แม่…บรุก…และเหล้า : สำเริงคดี

แม่…บรุก…และเหล้า

บรุก ชีลด์ อดีตนางเอกวัยรุ่นที่ดังโลดจากเรื่อง THE BLUE LAGOON เจ้าของใบหน้าสะสวยมาตั้งแต่เล็กจนได้ฉายา “FACE OF 80″s” เคยเป็นท็อปโมเดลตั้งแต่ยังไม่ครบ 10 ขวบ

และเป็นนางเอกฮอลลีวู้ดรุ่นแรกๆ ที่มีดีกรีจบมหาวิทยาลัยปอกเปลือกชีวิตสกาววาวของเธอไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติเรื่อง There Was a Little Girl : The Real Story of My Mother and Me.

เทอรี่ แม่ติดเหล้าของบรุกควบคุมบงการชีวิตเธอมาตั้งแต่เล็กทั้งด้านส่วนตัวและงานอาชีพ

บรุกจึงต้องรับบทโสเภณีเด็กในหนังเรื่อง PRETTY BABY ซึ่งเปลือยกายท่อนบนตอนอายุ 11 ขวบ

“ในฐานะที่ฉันก็มีลูกสาว ฉันจะไม่อนุญาตให้ลูกถ่ายรูปท็อปเลสเด็ดขาด” บรุกเขียนไว้ในหนังสือนั้น

พออยู่มัธยม แม่รับงานถ่ายโฆษณากางเกงยีนส์ที่ให้เธอพูดเสียงเหมือนครางว่าไม่มีอะไรกั้นขวางระหว่างเธอกับกางเกงยี่ห้อนั้น ซึ่งเธอมาเข้าใจทีหลังว่ามันหมายความว่าเธอไม่ได้สวมอันเดอร์แวร์

อาการติดเหล้าของแม่ยังทำให้เธอชอกช้ำในแบบอื่นๆ อีก เช่น เมื่อครั้งยังเป็นเด็กเล็ก บรุกต้องตกแต่งต้นคริสต์มาสเองเพราะแม่เมาพับหลับใหลอยู่บนโซฟา เช้ารุ่งขึ้นเธอก็พบว่าใต้ต้นคริสต์มาสนั่นไม่มีของขวัญอะไรเลยสักชิ้น

หนูน้อยบรุกได้เผชิญหน้ากับความจริงอันหยาบกระด้างทั้งที่เกี่ยวกับแม่และซานต้า

เมื่อเริ่มเป็นสาว แม่พรีเซนต์ให้เธอเป็นนางเอกสาวพรหมจารีควบคู่ไปกับการยัดเยียดเธอกับดาวดังหนุ่มโสดของยุคนั้น ทั้ง ไมเคิล แจ๊กสัน, จอห์น ทราโวลตา และซุป”ตาร์นักร้อง จอร์จ ไมเคิล ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อการอวดโอ่โชว์สื่อ

เพราะมาถึงยุคนี้ก็เป็นที่รู้กันว่าดาราหนุ่มๆ เหล่านั้นล้วนเป็นศิลปินสาว

ได้แยกห่างจากแม่ตอนอยู่มหาวิทยาลัย บรุกจึงพบรักกับนักแสดงหนุ่ม ดีน เคน จนตัดสินใจจบสถานภาพสาวพรหมจารีที่ดังสุดของสหรัฐ

แต่แล้วเธอก็หนีจากเขา

“ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มต้น (เป็นตัวของตัวเอง) ตรงไหน และให้แม่จบลงที่ไหน นั่นคือฉันไม่รู้ว่าจะเอาดีนเข้ามามีส่วนในชีวิตเราแม่ลูกได้ยังไง”

อย่างไรก็ตาม เธอเติบโตขึ้น ค่อยๆ หลุดจากการควบคุมของแม่และพบรักใหม่กับนักแสดงหนุ่มอีกคน เลียม นีสัน เขาขอเธอแต่งงาน แต่แล้ววันหนึ่งเขาบอกว่าต้องบินไปแอลเอ และไม่เคยโทร.กลับมาอีกเลย

ปี 1997 บรุกแต่งงานกับนักเทนนิสดัง อังเดร อะกาซซี หลังคบหากันอยู่นาน 4 ปี แต่แล้วเธอก็รู้สึกว่าตัวเองผิดพลาด เพราะเขามีเรื่องปิดบังเธอหลายเรื่อง อาทิ เขาหัวล้านและต้องสวมแฮร์พีซ

ที่ร้ายแรงก็คือเขาติดยาเสพติด ปี 1999 ทั้งคู่จึงหย่ากัน

ต่อมาบรุกพบรักใหม่กับนักเขียนและโปรดิวเซอร์ คริส เฮนซี ตกลงแต่งงานกันในปี 2001

แม้ตอนนั้นเธอโตมากพอที่จะไม่ยอมให้แม่เข้ามาก้าวก่ายบงการชีวิตอีกแล้ว แต่เทอรี่ก็ยังละเลงงานแต่งเธอจนเละด้วยการเมาแอ๋และขึ้นไปกล่าวอวยพรชวนดื่มให้ตัวเองบนเวทีพลางคร่ำครวญต่อว่าบรุกที่ไปมีชีวิตของตัวเองโดยปราศจากเธออีกต่อไป

จากนั้นก็อาละวาดจนตำรวจต้องเอาตัวไปสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก

ไม่นานต่อมา เทอรี่ป่วยด้วยโรคจิตเสื่อมอันเป็นผลจากการติดเหล้า

ทำให้บรุกกับแม่กลับมาใกล้ชิดกันอีก แต่ก็เป็นความใกล้ชิดที่น่าขมขื่นจนกระทั่งเทอรี่สิ้นลมไปในปี 2012

บรุกเขียนลงท้ายถึงมารดาไว้ในหนังสืออัตชีวประวัติของเธอว่า

“ฉันจะเอาเถ้าของแม่ไปเก็บไว้ที่บาร์ในบ้าน คิดว่าแบบนี้ท่านจะได้อยู่ใกล้ชิดสิ่งสำคัญที่สุดสองอย่างในชีวิตไปตลอดกาล นั่นคือ ฉันกับสารพัดเหล้า”