ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 23 - 29 มิถุนายน 2560 |
---|---|
เผยแพร่ |
สถานีคิดเลขที่12/สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร
—————-
กระแทกใจ
—————-
เสกสรรค์ ประเสริฐกุล มุ่งกระแทกกลาง ใน ปาฐกถา “ทิศทางการเมืองไทยกับสังคม 4.0” ในงานสัมมนา Direk’s Talk ที่ คณะรัฐศาสตร์ ธรรมศาสตร์
ด้วยการระบุ ถึง “ความแจ่มชัด” ที่ “ชนชั้นนำภาครัฐ” กำลังปฏิบัติการ “ทวงคืนและรักษาพื้นที่ส่วนใหญ่ในเวทีอำนาจไว้อย่างถาวร” อย่างจริงจัง
ผ่านรัฐธรรมนูญ และกลไกลอื่นๆ
ไม่ว่าการ เปลี่ยนระบบเลือกตั้งให้เป็นระบบ “จัดสรรปันส่วนผสม” เพื่อจำกัดอิทธิพลของพรรคใหญ่
ทำให้เกิดรัฐบาลผสม
จำกัดอำนาจของนักการเมืองและพรรคลง
ขณะเดียวกันเปิดพื้นที่ทางการเมืองใหม่ๆ ให้ชนชั้นนำภาครัฐอย่างเต็มที่
เช่น เปิดกว้างให้เข้าดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระและกลไกควบคุมต่างๆ
ให้ ส.ว.ชุดแรกมาจากการแต่งตั้งโดยตรงจากการแต่งตั้งโดยคสช.
โดยมีอำนาจร่วมกับสภาผู้แทนราษฏร ในการรับรองหรือไม่รับรองผู้ที่มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ นายกฯเป็นบุคคลนอกรายชื่อพรรคการเมืองก็ได้
ขณะเดียวกัน เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ก็ให้จับตา พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินปฏิรูปประเทศ กับพ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์
เพราะนั่นจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสืบทอดนโยบาย คสช.
โดยหวังจะตรึงโครงสร้างอำนาจไว้ที่ชนชั้นนำของภาครัฐไม่ต่ำกว่า 9-10 ปี
พูดไป ไม่พ้นสัปดาห์
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ มีมติผ่าน ร่าง พ.ร.บ.การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ
. และ ร่าง พ.ร.บ.แผนและขั้นตอนการดำเนินการปฏิรูปประเทศ พ.ศ.
ไปเรียบร้อย
ฉบับแรกจะทำให้มีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติขึ้นมา
ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา รองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่นายกฯมอบหมาย
ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
ประธานกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานสภาเกษตรแห่งชาติ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประธานสมาคมธนาคารไทย
และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างๆซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้งอีกไม่เกิน 17 คน
สรุปเราจะมี 34 อรหันต์ ขึ้นมาวางยุทธศาสตร์ของชาติ
ส่วนฉบับที่สอง จะทำให้เรามีคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ จำนวน 11 ด้าน
1.ด้านการเมือง 2.ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน 3.ด้านกฎหมาย 4.ด้านกระบวนการยุติธรรม 5.ด้านการศึกษา
6.ด้านเศรษฐกิจ 7.ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 8.ด้านสาธารณสุข 9.ด้านสื่อสารมวลชน เทคโนโลยีสารสนเทศ 10.ด้านสังคม และ 11.ด้านอื่นตามที่ครม.กำหนด
ด้านละไม่เกิน 13 คน
มีวาระการดำรง 5 ปี
ทำให้เราจะมีอีก 143 อรหันต์ ขึ้นมาปฏิรูปประเทศ
ตามคำอธิบาย ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติจะติดตามหรือมอนิเตอร์ไปเป็นเวลา 5 ปี
ใครไม่ปฏิบัติตาม ฝ่าฝืน ทำผิด หรือขัดแย้ง
มีโทษถึงขั้นติดคุก และต้องถูกถอดถอน
รัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ถูกโซ่ใหญ่ล่ามไว้อีก 2 โซ่
และดูพิลึกพิลั่น ที่ผู้ใต้บังคับบัญชา โดยเฉพาะ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ จะมาชี้นิ้วสั่งให้ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ต้องทำตามยุทธศาสตร์ที่ตนเองวางไว้
แต่กระนั่นแหละ เมื่อเป้าหมายอยู่ ที่ การ”ทวงคืนและรักษาพื้นที่ส่วนใหญ่ในเวทีอำนาจไว้อย่างถาวร”
จะให้แปลก พิสดารอย่างไร เราก็จำเป็นที่จะต้องอยู่กับมัน
ไม่มีทางเลือก
อย่างกับอยู่ในหนัง เดอะ ก็อดฟาเธอร์
นี่คือ “ข้อเสนอที่ปฏิเสธไม่ได้”
จริงหรือไม่
เสกสรรค์ ประเสริฐกุล ถามกระแทกใจ นักการเมือง นักวิชาการ ปัญญาชน ประชาชน ให้ช่วยกันไตร่ตรอง!
——————