต้อง เที่ยงตรง โดยปราศจากการเสริมหรือหักล้างคลื่นกันเองอย่างสิ้นเชิง สุ้มเสียงที่ออกมาให้ได้สัมผัสจึงมีความบริสุทธิ์ เสมอด้วยความเที่ยงตรงของสัญญาณทางไฟฟ้าที่ถูกป้อนเข้ามา

ชุดหูฟังรุ่นนี้ใช้ตัวขับเสียงที่เป็นตัวแปลงสัญญาณหรือ Transducer แบบไดนามิกที่เรียกว่า TrueResponse ขนาด 7 มิลลิเมตร โดยใช้เทคโนโลยี X3R ซึ่งเป็นนวัตกรรมและเป็นสิทธิบัตรเฉพาะ ผนวกเข้าไว้ด้วยงานวิศวกรรมที่ผ่านการบ่มเพาะประสบการณ์มาจนถึงระดับสุดยอด จึงสามารถทำงานให้การตอบสนองความถี่ออกมาได้ระดับ Extra Wide Band ที่นอกจากเก็บรายละเอียดสัญญาณเอาไว้ได้อย่างครบถ้วนแล้ว ยังสามารถถ่ายทอดออกมาได้หมดจดตั้งแต่ย่านความถี่ต่ำๆ ที่ต่ำลึก ต่อเนื่องไปจนถึงปลายเสียงแหลม หรือย่านความถี่สูงที่ทอดปลายไปได้ไกล โดยที่ยังคงรายละเอียดอันสมจริงเอาไว้โดยปลอดการเจือแต่งสีสันลงในน้ำเสียงอย่างสิ้นเชิง

โดยสามารถวัดค่าการทำงานด้านการตอบสนองความถี่ออกมาได้ในช่วง 5Hz-48,000Hz ด้วยค่าความเพี้ยนฮาร์โมนิกรวม (THD) 0.05% (1kHz, 94dB)

จึงเป็นน้ำเสียงที่คงความเป็นธรรมชาติของเสียงดนตรีอันบริสุทธิ์เอาไว้ เสมือนได้สัมผัสเสียงดนตรีอันสุนทรีย์ที่บรรเลงอยู่ในโถงแสดงจริงนั่นเอง

 

องค์ประกอบสำคัญอีกประการที่หูฟังชุดนี้สามารถให้เสียงออกมาได้ในระดับอุดมคติ เช่นเดียวกับที่ชุดหูฟังแบบครอบหู หรือ Over-Ear Headphones ระดับสุดยอดสามารถให้ออกมาได้ ก็คือการออกแบบที่เรียกว่า Acoustic Back-Volume มีลักษณะเป็นห้องเล็กๆ อยู่ภายในโครงสร้างหลัก ทำหน้าที่แก้ไขจุดวิกฤตของคลื่นความถี่กลาง และคลื่นความถี่ต่ำ ที่ต้องแยกออกจากกันอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันก็ต้องทำหน้าที่สร้างสมดุลเสียงที่จุดดังกล่าว เพื่อมิให้เกิดการรบกวนหรือทับซ้อนกันของคลื่นเสียงทั้งในแง่ของทิศทางและมวลอากาศ

ภาพรวมของเสียงที่ออกมาจึงมีความโปร่งใสอันเป็นธรรมชาติยิ่ง ทั้งในย่านความถี่ต่ำ และย่านความถี่กลาง รวมทั้งยังถ่ายทอดออกมาด้วยความสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง ราบรื่น แบบเดียวกับการถ่ายทอดเสียงในเชิงอะคูสติก มิใช่ลักษณะการถ่ายทอดเสียงทางอิเล็กทริกแต่อย่างใด

นั้นเอง, ที่ Acoustic Back-Volume ซึ่งแม้จะเป็นห้องเล็กๆ ที่อยู่ในโครงสร้างหลัก แต่ก็เป็นปัจจัยสำคัญยิ่งของหูฟังชุดนี้ ที่ช่วยรังสรรค์คุณภาพเสียงให้ออกมาตามเจตนารมณ์ของผู้ออกแบบได้อย่างถึงที่สุด

 

Sennheiser IE 900 มาพร้อมสายนำสัญญาณที่มีหัวเชื่อมต่อให้เลือกสามขนาด ประกอบไปด้วยแบบ Stereo Mini Jack 3.5mm. แบบ Balanced สองขนาด คือ 2.5 mm. และ 4.4 mm. โดยขั้วต่อนั้นเคลือบทองคุณภาพสูงแบบ Gold-Plated Fidelity+ MMCX ที่ช่วยให้หน้าสัมผัสส่งผ่านสัญญาณได้อย่างสมบูรณ์ และมีความเสถียรสูงสุด โดยสายตัวนำห่อหุ้มด้วยวัสดุสังเคราะห์ที่ถักทอด้วย Para-Aramid ซึ่งเป็นแบบเดียวกับ Kevlar ที่นิยมใช้ในการขึ้นรูปกรวยลำโพงที่มีคุณภาพสูงและราคาแพง จึงมีความแข็งแรงทนทานต่อการม้วนเก็บ ทั้งยังไม่พันตัวกันเองโดยง่ายอีกด้วย

สำหรับจุกหูฟังเป็นแบบ Adaptor Silicone & Memory Foam ที่มีความนุ่มนวล กระชับ โดยมีให้เลือกใช้สามขนาดด้วยกันครับ

เข้าใจว่าภายในกรกฎาคมนี้ นักเล่นบ้านเราคงได้ลองกันเป็นแน่