เผยแพร่ |
---|
หากนำเอา “ปฏิกิริยา”ในทางสังคมที่มีต่อ 1 รัฐบาล และ 1 โดยเฉพาะต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะสัมผัสได้ในความต่อ เนื่องและสัมพันธ์กัน
1 เป็นความรู้สึกต่อการบริหารจัดการสภาพการณ์การแพร่ระ บาดของไวรัส โควิดตั้งแต่ปลายปี 2562 กระทั่งกลางปี 2564
โดยเฉพาะในเรื่องการตระเตรียมและจัดหา”วัคซีน”
โดยเฉพาะและน่าระทึกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ การตระเตรียมและวางแผนเพื่อรับมือกับผลสะเทือนในทางเศรษฐกิจที่จะรุนแรง ล้ำลึกและหนักหนาสาหัส
1 เป็นความรู้สึกต่อปมอันเนื่องแต่การดำรงอยู่ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ว่าจะในฐานะ ส.ส. ไม่ว่าจะในฐานะรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เหมือนกับจะเป็นเรื่องส่วนตัวของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เอง
แต่ในความเป็นจริงมีผลสะเทือนต่อภาพลักษณ์โดยรวมของรัฐบาล ของพรรคพลังประชารัฐ และของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างมิอาจปัดปฏิเสธได้
ความรู้สึกจากกรณีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เกิดขึ้นและดำรงอยู่ในกระสวนเดียวกันกับความรู้สึกต่อกรณีที่จัดการและรับมือกับการตื่นตัวลุกขึ้นมาของ”เยาวชน”คนรุ่นใหม่
ความไม่พอใจเป็นความไม่พอใจต่อรัฐบาล ต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งเป็น”ผู้นำ”ของรัฐบาลอย่างแน่นอน
แต่เนื่องจากรากฐานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สัมพันธ์กับกองทัพ สัมพันธ์กับกระบวนการรัฐประหารไม่ว่าจะเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าจะเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
และสะเทือนและความต่อเนื่องจึงดำเนินไปอย่างลึกซึ้งและกว้างขวาง ครอบคลุมจากอำนาจบริหาร ไปยังอำนาจนิติบัญญัติ
และไม่เว้นแม้กระทั่งอำนาจ”ตุลาการ”
ปฏิกิริยาในทางการเมือง ในทางสังคมอันเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมจึงดำเนินไปในลักษณะสะสม และดำรงอยู่ในลักษณะของการปะทะอย่างแหลมคมในทางความคิด
จะมองเพียงปฏิกิริยาเดียวจะขาดความสมบูรณ์ จำเป็นต้องมองอย่างเป็นความต่อเนื่อง ยึดโยงและสัมพันธ์ต่อกันและกัน
หากไม่มองอย่าง”องค์รวม”ก็จะไม่เข้าใจใน”ความจริง”