ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 7 - 13 พฤษภาคม 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | คุยกับทูต |
ผู้เขียน | ชนัดดา ชินะโยธิน [email protected] |
เผยแพร่ |
คุยกับทูต เอฟรอน อักกุน
ครบวาระสี่ปีที่ผูกพัน
สานสัมพันธ์ไทย-ตุรกี (ตอน 1)
“ประเทศไทยและกรุงเทพฯ จัดเป็นสถานที่พิเศษซึ่งประทับอยู่ในใจของผู้คนทั่วโลก ด้วยเพราะมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีประเพณีและวัฒนธรรมหลากหลาย รวมถึงความมีน้ำใจของคนไทย ตลอดจนอาหารไทยที่เลื่องลือขึ้นชื่อ”
กล่าวโดยเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย นางเอฟรอน ดาเดเลน อักกุน (Her Excellency Mrs. Evren Dağdelen AkgÜn)
“เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ.2017 ดิฉันได้รับมอบหมายให้ดำรงตำแหน่งทูตครั้งแรก โดยเป็นเอกอัครราชทูตตุรกีประจำประเทศไทย และยังเป็นคนแรกที่เป็นผู้หญิง จึงทำให้ประเทศไทยและกรุงเทพฯ มีความสำคัญเป็นพิเศษยิ่งขึ้นสำหรับดิฉัน”
“ในระหว่างนี้ ดิฉันกำลังเตรียมตัวในการสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ในกรุงเทพฯ จึงขอใช้โอกาสนี้เพื่ออำลา และกล่าวขอบคุณทุกคน ทั้งที่รู้จักกันผ่านการทำงานและรู้จักเป็นการส่วนตัว ซึ่งได้ให้การต้อนรับดิฉันอย่างอบอุ่นในประเทศที่สวยงามนี้ การจัดตั้งกรอบความร่วมมือและมิตรภาพที่เราได้สร้างขึ้น ล้วนแต่จะดำเนินและผลิบานอย่างรุ่งเรืองต่อไป”
“ประเทศตุรกีและไทยต่างมีประวัติศาสตร์ที่เก่าแก่ เป็นสองประเทศที่มีความเหมือนกันมากกว่าที่มองเห็นทั่วไป เพราะต่างเป็นศูนย์กลางทางภูมิศาสตร์ในภูมิภาคของตน มีวัฒนธรรมที่ลึกซึ้งและหลากหลาย รวมทั้งอาหารที่ยอดเยี่ยม อันสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมข้างต้น ทั้งสองประเทศต่างก็มีชื่อเสียงในด้านความสวยงามของสภาพแวดล้อมเชิงธรรมชาติ และเหนือสิ่งอื่นใดคือความมีน้ำใจไมตรีของผู้คนทั้งสองชนชาติ”
“ความสัมพันธ์ในปัจจุบันของเราประกอบไปด้วยความร่วมมือต่างๆ ซึ่งครอบคลุมไปหลายด้านแล้วในช่วง 63 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตของเรา ซึ่งดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศเมื่อปี ค.ศ.2018 ซึ่งเป็นปีแห่งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกัน (Reciprocal Culture Year) ด้วย”
“ทุกวันนี้ตุรกีและไทยมีความใกล้ชิดซึ่งกันและกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน โดยมีแผนความร่วมมือทางธุรกิจและวิชาการมากขึ้น และมีข้อตกลงที่ถูกบังคับใช้มากขึ้นเช่นกัน ซึ่งในช่วงก่อนที่ COVID-19 จะระบาดไปทั่วโลก จำนวนนักท่องเที่ยวของเราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”
“สายการบินตุรกี (Turkish Airlines) ซึ่งได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสายการบินที่ดีที่สุดของโลก ได้ให้บริการเที่ยวบินมายังกรุงเทพฯ เป็นจำนวน 3 เที่ยวต่อวัน และ 1 เที่ยวบินไปยังภูเก็ต รวมเป็น 28 เที่ยวบินระหว่างตุรกีและไทย”
“ตุรกีเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่มีสถานที่ตั้งที่สะดวก เป็นประเทศสองทวีปที่มีดินแดนอยู่ทั้งในฝั่งตะวันออกคือทวีปเอเชียและตะวันตกคือทวีปยุโรป มีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่คุณค่าระดับโลก (Global value chains : GVCs) และได้รับผลกระทบอย่างมากจากสถานการณ์ COVID-19 ในฐานะซัพพลายเออร์ที่เชื่อถือได้ต่อเศรษฐกิจโลก ข้อได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของตุรกี อาทิ ความสามารถในการผลิตขั้นสูง สถานที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลาง และการมีเครือข่ายข้อตกลงการค้าเสรี เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นประเด็นที่เอื้อต่อบริษัทข้ามชาติที่ต้องการย้ายฐานการผลิตบางส่วนไปต่างประเทศเพื่อกระจายและจัดเครือข่ายการจำหน่ายที่มั่นคง”
“อุตสาหกรรมการผลิตของเรามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ซึ่งได้เปลี่ยนไปสู่การผลิตขั้นสูงตามรายงานล่าสุดของธนาคารโลก (World Bank) ตุรกีมีความสามารถและข้อได้เปรียบด้านการผลิตที่มีเทคโนโลยีสูงหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเภสัชกรรม การบินและอวกาศ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร รวมถึงความมั่นคงแห่งชาติ และอุตสาหกรรมยานยนต์ และในความเป็นจริง การผลิตภาคอุตสาหกรรมได้เพิ่มขึ้นถึง 9% ในปี ค.ศ.2020 ซึ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเดือนธันวาคม”
“การลงทุนร่วมกันเป็นสิ่งที่เราอยากจะส่งเสริมกับประเทศไทยต่อไป ดิฉันรู้สึกยินดีเมื่อบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียง 3 บริษัทจากตุรกีมาเปิดดำเนินการตั้งโรงงานอยู่ในประเทศไทย ได้แก่ โรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ไฮเทคในวัสดุคอมโพสิตสำหรับชิ้นส่วนเครื่องบินและยางรถยนต์ รวมถึงตู้เย็นและเครื่องจักรขุดค้น นอกจากนี้ ยังมียาง เคมีภัณฑ์ และผลิตภัณฑ์นม อันส่งผลต่อการส่งออกของไทย”
“ทั้งนี้ ฝ่ายที่ปรึกษาการค้าของสถานทูตตุรกี ตลอดจนสภาธุรกิจไทย-ตุรกี (Thailand-Turkey Business Council) และสภาธุรกิจภาคส่วนอื่นๆ ล้วนมีความพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการค้าและธุรกิจระหว่างไทย-ตุรกีต่อไปในอนาคต”
ประวัติ
นางเอฟรอน ดาเดเลน อักกุน (Her Excellency Evren Dağdelen Akgün) เกิด : ที่กรุงอังการา วันที่ 9 มีนาคม ค.ศ.1968 การศึกษา : ปริญญาตรีสาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจากวิทยาลัยแอกเนสสกอตต์ (Agnes Scott College) รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา และปริญญาโทจากวิทยาลัยแห่งยุโรป (College of Europe) เมืองบรูจจ์ (Brugge) ประเทศเบลเยียม ประสบการณ์ 1993-1995 : นักการทูต ฝ่ายวางแผนนโยบาย กระทรวงต่างประเทศตุรกี 1995-1998 : เลขานุการตรี คณะผู้แทนถาวรของคณะกรรมาธิการยุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม 1998-2000 : เลขานุการตรีและเลขานุการโท สถานเอกอัครราชทูตตุรกี ณ กรุงทาชเคนต์ ประเทศอุซเบกิสถาน 2000-2001 : เลขานุการโท แผนกสหภาพยุโรป กระทรวงต่างประเทศตุรกี 2001-2003 : เลขานุการโท และเลขานุการเอก สถานเอกอัครราชทูตตุรกี ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา 2004-2007 : เลขานุการเอก หัวหน้าแผนกแผนกสหภาพยุโรป 2007-2011 : ที่ปรึกษาคณะผู้แทนถาวรสหภาพยุโรป ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม 2011-2013 : หัวหน้าแผนกแผนกสหภาพยุโรป กระทรวงต่างประเทศตุรกี 2013-2017 : อัครราชทูต รองอธิบดีฝ่ายวางแผนนโยบาย กระทรวงการต่างประเทศ ประเทศตุรกี 2017-ปัจจุบัน : เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย |