ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/บีเอ็มฯ ‘X5 xDrive45e M Sport’ เอสยูวีพี่บิ๊กได้ทั้งความแรง-ความนุ่ม

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

บีเอ็มฯ ‘X5 xDrive45e M Sport’

เอสยูวีพี่บิ๊กได้ทั้งความแรง-ความนุ่ม

ช่วงก่อนเกิดโควิดระลอกใหม่ ผมมีธุระต้องเดินทางไปยังจังหวัดบุรีรัมย์ เหลียวซ้ายแลขวา ว่าจะขอยืมรถรุ่นไหนเพื่อถือโอกาสทดสอบไปด้วยในตัว

หนึ่งในเงื่อนไขคืออยากได้รถเอสยูวี เนื่องจากต้องการทัศนวิสัยในการขับขี่มากเป็นพิเศษ เพราะวางแผนเดินทางไป-กลับในเวลากลางคืน

ปะเหมาะพอดีกับคิวของเจ้ายักษ์ใหญ่ บีเอ็มดับเบิลยู “X5 xDrive45e M Sport” ปลั๊กอินไฮบริดว่างพอดี จัดไปอย่าให้เสีย

แรกพบประสบเนตรต้องตกใจกับความใหญ่ชนิดคับช่องจอดรถ ด้วยขนาดตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 2,004 x 4,922 x 1,745 ม.ม.

แน่นอนว่าข้อดีคือความกว้างใหญ่ของห้องโดยสาร นั่งกันไปสบายๆ ทั้งตอนหน้าและหลัง

มาดูการออกแบบภายนอกกันก่อน เด่นสุดๆ คือกระจังหน้าไตคู่ออกแบบดูมีมิติมากขึ้น

ระบบไฟหน้า LED อัจฉริยะ ปรับตามทิศทางหมุนของพวงมาลัย (Adaptive LED) และระบบปรับการทำงานไฟสูงอัตโนมัติ

ไฟท้ายแบบ LED เช่นกัน

แน่นอนไม่พลาดกันชุดแต่ง “M Sport” รอบคัน

ล้ออัลลอยลายสวยใหญ่เบิ้มขนาด 21 นิ้ว ลาย Y-spoke แบบสลับสี ล้อหน้าขนาดยาง 275/40 ส่วนล้อหลัง 315/35 เป็นยาง Runflat แก้มค่อนข้างบางทีเดียว ได้ความสปอร์ตขึ้นอักโข

ประตูที่ 5 ขนาดใหญ่ พร้อมสปอยเลอร์ และไฟเบรกดวงที่ 3

ฝาท้ายแบ่งออกเป็นสองส่วนคือด้านบนและล่างสามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า หรือระบบ Comfort Access เพียงเลื่อนเท้าผ่านด้านล่างของกันชนหลัง

เสาอากาศครีบฉลาม

ท่อไอเสียคู่ซ้าย-ขวาแต่งขอบด้วยสีดำด้าน

 

ภายในอลังการงานสร้างสุดๆ ใช้สีทูโทนดำ-น้ำตาล ตกแต่งแซมด้วยอะลูมิเนียมลาย Tetragon เพดานหลังคาสี Anthracite

หลังคากระจกแบบพาโนรามิกเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นขนาดใหญ่จับเหมาะมือ พร้อมมัลติฟังก์ชั่นและระบบควบคุมความเร็ว

หน้าปัดแสดงผลแบบดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอควบคุมขนาด 12.3 นิ้วอยู่ตรงกลาง ติดตั้งระบบปฏิบัติรุ่นใหม่ล่าสุด เวอร์ชั่น 7.0 สั่งงานได้ทั้งเสียงและใช้มือโบกปัดไป-มา หรือจะสั่งงานผ่านปุ่ม iDrive ข้างๆ เกียร์ก็ได้

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกซ้าย-ขวาแบบ 4 โซน อยู่ในกรอบสีเงิน

ขยับลงมาอีกนิดเป็นแป้นเกียร์สีดำ ขนาดเหมาะมือ

เบาะนั่งสีน้ำตาลหุ้มหนัง Vernasca พร้อมรูระบายอากาศ สามารถปรับเบาะเลื่อนแยกออกไปด้านหน้าเพื่อให้รับกับต้นขาของผู้ขับขี่แต่ละคน

เครื่องเสียงสุดๆ กับแบรนด์ดัง “Harman Kardon Surround Sound System” พร้อมลำโพง 16 ตำแหน่ง เสียงกระหึ่มหายห่วงในทุกย่าน

มีที่วางแก้วบริเวณคอนโซลกลางพร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิ ลึกเข้าไปด้านในเป็นช่องสำหรับชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย

เปิด-ปิดประตูง่ายๆ เพราะมีระบบช่วยผ่อนแรง

 

ออกเดินทางตอนราวๆ เที่ยงคืนเศษ กดปุ่มสตาร์ต เสียงแทบไม่ได้ยินเพราะช่วงแรกจะเป็นระบบไฟฟ้า หากทำความเร็วมากขึ้นเครื่องยนต์ถึงจะมาช่วย

ขุมพลังแรงจัดจ้านเบนซิน 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 286 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังสูงสุด 113 แรงม้า แรงบิด 265 นิวตัน-เมตร อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 5.6 วินาที

หากกดแรงๆ หลังติดเบาะในทุกช่วงความเร็ว

ช่วงออกตัวและบนการจราจรที่หลวมๆ ของถนนวิภาวดีรังสิต ทำความเร็วไม่มากนัก ช่วงล่างนิ่มนวลแทบไม่รู้สึกด้วยระบบถุงลม Adaptive 2-axle สามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้

ยิ่งรวมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive อันเลื่องชื่อของบีเอ็มฯ จะลุยทางขนาดไหนไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ

วิ่งยาวไปเรื่อยๆ ความเร็วค่อยๆ ไต่ขึ้นไปถึง 150-160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แทบไม่รู้สึกตัวเพราะความนิ่งของช่วงล่าง และซับแรงสั่นสะเทือนนบนถนนได้ดีมากๆ

ทำความเร็วสูงขึ้นไปอีกเมื่อเข้าทางเลี่ยงเมือง ที่แม้บางช่วงจะไม่มีไฟทาง แต่ไฟหน้าที่สว่างไสว ไม่มีปัญหาเรื่องทัศนวิสัยเลย

ความเร็วที่ปริ่มๆ 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมยังแทบไม่รู้สึกวาบหวิว หรืออาจบอกได้ว่าไม่รู้สึกว่ามันเร็วขนาดนั้น ด้วยความนิ่งและเสถียรมากๆ นั่นเอง

แต่หมายเหตุไว้ก่อนนะครับว่าความเร็วที่เกินลิมิตไปมากๆ ผมใช้แค่ช่วงสั้นๆ และตอนถนนโล่งเท่านั้น เพื่อทดสอบสมรรถนะ

การสาดโค้งต่างๆ ไม่สะดุ้งสะเทือนเลยแม้แต่น้อย

 

ช่วงเลยโคราชมาพักใหญ่ๆ เจอทำถนนขรุขระระดับหนึ่ง แต่นั่งในห้องโดยสารไม่รู้สึกรู้สามากนัก

เรือนไมล์ที่เป็นดิจิตอลอ่านง่าย สบายตา และยังมีตัวเลขความเร็วบอกที่กระจกหน้าด้วย

ขับขี่สบายใจมากขึ้นกับตัวช่วยที่มากันเพียบ อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (DTC) ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) ระบบช่วยเสริมแรงเบรกอัตโนมัติ (Brake Assist) ระบบควบคุมการกระจายแรงเบรกขณะเข้าโค้ง (CBC) รวมไปถึงกล้องมองภาพรอบคัน

การเดินทางขาไปแม้จะดึกพอสมควรแต่ยังอุตส่าห์เจอรถช้าวิ่งขวา โดยเฉพาะรถทัวร์ เจอหลายคันที่แช่ขวาตลอดทาง เลยต้องเข้าเลนกลางเพื่อเร่งแซงไป

ส่วนขากลับยิ่งหนักเพราะออกแต่หัวค่ำ บางจังหวะเจอรถติดยาว พอพ้นมาได้ก็ถึงบางอ้อ เจอช้าแช่ขวาอีกแล้ว

ตอนนี้เหมือนมีเทคนิคใหม่ของรถช้าแช่ขวา เพราะหลายคันที่ผมใช้ความเร็วขึ้นมาในเลนขวาสุด ส่วนเลนกลางก็ว่างแต่รถช้าทางขวาไม่ยอมหลบกลับใช้วิธีเปิดไฟเลี้ยวขวาดื้อๆ ทั้งๆ ที่ไม่มีจุดกลับรถแต่อย่างใด

จะบอกว่าเลนกลางถนนแย่ก็ไม่ใช่ เพราะราบเรียบไม่ต่างจากเลนขวาสุด

ทำได้อย่างเดียวคือทำใจ เพราะออกต่างจังหวัดทีไรเจอรถแบบนี้ทุกแมตช์

 

บีเอ็มดับเบิลยู “X5 xDrive45e M Sport” ถือว่าเป็นเอสยูวีที่ครบเครื่อง รวมทั้งรักษ์โลกในระดับหนึ่ง

ยิ่งหากเปิดการใช้งานโหมดไฟฟ้าอย่างเดียว สามารถวิ่งได้ระยะไกลสุดราวๆ 80 กิโลเมตร บวกลบ ที่ความเร็วไม่เกิน 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดีขึ้นจากรุ่นที่แล้วเพราะทำความเร็วในโหมดไฟฟ้าได้สูงสุด 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เรียกว่าถ้าใช้วิ่งในเมืองที่ความเร็วไม่มากนัก และระยะทางไป-กลับสัก 60-70 กิโลเมตร แทบไม่ต้องใช้น้ำมันสักหยด

เพราะเมื่อกลับมาถึงบ้านก็เสียบชาร์จทิ้งไว้ พอเช้าออกไปทำงาน แบตเตอรี่ก็เต็มเปี่ยม

บีเอ็มดับเบิลยู “X5 xDrive45e M Sport” เป็นเอสยูวีที่น่าใช้มากๆ รุ่นหนึ่ง เพราะทั้งขับสนุก และนุ่มสบาย

ส่วนสนนราคาอยู่ที่ 4,999,000 บาท