ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 มิถุนายน 2560 |
---|---|
คอลัมน์ | วิถีแห่งอำนาจ |
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย/เสถียร จันทิมาธร
วิญญาณ เอี้ยคัง หลอกหลอน (92)
ขณะลี้มกโช้วกำลังจะทะลวงออกทางช่องแตกบนผนังกระท่อมหันกายมองกลับพลันเห็นข้างช่องแตก นั่งไว้ด้วยคนผู้หนึ่ง
คนผู้นี้สวมชุดเขียวไว้เครายาว
คนผู้นี้กลับเป็นอึ้งเอี๊ยะซือ ประมุขเกาะดอกท้อ ซึ่งครั้งกระโน้นเมื่อ 10 กว่าปีก่อนเคยช่วยชีวิตเที้ยเอ็งจากเงื้อมมือของลี้มกโช้ว
เป็นการนั่งข้างโต๊ะ บนโต๊ะจัดวางพิณไว้
ลี้มกโช้วขณะสู้ศัตรู สายตาสำรวจ 6 ทาง ใบหูสดับ 8 ทิศ แต่อึ้งเอี๊ยะซือเข้าห้องหับ หยิบฉวยพิณนั่งกับพื้น นางกลับไม่รู้สึกตัว
หากคิดลอบทำร้าย ปลิดชีวิต ไยมิใช่ง่ายดายดุจพลิกฝ่ามือ
ความน่าสนใจอยู่ที่ขณะที่ลี้มกโช้วประกระบวนท่ากับเค้กส่าโกว กริ่งเกรงเที้ยเอ็งและพวกเข้าร่วมวงต่อสู้ ดังนั้น ไม่หยุดร้องเพลง เจตนาการเฉพาะหน้าก็เพื่อก่อกวนสติสมาธิของเที้ยเอ็งและพวกทั้ง 3
ยามนี้พลันพบเห็นอึ้งเอี๊ยะซือนั่งลูบไล้พิณอยู่ เสียงเพลงที่เคยร้องเจื้อยแจ้วก็ต้องชะงักลงโดยอัตโนมัติ
นี่ย่อมเป็น “สภาพการณ์” ใหม่
สภาพการณ์ใหม่นี้ยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเมื่ออึ้งเอี๊ยะซือกรีดนิ้วลงบนสายพิณร้องเอื้อนออกมาเป็นเพลงว่า “ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักเป็นฉันใด จึงมอบให้แก่กันและกันด้วยชีวิต”
ที่ร้องกลับเป็นบทเพลงของลี้มกโช้ว
สายพิณเพียงหลงเหลือเส้นอู้ฮี้ แต่อึ้งเอี๊ยะซือสามารถอาศัยสายพิณเส้นนี้ดีดเป็นสำเนียง เก็ง เซียงก๊ก เจ๊ง อุ้ ต่างๆ
สำเนียงพิณโศกสลดยิ่งกว่าเสียงเพลงของลี้มกโช้วอีก
ลี้มกโช้วร้องเพลงนี้จนขึ้นใจ อึ้งเอี๊ยะซือพอเปลี่ยนท่วงทำนอง ปฏิกิริยาที่บังเกิดแก่นางยังยิ่งกว่าเอี้ยก่วยและพวกนับ 10 เท่า
ที่แท้อึ้งเอี๊ยะซือล่วงรู้ว่านางก่อกรรมทำเข็ญคิดอาศัยโอกาสนี้กำจัดนางทิ้งไป
ครั้งกระโน้นอึ้งเอี๊ยะซืออาศัยขลุ่ยยกเลาเดียวต่อสู้กับจะเข้เหล็กของอาวเอี้ยงฮงและเสียงกู่ของอึ้งชิดกงจนเสมอกัน ยามนี้เหตุการณ์ล่วงเลยมานานปี พละกำลังเสื่อมถอยไปตามวัย ด้านพลังการฝึกปรือกลับยิ่งฝึกยิ่งลึกล้ำ
ลี้มกโช้วไหนเลยต้านรับได้
เพียงชั่วขณะรู้สึกใจวาบหวิวหวั่นไหวยากที่จะควบคุมตน อึ้งเอี๊ยะซือปรับสำเนียงพิณเข้ากับเสียงเพลง บัดเดี๋ยวแหลมสูงกระแทกกระทั้น บัดเดี๋ยวอ้อยอิ่งพลอดพร่ำรำพัน ชั่วพริบตาเปลี่ยนแปลงหลายประการ
ชักจูงลี้มกโช้วบางครั้งยินดี บางครั้งโศกศัลย์ บางครั้งเดือดดาล บางคราหมองเศร้า เห็นแน่ชัดว่าบทเพลงนี้พอร้องจบลี้มกโช้วต้องคลุ้มคลั่งฟั่นเฟือนแน่นอน
ในอีกด้านหนึ่ง ด้านของเค้กส่าโกว ท่ามกลางเสียงพิณพิฆาต โยกคลอนความคิดจิตใจของลี้มกโช้ว เค้กส่าโกวเหลียวหน้ามอง
พลันพบเห็นเอี้ยก่วย
ภายใต้เปลวเทียนสาดส่อง เอี้ยก่วยมีส่วนคลับคล้ายเอี้ยคังผู้เป็นบิดา ส่าโกวกลัวภูตผีปีศาจเป็นที่สุด สภาพที่เอี้ยคังถูกพิษเสียชีวิตในวันนั้นยังตราตรึงอยู่ในห้วงสมองของนางอย่างมิมีวันลืมเลือน พลันเห็นเอี้ยก่วยนั่งซึมเซาเข้าใจว่าเป็นวิญญาณของเอี้ยคังหลอกหลอน
สร้างความตระหนกจนกระโดดปราดขึ้นชี้หน้าเอี้ยก่วยร้องขึ้นว่า
“เอี้ย เอี้ยเฮียตี๋ ท่าน ท่านอย่าได้ทำร้ายเรา ท่าน ท่านไม่ได้ถูกเราทำร้ายเสียชีวิต ท่านไปเสาะหาผู้อื่นเถอะ”
อึ้งเอี๊ยะซือไม่ทันระวังป้องกันว่านางจะก่อความวุ่นวายเช่นนี้
เสียงเช้งเมื่อสายพิณสุดท้ายขาดผึง ส่าโกวหลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังอาจารย์ของบิดา (ซือโจ้ว) ร้องดังๆ “ผี ภูตผี เอี่ยเอี้ย เป็นวิญญาณผีสางของเอี้ยเฮียตี๋”
ลี้มกโช้วฉกฉวยช่องว่างนี้รีบโบกแส้ปัดดับเปลงเทียนมุดปราดออกจากช่องแตกบนผนัง
การมาของอึ้งเอี๊ยะซือเป็นผลดีต่อเที้ยเอ็งและพวกภายในทับกระท่อมอย่างแน่นอน แต่การร้องขึ้นด้วยความหวาดกลัวของเค้กส่าโกวทำให้เป้าหมายของอึ้งเอี๊ยะซือแปรผัน
แปรผันไปสร้าง “ข้อมูลใหม่” ให้กับเอี้ยก่วย
กระทั่งกลายเป็นอีก “ตัวแปร” ที่ส่งผลกระทบต่อเอี้ยก่วยอย่างลึกซึ้ง กว้างไกล