จากแม่เพนกวิน โกนหัว ถึง #ม็อบ2พฤษภา ปาไข่ จากเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ถึง 8 อาจารย์ มธ.-มหิดล/บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

จากแม่เพนกวิน โกนหัว

ถึง #ม็อบ2พฤษภา ปาไข่

จากเอนก เหล่าธรรมทัศน์

ถึง 8 อาจารย์ มธ.-มหิดล

 

กว่า 50 วันของเพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์

เกือบ 50 วันของฟ้า-พรหมศร วีรธรรมจารี 1 เดือนกว่าของรุ้ง-ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล และล่าสุด น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือตี้ พะเยา

ทั้งหมดประกาศศอดข้าวในเรือนจำ ประท้วงความไม่เป็นธรรม และเรียกร้องสิทธิพื้นฐานจำเลยคดีอาญาในการได้รับการประกันตัว ขณะที่ได้รับการสันนิษฐานว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีคำพิพากษาศาลถึงที่สุด

ที่ผ่านมา ทนายความและกลุ่มราษมัมพยายามยื่นศาลพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวแกนนำและแนวร่วมราษฎร ซึ่งถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำต่างๆ แต่ทุกครั้งคำตอบที่ได้รับคือ “ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม” หมายถึง ไม่ได้รับการประกันตัว

เมื่อการคุมขังทอดเวลานานออกไป โดยเฉพาะในรายเพนกวินที่อดข้าวมานานเกือบ 2 เดือน

ส่งผลให้ร่างกายอิดโรย ไร้เรี่ยวแรงยืน-เดิน น้ำหนักลด พูดโต้ตอบช้าลง กระเพาะอาหารย่อยตัวเองจนขับถ่ายเป็นชิ้นเนื้อ ประกอบกับข่าวการแพร่ระบาดของโควิดในเรือนจำ

ทำให้เพนกวินตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยงสุดๆ ทั้งจากการเจ็บป่วยเพราะอดอาหาร และต่อการติดเชื้อโควิด

ทั้งหมดจึงเป็นที่มาเหตุการณ์ “แม่เพนกวิน” โกนหัว

และการเคลื่อนไหวล่าสุดของ “รีเดม”

 

28 เมษายน นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของเพนกวิน เปิดเผยถึงอาการของลูกชายว่า เพนกวินมีอาการอ่อนเพลีย ผิวหนังเริ่มเหี่ยว ขับถ่ายเป็นชิ้นเนื้อ ที่อาจเกิดจากร่างกายย่อยกระเพาะตัวเอง

แอมมี่ เดอะบอททอมบลูส์ หรือนายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ ซึ่งถูกคุมขังในเรือนจำเดียวกัน ถึงกับร่ำไห้เมื่อรู้อาการของเพื่อน เพราะเป็นสัญญาณอันตรายชี้ว่าร่างกายของเพนกวินไม่ไหวแล้ว

29 เมษายน แม่เพนกวินพร้อมทนายความ จึงตัดสินใจไปยังศาลอาญา เพื่อยื่นประกันตัวเพนกวินและแกนนำราษฎรทั้งหมดอีกครั้ง

ท่ามกลางกลุ่มมวลชนที่มาจัดกิจกรรม #ปล่อยเพื่อนเรา นำโดย น.ส.เบนจา อะปัญ แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมยื่นรายชื่อ 11,035 รายชื่อ ที่ได้จากแคมเปญยุติ “ราชอยุติธรรม” ต่ออธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา

ผลคือ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ศาลอาญาและศาลอุทธรณ์เคยสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างการพิจารณาคดี โดยระบุเหตุผลไว้ชัดแจ้งแล้ว กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

“จะฆ่าเพนกวินให้ตายอย่างทรมานใช่หรือไม่ มีทั้งโควิด มีทั้งเพนกวินเจ็บป่วย คุณจะเอาอะไรของคุณหรือ ต้องให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับลูกคุณ อยากรู้ว่าถ้าเป็นลูกคุณจะรู้สึกอย่างไร

ลูกดิฉันกำลังจะตายอยู่ในคุก คุณไม่ปล่อยลูกฉันมารักษาตัว คุณไม่มีความเป็นคนแล้ว ไหนคุณบอกว่ารากฐานของผู้ปกครองต้องมีเมตตา ทำไมความเมตตาของคุณหายไปไหนหมด แล้วคุณจะปกครองคนอื่นได้อย่างไร

คุณจะให้ดิฉันต้องทำอย่างไรอีก ดิฉันอยากทราบ ดิฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่รู้หลักการ แล้วฉันจะรู้เหตุผลที่จริงของคุณได้อย่างไร ฉันอยากให้ใครก็แล้วแต่ที่มีอำนาจ มาอธิบายเหตุผลจริงๆ ว่าทำไมถึงไม่ให้ลูกดิฉันประกัน

ทั้งที่ลูกดิฉันยอมรับเงื่อนไขแล้ว เด็กยอมลดแล้ว ยอมประนีประนอมแล้ว เหตุใดท่านจึงไม่ยอมประนีประนอมกับเรา แล้วท่านกล่าวหาว่าเราไม่ประนีประนอม ลูกเราแลกด้วยชีวิต อยากให้ท่านอธิบาย ไม่ใช่บอกแต่เพียงว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม” แม่เพนกวินระบุ

30 เมษายน นางสุรีย์รัตน์มายังศาลอาญาอีกรอบ ในชุดเสื้อยืดสีขาว สกรีนข้อความ “ให้มันจบที่รุ่นเรา” จากนั้นได้โกนศีรษะตัวเองทั้งน้ำตา “ฉันพร้อมสละสิ่งสำคัญสำหรับผู้หญิงคือความสวย ด้วยการโกนศีรษะ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ถึงความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้น”

 

แม่เพนกวินและราษมัม ยังเข้ายื่นคำร้องขอประกันตัวเพนกวิน รุ้ง และแอมมี่อีกครั้ง โดยศาลมีคำสั่งนัดพิจารณาวันที่ 6 พฤษภาคม

30 เมษายน ช่วงค่ำ เพนกวินถูกนำตัวจากเรือนจำส่งโรงพยาบาลรามาธิบดี หลังดื่มน้ำเกลือแร่ได้น้อยลง มีอาการปวดบริเวณหลอดเลือดที่ให้น้ำเกลือ เจ้าหน้าที่กังวลอาจเกิดภาวะช็อก จึงมีความเห็นส่งตัวเข้ารักษาโรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ

กรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า เพนกวินให้ข้อมูลพบอุจจาระผิดปกติเหมือนมีเลือดปน 1 ครั้ง และปฏิเสธการตรวจ คาดเกิดจากกระเพาะอาหารอักเสบ ยืนยันไม่พบถ่ายอุจจาระเป็นเลือด จึงส่งไปให้แพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านรักษา

แม่เพนกวินยื่นหนังสือถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี ขอไม่ให้ส่งตัวลูกชายกลับเรือนจำ เพราะเกรงว่าอาการอาจกลับมาทรุดหนัก

ส่วนเพนกวินยืนยันขออดข้าวต่อไป

นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความเผยว่า ได้แจ้งลูกความทั้งหมด ทุกคนรับเงื่อนไขแบบเดียวกับนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ที่ได้ประกันตัวไปก่อนหน้า

นั่นก็คือห้ามมิให้ทำกิจกรรมที่ทำความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นได้รับอนุญาต พร้อมวางหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นเงินสดคนละ 2 แสนบาท

ต้องจับตา 6 พฤษภาคม ผลเป็นอย่างไร

 

ระหว่างนี้ยังมีเหตุให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์

กรณีนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) รับไม้ต่อจากศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ที่ยื่นเรื่องให้สอบจรรยาบรรณอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และมหาวิทยามหิดล รวม 8 คน

ที่ปกป้องและยื่นประกันตัว 3 นักศึกษาที่ถูกดำเนินคดีตามมาตรา 112 และ 116

นายดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการ รมว.การอุดมศึกษาฯ ทำหนังสือถึงถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยทั้งสองแห่ง ระบุตอนท้าย

ในการนี้ รมว.การอุดมศึกษาฯ ได้ “มีบัญชา” ให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ชี้แจงว่าจะสอบจรรยาบรรณคณาจารย์ทั้ง 8 คนหรือไม่ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีการสอบสวน

รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 ในคณาจารย์ผู้ถูกร้อง ยืนยันการใช้ตำแหน่งอาจารย์ประกันตัวนักศึกษาเป็นไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย อีกทั้งเป็นไปตามข้อบังคับของมหาวิทยาลัยว่าด้วยจรรยาบรรณอาจารย์

ฉะนั้น มหาวิทยาลัยต้องปกป้องสิทธิและเสรีภาพของนักศึกษาให้หนักแน่นมั่นคงมากกว่านี้

โดยเฉพาะห้วงเวลาที่ “เพนกวิน” และ “รุ้ง” อดอาหารประท้วง การไม่ได้รับสิทธิประกันตัว ก่อนที่พวกเขาจะเป็นอะไรไป ซึ่งจะสร้างรอยด่างพร้อยให้มหาวิทยาลัย

จนไม่สามารถอาศัยบุญเก่า เล่าเรื่องให้นักศึกษาฟังได้อีก

 

สืบเนื่องจากการยื่นประตัวที่ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า

2 พฤษภาคม กลุ่มรีเดม (REDEM) จัดคาราวาน เคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมายังศาลอาญา รัชดาฯ เรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำราษฎรและแนวร่วมที่ยังคงถูกคุมขังในเรือนจำอย่างไม่ยุติธรรม

ผู้ร่วมชุมนุมทำกิจกรรมสาดสี ปาไข่และมะเขือเทศ ท่ามกลางเสียงประกาศห้ามปรามอย่างเด็ดขาดของฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น กลุ่มรีเดมจึงประกาศยุติกิจกรรมในเวลา 17.55 น. ให้ทุกคนแยกย้ายเดินทางกลับทันที

แต่เรื่องยังไม่จบ ทั้งที่กลุ่มรีเดมประกาศยุติการชุมนุม แต่เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน หรือ คฟ. ยังคงเดินหน้ากระชับพื้นที่ด้วยรถฉีดน้ำ แก๊สน้ำตา และกระสุนยาง เกิดการปะทะบริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 32

เจ้าหน้าที่จับผู้ชุมนุม 4 ราย 1 ในนั้นเป็นเยาวชนชาย อายุ 16 ปี แจ้งข้อหาผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.โรคติดต่อ และข้อหาต่อสู้ขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

สำนักงานศาลยุติธรรมออกแถลงการณ์ ระบุ ศาลยุติธรรมให้ความสำคัญกับสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงความคิดเห็น แต่พฤติกรรมที่เกิดขึ้นหน้าศาล พบการใช้ความรุนแรง

และยังมีลักษณะของการก้าวล่วงใช้ความรุนแรง เพื่อแทรกแซงโดยหวังผลให้ศาลมีคำสั่งหรือคำพิพากษาไปในทางหนึ่งทางใด อันเป็นการมุ่งทำลายอิสระของตุลาการตามรัฐธรรมนูญ

ยังมีพฤติกรรมทำนองขู่เข็ญ สร้างความหวาดกลัวให้บุคลากรในศาลยุติธรรมและครอบครัวผู้พิพากษา จึงไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นหรือการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ

สำนักงานศาลยุติธรรมจึงขอให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตรวจสอบการกระทำและพยานหลักฐานที่ปรากฏ หากการกระทำใดละเมิดหรือฝ่าฝืนกฎหมาย ขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเคร่งครัด

 

ไม่ว่าความเคลื่อนไหว #ปล่อยลูกแม่ ของกลุ่มราษมัม ของแม่เพนกวิน

ไม่ว่าความเคลื่อนไหว #ปล่อยเพื่อนเรา ของกลุ่มแนวร่วมธรมศาสตร์และการชุมนุม ตลอดจนกลุ่มรีเดม ยังมี “ยืน หยุด ขัง” 1 ชั่วโมง 12 นาที ของกลุ่มพลเมืองโต้กลับ

ตราบเท่าที่ “ยังไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม” ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ก็จะยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง

เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 และแกนนำราษฎรซึ่งถูกขังคุก

ทั้งที่ยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ยังไม่ถูกตัดสินว่ามีความผิด