แฉกลโกงแอพพ์เงินกู้ ลวงข้อมูล-แฮ็กมือถือ สาวโวย-โทร.ขู่ แจ้ง ตร.เร่งล่าคนร้าย/อาชญา ข่าวสด

อาชญา ข่าวสด

 

แฉกลโกงแอพพ์เงินกู้

ลวงข้อมูล-แฮ็กมือถือ

สาวโวย-โทร.ขู่

แจ้ง ตร.เร่งล่าคนร้าย

 

กลายเป็นภัยซ้ำเติมในยุควิกฤตการณ์โควิดที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนไปทุกหย่อมหญ้า

ที่ทำให้นอกจากต้องหวาดผวาจะติดโรคร้าย ที่มีจำนวนผู้เสียชีวิตเฉลี่ยถึงวันละ 20 กว่าคน

ยังต้องเอาตัวรอดจากภาวะเศรษฐกิจที่แสนจะฝืดเคือง และกลายเป็นช่องทางมิจฉาชีพที่ใช้ความหมดหวังอับจนหนทางของประชาชน ผนวกกับเทคโนโลยีออนไลน์รูปแบบใหม่ ที่บรรดาเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและกระทรวงดีอีเอสไม่รู้เท่าทัน ด้วยความขาดประสบการณ์ หรือการไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวก็ตามที

ใช้เป็นช่องทางหลอกลวงปล่อยเงินกู้ แถมยังเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของเหยื่อ ลามไปเป็นการข่มขู่คุกคามทวงหนี้อย่างถึงลูกถึงคน

ไม่ได้หวาดกลัวกฎหมายเลยแม้แต่น้อย

จนกระทั่งเหยื่อสาวที่เป็นยูทูบเบอร์และเน็ตไอดอลโพสต์เตือนภัยสังคม จึงได้เป็นที่รับรู้

เป็นยุคที่ประชาชนต้องช่วยตัวเอง เตือนภัยกันเอง เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้

แฉเงินกู้โหด-โทร.ขู่

เรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยข้างกาย เอรียาสกุล เน็ตไอดอลและยูทูบเบอร์สาว โพสต์เตือนภัยเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ระบุว่า ถูกคุกคามจากคนใช้แอพพลิเคชั่นเงินกู้ ระบุ “ถ้าไม่จ่าย กูจะเอาลูกปืนให้ลูกมึงกิน”

โดยเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา มีโทรศัพท์เข้ามาที่โทรศัพท์ส่วนตัว ใช้หมายเลข 09-4340-9081 โดยตนก็ทักทายตามมารยาท เพราะถึงไม่รู้จัก แต่ก็คิดว่าเป็นลูกค้าทางธุรกิจใดธุรกิจหนึ่ง แต่ปลายสายถามด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ว่า “นี่แม่ของซันนี่ใช่มั้ย อีบีอยู่ไหน?” ซึ่งตนก็ถามกลับไปว่า “ไม่มีค่ะ ที่นี่ไม่มีคนชื่อบี คุณคงโทร.ผิดแล้วค่ะ แล้วน้องซันไปเกี่ยวอะไรด้วย?”

แต่แทนที่จะชี้แจง ปลายสายกลับด่าด้วยคำหยาบคาย แล้วระบุว่า “อีบีมายืมตังค์กูไปแล้วไม่ใช้คืน จะไม่รู้จักมันได้ยังไง มันยังเมมเบอร์ไว้เลยว่าแม่ซันนี่ ให้ข้อมูลว่าเป็นบุคคลอ้างอิงถ้าไม่จ่ายหนี้ ก็มาตามที่นี่ไง”

ทำให้ตนต้องตอบกลับไปว่าไม่รู้เรื่องจริงๆ แล้วก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคนชื่อบี และก็ไม่เกี่ยวกับลูก แต่ปลายสายก็ยังสาธยายโอ้อวดเพาเวอร์ของตัวเองว่าใหญ่คับฟ้า

ขู่ว่าถ้าไม่บอกให้บีคืนเงินหรือไม่ชดใช้แทน ลูกชายกายต้องเตรียมตัวตาย

พูดชัดเจนว่า “กูรู้ลูกมึงเรียนโรงเรียน… กับอีบี ถ้ามึงยังปากดี ลูกมึงได้ตายฟรีแน่!” ขู่ สารพัดคำถ่อยๆ ที่จะสรรหามาได้

ข้างกายโพสต์ต่อไปว่า ยอมรับว่าตอนแรกก็กลัว เพราะไม่รู้ว่าคนพวกนี้เป็นใคร อยู่ที่ไหน แล้วจะรู้ที่อยู่บ้านเราไหม แถมยังรู้ชื่อลูก รู้ชื่อโรงเรียนลูก จึงพยายามชวนคุยไปเรื่อยๆ เพื่อเก็บข้อมูลว่ารู้จักกันได้อย่างไร

จนกระทั่งคุยไปสักพัก ปลายสายก็ยังข่มขู่ จะทำร้ายลูกเรา จึงพยายามถามให้ชัดเจนว่าคนชื่อบีนี่คือใครกันแน่ ในที่สุดเขาก็บอกว่า คนชื่อบีก็คือครูที่โรงเรียนลูกเรา และยังขู่ฆ่าลูกชายตนต่อไป

จึงรู้ว่า คนชื่อบี คือครูประจำชั้นลูกชายตนนั่นเอง จึงวางหูไป แล้วก็โทรศัพท์ไปหาครูบี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไรกันแน่

ครั้งแรกครูบีไม่รับ จึงโทรศัพท์ไปยังฝ่ายธุรการ เพื่อสอบถามเรื่องดังกล่าว ในที่สุดหลังจากรับรู้กันทั้งโรงเรียนเป็นเรื่องบานปลายใหญ่โต

ครูบีก็โทรศัพท์กลับมาหาพร้อมยอมรับว่าโหลดแอพพลิเคชั่นกู้เงินออนไลน์มา และกู้เงินจำนวนหนึ่ง และขาดส่งไป 8 วันเพราะหมุนเงินไม่ทัน

แต่ไม่เคยให้เบอร์ข้างกายเป็นบุคคลอ้างอิงแน่นอน

กลายเป็นคำถามว่าพวกแอพพ์เงินกู้เข้าถึงข้อมูลได้อย่างไร!??

เปิดกลโกงแอพพ์ลวงข้อมูล

โดยเมื่อตรวจสอบพบว่าการเปิดแอพพลิเคชั่นกู้เงินด่วนนอกระบบนี้เกิดขึ้นมาสักระยะหนึ่ง แต่ช่วงนี้กลายเป็นที่นิยมใช้บริการ ด้วยผลกระทบทางเศรษฐกิจตกต่ำ และผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19 ขณะที่การช่วยเหลือเยียวยาของรัฐบาลก็ดำเนินการไปอย่างล่าช้า

การพึ่งพาเงินกู้นอกระบบนี้จึงกลายเป็นช่องทางรอดของคนที่อับจนหนทาง

ซึ่งกลโกงของกลุ่มคนเหล่านี้ จะเชิญชวนโฆษณาในโลกออนไลน์ เน้นเป้าหมายเป็นกลุ่มคนวัยทำงานที่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีระดับหนึ่ง แต่ไม่มากนัก ชักชวนให้โหลดแอพพ์เงินกู้ หรือคลิกลิงก์เพื่อรับเงินกู้ทันใจ โฆษณาว่าสะดวก สบาย อนุมัติเร็ว

เมื่อเข้าสู่ขั้นตอนให้กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน ข้อมูลญาติพี่น้อง เพื่อลงทะเบียนเข้าระบบ พร้อมกับระบุว่า “ต้องอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลในโทรศัพท์ และยินยอมตามเงื่อนไขในสัญญากู้ยืม”

ซึ่งเป็นการยินยอมให้แอพพลิเคชั่นดังกล่าวเข้าสู่ข้อมูลในมือถือของเรา จะสามารถดูลิสต์รายชื่อเบอร์โทรศัพท์ และอาจมีข้อมูลต่างๆ เช่น รูปภาพต่างๆ หรืออะไรบางอย่างที่จะนำไปใช้แบล๊กเมล์ข่มขู่ในอนาคต

หลังจากนั้นจะเป็นกลโกงเรื่องของเงินกู้ ไม่ว่าจะเป็นการอ้างว่าต้องโอนค่ามัดจำเพื่อปลดระบบ อาทิ ถ้าสัญญาเงินกู้ 5 หมื่นบาท ต้องโอนเงินกลับมาก่อน จะเรียกว่าเป็นการปลดล็อกระบบ หรือดอกเบี้ยล่วงหน้าก็สุดแล้วแต่ ซึ่งก็มีคนโอนเงินส่วนนี้ไปแล้วบางแอพพ์ปิดหายไปก็มี

หรือการโอนเงินให้ แต่เรียกเก็บเงินต้นและดอกเบี้ยที่แพงเกินจริง เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด

เมื่อผู้กู้ไม่สามารถหาเงินมาใช้คืนได้ในกรณีอย่างครูบี ก็จะใช้ข้อมูลที่แฮ็กได้จากโทรศัพท์ ไปข่มขู่คุกคามโทรศัพท์หาคนนั้นคนนี้ หวังให้ได้อาย และหาเงินมาจ่ายคืนโดยเร็ว หรือไม่ก็หากเจอคนที่สนิทสนม ก็อาจรับใช้หนี้แทนได้

ไม่เพียงแค่นั้น ล่าสุดยังพัฒนาไปถึงขั้นการปลอมแอพพลิเคชั่นให้เหมือนแอพพ์ของธนาคารชื่อดัง จนมีเหยื่อหลงเชื่อทำรายการกู้เงิน

เดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก

 

ตร.เตือนอย่าตกเป็นเหยื่อ

ขณะที่เรื่องของข้างกายที่ออกมาเตือนภัย ได้นำเรื่องเข้าแจ้งความที่ สน.พระโขนง เพื่อดำเนินคดีเกี่ยวกับการข่มขู่คุกคาม

โดย พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. และโฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ระบุว่า ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้พี่น้องประชาชนต้องประสบปัญหาในหลายๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป, เรื่องของหน้าที่การงาน และอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญมากคือเรื่องการเงิน ทำให้พี่น้องประชาชนหลายคนต้องไปกู้หนี้ยืมสินจากแหล่งกู้เงินต่างๆ

ในปัจจุบันก็ได้มีวิธีกู้เงินที่หลากหลาย หนึ่งในวิธีที่สะดวกที่สุดคือการกู้เงินผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งในการจะเลือกใช้แอพพลิเคชั่นใดควรเลือกให้ดี

โดยการกระทำของแอพพลิเคชั่นดังกล่าวอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานข่มขืนใจผู้อื่นให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยใช้กำลัง ประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกขู่เข็ญ หรือของบุคคลที่สาม มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ แนวทางการป้องกันตนจากเหล่ามิจฉาชีพที่แฝงมาในแอพพลิเคชั่นกู้เงิน ดังนี้

1) ไม่ควรยินยอมให้แอพพลิเคชั่นเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวในโทรศัพท์

2) ควรตรวจสอบแอพพลิเคชั่นให้ดีว่าเคยมีผู้ใช้งานที่กู้เงินได้จริงหรือไม่ มีรูปแบบการทวงหนี้ที่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

3) ควรศึกษาข้อตกลงหรือเงื่อนไขในสัญญาให้ดีก่อนตกลง

4) ควรหลีกเลี่ยงการกู้เงินในลักษณะที่ดูสะดวกรวดเร็ว ขั้นตอนน้อย หรือมีข้อเสนอที่ดูดีมากเกินไป ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านและคนรอบข้าง

หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ถือเป็นเรื่องราวที่เป็นภัยสังคมซ้ำเติมในช่วงโควิด และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สามารถทลายแหล่งผิดกฎหมาย หรือปราบปรามได้ราบคาบ

ประชาชนก็ต้องพึ่งพาตัวเอง อย่าตกเป็นเหยื่อของแก๊งอาชญากรรม!??