ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 พฤษภาคม 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | คลุกวงใน |
ผู้เขียน | พิศณุ นิลกลัด |
เผยแพร่ |
คลุกวงใน
พิศณุ นิลกลัด
Facebook : @Pitsanuofficial
พรีเมียร์ลีก 2021 จบแล้ว
วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม เป็นวันสุดท้ายของฤดูกาลพรีเมียร์ลีกปีนี้
สำหรับแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้ เวลาฤดูกาลฟุตบอลสิ้นสุดลงจะรู้สึกเศร้า เหงาหงอย เคว้งคว้าง ต้องรออีก 2 เดือนครึ่งกว่าฤดูกาลใหม่จะเริ่ม
พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021-2022 จะเริ่มวันที่ 14 สิงหาคม
มีการทำโพลสำรวจที่น่าสนใจโดยบาร์กเลย์คาร์ด (Barclaycard) บัตรเครดิตของสหราชอาณาจักร (United Kingdom) ในปี 2003 ว่าแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้ในสหราชอาณาจักร ซึ่งประกอบด้วยอังกฤษ, เวลส์, สกอตแลนด์ และไอร์แลนด์เหนือ มีอาการซึมเศร้าเมื่อฤดูการแข่งขันสิ้นสุดลง
ทางจิตวิทยาเรียกอาการซึมเศร้านี้ว่า End of Season Affective Disorder หรือภาวะซึมเศร้าเมื่อฤดูกาลฟุตบอลสิ้นสุดลง
คล้ายกับ Seasonal Affective Disorder หรือภาวะซึมเศร้าจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล
มักเกิดขึ้นกับผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศเขตหนาว โดยผู้ป่วยจะมีอากาศซึมเศร้าเมื่อเข้าหน้าหนาว และจะมีอาการดีขึ้นเมื่อหน้าหนาวสิ้นสุดลง
บาร์กเลย์คาร์ดทำการสุ่มสำรวจแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้จำนวน 2,000 คนในสหราชอาณาจักร ได้ผลการสำรวจที่น่าสนใจมากดังนี้
60% ของแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้บอกว่ามีอาการซึมเศร้าเมื่อฤดูกาลฟุตบอลสิ้นสุดลง โดยอาการต่างๆ ที่สังเกตตัวเองได้ก็เช่น ไม่มีแรงจูงใจในการทำอะไร, ไม่อยากพูดคุยกับลูกเมีย เพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน, รู้สึกชีวิตว่างเปล่า ไม่มีเป้าหมาย และมีอารมณ์แปรปรวน เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย
70% ของแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้บอกว่า ฟุตบอลคือหัวข้อพูดคุยหลักในหมู่เพื่อนฝูง
59% บอกว่า ฟุตบอลคือหัวข้อพูดคุยหลักในหมู่เพื่อนร่วมงาน
86% บอกว่า วางแผนต่างๆ ในชีวิตโดยยึดตารางการแข่งขันฟุตบอลเป็นหลัก
83% บอกว่า ฟุตบอลมีผลต่ออารมณ์ทางบวกของตัวเอง
100% ของแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้บอกว่า ติดตามข่าวฟุตบอลจากทุกสื่อ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ อินเตอร์เน็ต วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร
76% ของแฟนฟุตบอลพันธุ์แท้บอกว่า ฟุตบอลเป็นสิ่งสำคัญระดับต้นๆ ของชีวิต สำคัญยิ่งกว่าภรรยา แฟนสาว ครอบครัว การเมือง ศาสนา
หลายคนสงสัยว่ามีด้วยหรือที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ระดับที่เห็นฟุตบอลสำคัญกว่าลูก เมีย ญาติพี่น้อง
คำตอบคือ มีจริง
ปีเตอร์ โบลตัน (Peter Bolton) แฟนฟุตบอลทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อดีตคนขับรถแท็กซี่ วัย 62 ปี ที่ปัจจุบันเกษียณแล้ว ถือเป็นสุดยอดแฟนพันธุ์แท้ของทีมแมนฯ ยู
เพราะนับตั้งแต่ปี 1974 เขาไม่เคยพลาดชมการแข่งขันของทีมแมนฯ ยู ที่สนาม Old Trafford แม้แต่ครั้งเดียว รวมแล้วเกิน 1,000 นัดติดต่อกัน หากไม่รวมช่วงสถานการณ์โควิด-19
วันแต่งงานพี่ชายปีเตอร์ โบลตัน ยังไม่ไปร่วมงานพิธีตอนกลางวันเพราะเลือกที่จะเชียร์แมนฯ ยูที่สนาม Old Trafford แต่ปีเตอร์ก็ไปร่วมงานเลี้ยงตอนกลางคืน
ซึ่งพี่ชายก็เข้าใจ ไม่โกรธ ทราบล่วงหน้าแล้วว่าหากจัดงานวันแต่งตรงกันวันที่แมนฯ ยูแข่ง ปีเตอร์จะเลือกแมนฯ ยูก่อน
ปีเตอร์เริ่มเป็นแฟนแมนฯ ยู ตอนปี 1962
นับตั้งแต่ปี 1974 ก็ไม่เคยพลาดการแข่งขันที่สนาม Old Trafford แม้แต่หนเดียว
ปีเตอร์ตามเชียร์ทีมแมนฯ ยูมาเป็นพันๆ นัด แต่ไม่น่าเชื่อว่า ภรรยาของเขาเคยเข้าชมการแข่งขันของทีมแมนฯ ยูที่ Old Trafford เพียงครั้งเดียวเมื่อ 40 ปีที่แล้ว
ถามปีเตอร์ว่า ภรรยาไม่น้อยใจหรือที่ปีเตอร์ใช้เวลาไปกับการตามเชียร์แมนฯ ยูทุกนัด ปีเตอร์ตอบว่า ภรรยาเข้าใจว่าเขารักฟุตบอลมาก และยังมีวันอื่นอีกมากมายในหนึ่งปีที่ทีมแมนฯ ยูไม่ได้แข่ง ซึ่งเขาสามารถใช้เวลากับภรรยาได้อย่างเต็มที่ และท้ายสุดแล้วตัวเขาก็ไปแต่สนาม Old Trafford และสนามฟุตบอล ไม่ได้ไปเมาหัวราน้ำ หรือไปทำเรื่องเสียหายอย่างที่สามีบางคนทำ
ปีเตอร์บอกว่า ในชีวิตของเขามี 3 สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ฟุตบอล, ครอบครัว และลูกๆ
วันแต่งงานของตัวเองในปี 1979 ปีเตอร์เลือกแต่งในเดือนมิถุนายน เหตุผลก็เพราะเดือนมิถุนายนยังเป็นช่วงปิดฤดูแข่งขัน
ที่น่าทึ่งยิ่งไปอีกสำหรับเรื่องการมองการณ์ไกลของปีเตอร์ในการเลือกวันแต่งงาน ก็คือปีเตอร์บอกว่า เวลาฉลองครบรอบวันแต่งงานทุกปีเขาจะได้ไม่ต้องลุ้นใจหายใจคว่ำว่าทีมแมนฯ ยูจะแข่งขันวันครบรอบแต่งงานของเขากับภรรยาหรือไม่
แต่ที่น่าทึ่งสุดๆ ก็คือ เมื่อปี 2015 ภรรยาของปีเตอร์เส้นเลือดในสมองแตก ต้องนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์แจ้งปีเตอร์ว่าภรรยาอาจจะไม่รอด
ปีเตอร์เล่าว่าตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก นั่งเฝ้าภรรยาข้างเตียงตลอด 12 ชั่วโมง ซึ่งพยาบาลบอกว่าปีเตอร์ควรกลับไปพักผ่อน นอนหลับเอาแรงสักนิด
แต่สิ่งที่ปีเตอร์ทำก็คือ ไปดูการแข่งขันของแมนฯ ยู ทีมอายุต่ำกว่า 21 ปี ลงเตะกับทีมลิมเวอร์พูล ซึ่งปีเตอร์บอกว่า ใครได้ฟังคงนึกว่าเขาเสียสติไปแล้วที่ภรรยาจะ ตายมิตายแหล่ แต่ตัวเขากลับไปเชียร์ทีมแมนฯ ยูเตะ
แต่ปีเตอร์บอกว่า การได้ไปเชียร์แมนฯ ยูทำให้เขามีสติกลับมา ได้พักสมอง พักใจ เพราะการได้ดูทีมแมนฯ ยูเตะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขามากว่าครึ่งศตวรรษ
วันนั้นทีมแมนฯ ยูอายุต่ำกว่า 21 ปี ชนะลิเวอร์พูล 2-1
และข่าวดีมากที่สุดก็คือ ฟรานเชส ภรรยาของเขารอดชีวิต แม้จะเป็นอัมพาตข้างขวาไปครึ่งซีก และปีเตอร์ต้องเลิกขับแท็กซี่เพื่อมาดูภรรยาเต็มตัว
แต่ในวันที่ทีมแมนฯ ยูแข่ง ปีเตอร์จะขอให้ญาติพี่น้องหรือเพื่อนฝูงมาดูแลฟรานเชส!!!