ดูผลการฉีดวัคซีน ในอเมริกา ขณะโควิด-19 ระบาดรอบ 3 ที่เมืองไทย / รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

มงคล วัชรางค์กุล

 

ดูผลการฉีดวัคซีน

ในอเมริกา

ขณะโควิด-19 ระบาดรอบ 3 ที่เมืองไทย

 

โควิด-19 ระบาดรอบ 3 ในประเทศไทย

การระบาดรอบนี้เป็นคลัสเตอร์ (การระบาดเป็นกลุ่มก้อน) เกิดจากผับ (Pub) และสถานที่เอ็นเตอร์เทนบริเวณซอยทองหล่อ

โควิดรอบสามแพร่กระจายจากสถานที่อโคจร

ก่อนหน้านั้น เมืองไทยชื่นชมตัวเองที่ได้รับการยกย่องจากต่างชาติว่าเป็นประเทศที่ป้องกันโควิดได้ดีที่สุดในโลก

ทั้งที่ข้อเท็จจริงเมืองไทยตรวจเชื้อน้อยเพราะงบประมาณจำกัด เมื่อตรวจน้อยก็เจอน้อย แล้วมาภาคภูมิใจว่าป้องกันโควิดได้ดีที่สุดในโลก

ซึ่งมันไม่ใช่

วันนี้เชื้อโควิดแพร่กระจายจากสถานบันเทิง ติดกันจากวันละหลายร้อยคน เพิ่มจนถึงวันละกว่า 1,500 คน แพร่กระจายไปครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ

ขณะที่เขียนต้นฉบับนี้วันที่ 18 เมษายน 2021 ติดเชื้อ 1,767 คน

ต่อไปมีโอกาสติดเพิ่มวันละหลายพันคน อาจจะขึ้นหลักหมื่น ถ้าควบคุมไม่อยู่

ดูตัวเลขการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามแสดงว่าคราวนี้โควิดแพร่ระบาดหนักหนาสาหัส

 

ทางออกเบื้องแรก คือต้องระดมฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด

ความจริงข้อนี้พิสูจน์ได้จากอเมริกา ที่ปีที่แล้วมีตัวเลขการติดเชื้อสูงที่สุดในโลก คนตายสูงที่สุดในโลก โรงพยาบาลเต็มจนล้น บางแห่งคนไข้ต้องนอนตามระเบียง คนติดเชื้อตายเป็นใบไม้ร่วง ขนาดห้องเก็บศพในโรงพยาบาลหลายแห่งเต็ม ต้องเอารถห้องเย็นหลายคันมาจอดเก็บศพหลังโรงพยาบาล

อเมริกาผ่อนคลายโควิดด้วยการค้นคว้าวัคซีนตามโครงการ Operation Warp Speed ทุ่มเงิน 9 พันล้านเหรียญ ค้นคว้าวัคซีนสำเร็จในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี ระดมฉีดวัคซีนเริ่มเข็มแรกบนแขนคนอเมริกันเมื่อ 14 ธันวาคม 2020

ประธานาธิบดีไบเดนปราศรัยเรื่องโควิด-19 เมื่อ 6 เมษายน 2021 บอกว่า อเมริกาฉีดวัคซีนแล้ว 168 ล้านโดส ฉีดให้คน 150 ล้านคน มี 63 ล้านคนที่ฉีดวัคซีนครบสองโดสแล้ว อเมริกาฉีดวัคซีนวันละ 3 ล้านโดส อาทิตย์ละมากกว่า 20 ล้านโดส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาฉีด 4 ล้านโดส (สัปดาห์นี้มีอยู่วันหนึ่งที่ฉีดถึง 4.6 ล้านโดส)

อเมริกาเป็นประเทศแรกที่ฉีดวัคซีนเกิน 62 ล้านคน

ฉีด 200 ล้านโดสใน 100 วัน

75% ของคนอายุเกิน 65 ปีได้ฉีดวัคซีนกันหมด ทั้งที่เมื่อเริ่มต้นฉีดได้แค่ 8%

ต้องปกป้องคนแก่ก่อน เพราะคนที่ติดเชื้อตายเป็นคนแก่ถึง 80%

ไบเดนยังบอกอีกว่า ถึงวันที่ 19 เมษายน คนอเมริกันทุกคนจะอยู่ในรัศมีการฉีดวัคซีน 5 ไมล์ เมื่อถึงวันนั้น คนอเมริกันที่อายุเกิน 18 ปี ถ้าต้องการฉีดวัคซีนจะได้รับการฉีดทันที สิ่งนี้มาเร็วกว่ากำหนดเดิมที่ตั้งเป้าไว้เป็นวันที่ 1 พฤษภาคม

“It’s time to get vaccinate now” ถึงเวลาฉีดวัคซีนเดี๋ยวนี้

มีผู้สื่อข่าวถามว่า ฉีดวัคซีนกันถ้วนทั่ว ทำไมยังมีการแพร่ระบาดอยู่อีก

ไบเดนตอบว่า “time, time” ต้องใช้เวลา

คนตายเพราะโควิดในอเมริกา เดือนมกราคม 95,074 คน วันละ 3,000 กว่าคน เดือนมีนาคม ตาย 37,172 คน ตัวเลขคนตายลดลงมากเพราะเริ่มฉีดวัคซีนทั่วถึง

ตั้งแต่เริ่มต้นมา คนอเมริกันตายแล้ว 554,064 คน

ไบเดนบอกว่า ต่อไปจะส่งวัคซีนไปช่วยเหลือประเทศยากจน และประเทศที่ไม่มีเวลา (ค้นคว้าวัคซีน)

“เราจะอยู่อย่างปลอดภัยได้อย่างไร ถ้ายังมีไวรัสในประเทศอื่น”

ประโยคทองของไบเดน

 

รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศจะปลดล็อกโควิดทุกอย่าง 15 มิถุนายนนี้

Fox News 8 เมษายน 2021 รายงานว่าตัวเลขคนตาย 2 อาทิตย์ในรัฐอลาสก้า, นอร์ธดาโกตา และโอกลาโฮมาเป็นศูนย์

ผลของวัคซีนอัศจรรย์มาก

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่า อัตราเติบโตทางเศรษฐกิจของอเมริกาปีนี้จะสูงถึง 6.4%

มหัศจรรย์จากวัคซีนโดยแท้

แต่สิ่งมหัศจรรย์นี้จะไม่เกิดขึ้นในเมืองไทย เพราะเรามีวัคซีนไม่พอในชั่วโมงนี้ ตลอดจนถึงในอนาคตอันใกล้ สาเหตุหลักคือไทยไม่เข้าร่วมองค์การจัดหาวัคซีน COVAX ของ WHO

รมต.สาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล ชี้แจงใน FB ว่าไทยไม่ใช่ประเทศยากจน จึงไม่ได้รับวัคซีนฟรีจาก COVAX ถ้าจะรับวัคซีนต้องจ่ายเงินล่วงหน้า ต่อรองราคาไม่ได้และเลือกชนิดวัคซีนไม่ได้

สู้เราซื้อเองไม่ได้ จะได้วัคซีนตามชนิดและราคาในเงื่อนไขที่ต้องการ

แล้วเป็นอย่างไร วัคซีนที่สั่งซื้อเองตามราคาที่ต้องการ วัคซีนตัวบ๊วยเพื่อน Sinovac จากจีนราคาโดสละ $ 18.50 บวกภาษีแล้ว เปรียบเทียบกับ Pfizer ตัวท็อปราคาที่ขายให้รัฐบาลกลางอเมริกัน โดสละ $ 19.50

Sinovac แพงแสนแพง

วัคซีนของ COVAX ประเทศที่ไม่ยากจนอย่างสิงคโปร์ เกาหลี อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ แคนาดา ก็เป็นสมาชิก ซื้อวัคซีนแล้วจ่ายเงิน

มีประเทศที่มีรายได้ต่ำ และต่ำปานกลาง 92 ประเทศ และประเทศที่มีรายได้สูง 97 ประเทศเป็นสมาชิก รวมทั้งหมด 189 ประเทศ ไม่มีประเทศไทย

Pfizer ขายวัคซีนราคาทุนให้ COVAX 40 ล้านโดส นี่คือเหตุผลที่เกาหลีได้รับวัคซีน Pfizer จำนวนหนึ่งมาฉีดให้คนเกาหลี เพราะ Pfizer ไม่ขายให้ใครนอกจากอเมริกา

อาจมีเสียงแย้งว่า ถ้าเมืองไทยได้รับ Pfizer ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเมืองไทยไม่มีตู้แช่อุณหภูมิ -75 ํC

ขอโทษคุณเข้าใจผิด COVAX จัดส่ง Pfizer มาให้พร้อมคอนเทนเนอร์ตู้แช่

 

นายกฯ ฮุน เซน ของกัมพูชาให้รางวัลพลเมืองที่ฉีดวัคซีนคนที่หนึ่งล้านเป็นเงินหนึ่งล้านเรียล หรือประมาณ 40,000 บาท วันนั้นเมืองไทยเพิ่งฉีดวัคซีนได้ 500,000 กว่าคน

วัคซีน Sinovac จากจีนล็อตแรกมาถึงไทย 200,000 โดส เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2021 วันเดียวกับที่ได้รับ AstraZeneca จากเกาหลี 117,000 โดส

อัตราฉีดวัคซีนที่จะคุ้มครองการแพร่ระบาดได้ต้องฉีดให้ได้ 60% ของประชากร ตัวเลขวัคซีนที่ได้รับวันแรก 2 ยี่ห้อ 317,000 โดส บวกกับที่ได้รับใหม่ Sinovac ล็อตสอง 800,000 โดส ล็อตสาม 1 ล้านโดส รวมกันแล้วยังห่างไกลมาก

และถึงแม้จะฉีดวัคซีน Sinovac ได้ครอบคลุม 60% ก็ไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้ เพราะจากสถิติ 5 ประเทศที่ฉีดวัคซีนสูงสุดในโลก คือ

อิสราเอล อังกฤษ ชิลี อเมริกาและบาร์เรน

แต่ละประเทศต่างฉีดวัคซีนยี่ห้อแตกต่างกันไป อเมริกาและอิสราเอลใช้วัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna อังกฤษใช้ Oxford/AstraZeneca เป็นหลัก มี Pfizer/BioNTech ด้วย บาร์เรนใช้ AstraZeneca และ Sinofarm

ชิลีใช้วัคซีนซื้อและบริจาค Sinovac จากจีนเป็นหลัก มี Pfizer/BioNTech นิดหน่อย

มีเพียงชิลีประเทศเดียวที่อัตราผู้ติดเชื้อไม่ลดลง กลับเพิ่มขึ้นเป็นการระบาดระลอก 4

เป็นเพราะชิลีฉีดวัคซีน Sinovac ที่ให้ผลการป้องกันเพียง 50.4% ลดความรุนแรงของโรคได้ คนติดเชื้อไม่ตาย แต่ป้องกันการติดเชื้อไม่ได้

จะเห็นได้จากข่าว รมต.ไทยฉีด Sinovac ยังติดเชื้อ

เป็นที่คาดกันว่า Sinovac จะเป็น Vaccine Passport ที่ไม่ได้รับการยอมรับในอเมริกาและอียู

 

น.ส.พ.กรุงเทพธุรกิจ 12 เมษายน 2564 อ้างสำนักข่าวเอพีรายงานว่า ผอ.ศูนย์ควบคุมโรคจีน (CDC จีน) นายเกาฟู่ แถลงที่เมืองเฉินตูเมื่อ 10 เมษายน ยอมรับว่าวัคซีนโควิด-19 ของจีนคุณภาพต่ำ รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาจะให้ใช้ร่วมกับวัคซีนตัวอื่นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน ในข่าวยังบอกด้วยว่า คณะนักวิจัยในบราซิลพบว่าวัคซีน Sinovac มีประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการอยู่ในระดับที่ต่ำ 50.4% เทียบกับวัคซีนของ Pfizerได้ผลถึง 95% ซึ่งผมเคยเขียนรายงานในมติชนสุดสัปดาห์ตั้งแต่ปลายธันวาคม 2020

ทั้งหลายทั้งปวงที่รัฐบาลไทยไม่พยายามหาวัคซีน คือตั้งใจกันที่ไว้ให้วัคซีนจากโรงงานสยามไบโอไซเอนซ์ที่คาดว่าจะออกมาได้ล็อตแรกเดือนมิถุนายนนี้ โดยรัฐบาลคาดว่าระหว่างก่อนเวลานั้นจะควบคุมการระบาดได้

แต่ผลไม่เป็นไปตามคาด การระบาดหนักมาก่อนสงกรานต์ ถ้ารอวัคซีนถึงเดือนมิถุนายน คนไทยคงติดเชื้อกันบานทะโล่

เข้าทำนอง “กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้”

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อ 13 เมษายน 2021Europian Medicines Agency-EMA องค์การยาแห่งยุโรป ระบุว่าวัคซีน AstraZeneca นำมาสู่ภาวะลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือด ร่วมกับภาวะเกร็ดเลือดต่ำ

15 เมษายน 2021 เดนมาร์กเป็นประเทศแรกใน EU ที่ออกคำสั่งยกเลิกการฉีด AstraZeneca ในประเทศเป็นการถาวร หลังจากพบผู้ฉีดมีอาการโรคลิ่มเลือด 2 คน เสียชีวิตหนึ่งคน

เดนมาร์กมีทางเลือกอี่นเพราะมีวัคซีนของ Pfizer และ Moderna

ขณะเดียวกัน 13 เมษายน 2021 น.ส.พ. Wall Street Journal รายงานว่า FDA และ CDC ของอเมริกาสั่งระงับการฉีดวัคซีนของ Johnson & Johnson ชั่วคราวเพื่อสอบสวนการที่คนฉีดวัคซีน J&J 6 คนเสียชีวิตจากโรคลิ่มเลือด จากคนที่ฉีดวัคซีนตัวนี้เกือบ 7 ล้านคน

แคนาดาก็ยุติการฉีด J & J

Johnson & Johnson และ AstraZeneca เป็นวัคซีนประเภทเดียวกัน ใช้เทคโนโลยีในการผลิตเหมือนกัน

กว่าเมืองไทยจะผลิตวัคซีน AstraZeneca ได้สำเร็จในเดือนมิถุนายน ไม่รู้ว่าจะมีกี่ประเทศที่เลิกฉีด AstraZeneca เป็นการถาวร

 

เมื่อวัคซีนที่มีในเมืองไทยตอบโจทย์หยุดยั้งการระบาดไม่ได้ คนไทยจะรอดปลอดภัยได้อย่างไร

ผมขอให้คำแนะนำในฐานะที่มีประสบการณ์ผ่านการระบาดหนักในอเมริกามาแล้วดังนี้

ประการแรกสุด หลีกเลี่ยงการเดินทางออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น ล็อกดาวน์ตัวเองอยู่แต่ในบ้าน

สำหรับคนที่ยังต้องออกไปทำงาน การเดินทางก็ต้องสวม Mask ตลอด จะเป็น Daily Protective Mask หรือหน้ากากอนามัย ใช้วันเดียวทิ้งเลย หรือจะเป็น Mask อย่างผ้า ใช้แล้วซักก็ได้ ควรมี Face Shield ปกป้องอีกชั้นหนึ่ง

ประการต่อไป ต้องเว้นระยะห่างตลอดทั้งในรถโดยสารสาธารณะหรือในร้านอาหารและในที่ชุมชน

ในอเมริกา ช่วงระบาดหนัก ถ้าไม่สวม Mask ไม่เว้นระยะห่าง แล้วตำรวจมาเจอจะโดนปรับ พร้อมออกกฎห้ามชุมนุมเกิน 4 คน

ประการที่สาม เมื่อการระบาดแพร่ขยายระดับสูงต้องเพิ่ม Work from Home สำนักงานต่างๆ จะให้พนักงานทำงานจากบ้าน คนติดต่องานใช้โทรศัพท์หรืออีเมล ตอนนี้หน่วยงานราชการอเมริกาส่วนมากก็ยัง Work from Home อยู่

สำนักงานในอเมริกาจัดเวรให้พนักงานเข้าสำนักงานอาทิตย์ละวัน เพื่อผลัดกันไปรดน้ำต้นไม้

ตอนนี้เมืองไทยประกาศให้ข้าราชการ Work from Home ถึงสิ้นเดือนเมษายน ผมเข้าใจว่าคงต้องขยายเวลาออกไป เพราะโควิดไม่หยุดการระบาดง่ายๆ

ประการที่สี่ โรงเรียนไฮสกูลหยุดการเรียนการสอนในห้องเรียนทั้งประเทศ ให้เด็กเรียนทางออนไลน์กับรีโมตคอนโทรล

ตอนนี้อเมริการะดมฉีดวัคซีนให้ครูได้ 75% แล้ว อาจารย์มหาวิทยาลัยก็ได้รับผลพวงนี้ด้วย แต่สหภาพแรงงานครู (Teachers Union) ยังต่อรองให้ครูได้รับการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงจึงค่อยเปิดการสอนในห้องเรียน แต่มีโรงเรียนในบางรัฐเปิดสอนในห้องเรียนบ้าง

ประการที่ห้า ถ้าต้องซื้อข้าวของเครื่องใช้ควรจะช้อปปิ้งไม่เกิน 7 วันหรือ 10 วันต่อหนึ่งครั้ง เลือกโกรเซอรี่ที่คนน้อยที่สุด ผมหลีกเลี่ยงที่คนแน่นอย่าง Walmart ควรใส่ถุงมือยางป้องกันการติดเชื้อจากราวรถเข็นหรือข้าวของที่หยิบจับ

ขึ้นรถต้องมีน้ำยาล้างมือเจลแอลกอฮอล์ 70% เช็ดทำความสะอาดทุกครั้ง ก่อนติดเครื่องออกรถ เข้าบ้านหมั่นล้างมือฟอกสบู่ให้บ่อยที่สุด

ระวังตอนถอด Mask อย่าเผลอเอามือไปจับปาก จมูกหรือเกาลูกตา เพราะเชื้อที่ติดอยู่บน Mask (ถ้ามี) จะติดมือผ่านเข้าร่างกายตามสารคัดหลั่ง

ลูกสาวเพื่อนอเมริกันเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย อายุ 38 ปี เธอต้องสอนหนังสือในคลาสเรียน พอกลับเข้าบ้านจอดรถในเบสเมนต์ปิดประตูโรงรถ ถอดเสื้อผ้าออกใส่ถุง ถอดรองเท้า เปลือยกายเข้าบ้านอาบน้ำ สระผมทันที

ในกรณีสงสัยว่าจะติดเชื้อ ถ้าต้องกักกันตัวเองที่บ้าน ต้องแยกห้องนอน ห้องน้ำ แยกอาหารจากกันโดยเด็ดขาด

สำหรับคนที่อยู่คนเดียวในบ้านหรือในคอนโดฯ ให้หา “บัดดี้” คู่หูไว้ เพื่อติดต่อทางโทรศัพท์หรือเทกซ์คุยกันทุกวัน ให้รหัสประตูบ้านไว้ ถ้าวันไหนเพื่อนไม่ตอบรับต้องรีบติดตามเข้าไปดู ป้องกันการนอนตายขึ้นอืดในบ้านคนเดียว

จำไว้ว่า โควิดไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ถ้าติดเชื้อแล้วเป็นหนัก ถึงรักษาหายก็ใช้เวลานานเพื่อคืนสภาพและอาจไม่เหมือนเดิม

เพื่อนฟิลิปปินส์ในนิวยอร์กอายุ 70 ปี ติดโควิดเข้าโรงพยาบาลนอน ICU ติดเครื่องช่วยหายใจอยู่ 3 อาทิตย์ รอดมาได้ แต่ไวรัสลงไต ต้องฟอกไตอยู่เป็นเดือน

แต่รายนี้แปลกมาก เมียไม่ยักติดเชื้อ

คนไทยผู้ชายอายุ 38 ปี อยู่คนเดียวที่เมืองฟิลาเดลเฟีย อยู่ๆ หายเงียบไปไม่ตอบรับโทรศัพท์ เพื่อนฝรั่งเรียก 911 มาพังประตูเข้าไป พบนอนหายใจรวยรินอยู่บนพื้น เข้า ICU นอนติดเครื่องช่วยหายใจเกือบเดือน ออกม