‘ติดคนรวยซวยคนจน’ ‘โควิดรอบ 3’ เร็ว-แรง รัฐบาลสู่ที่ ‘อโคจร’ ‘เศรษฐกิจ-การเมือง’ ทรุดซ้ำ / บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

‘ติดคนรวยซวยคนจน’

‘โควิดรอบ 3’ เร็ว-แรง

รัฐบาลสู่ที่ ‘อโคจร’

‘เศรษฐกิจ-การเมือง’ ทรุดซ้ำ

เป็นข่าวใหญ่ต่อเนื่องสั่นสะเทือนทุกวงการ

เมื่อเชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดใหม่รอบ 3

ต้นตอจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงชื่อดังย่านทองหล่อ ก่อนแพร่กระจายกันในกลุ่มนักท่องราตรี

จากใจกลางเมืองหลวงกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร ลามพึ่บพั่บไปยังจังหวัดหัวเมืองใหญ่และจังหวัดต่างๆ เกินครึ่งประเทศ

ส่งผลให้ยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ทรงตัวอยู่ในระดับหลักสิบต่อวัน กลับมาพุ่งทะยานขึ้นเป็นหลักร้อย หลักครึ่งพันภายในระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์

กระตุกให้รัฐบาลโดยศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ต้องยกระดับเพิ่มมาตรการคุมเข้มเร่งด่วน ป้องกันการแพร่ระบาดหนักช่วงเทศกาลสงกรานต์

ทำให้บรรยากาศปีใหม่ไทยกร่อยลงไปถนัดตา ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 นับตั้งแต่การระบาดรอบแรกต้นปี 2563

โควิดรอบ 3 หรือ Third Wave รัฐบาลยืนยันไม่ล็อกดาวน์ ประชาชนผู้คนยังเดินทางข้ามจังหวัดกลับภูมิลำเนาหรือท่องเที่ยวได้

แต่ก็ยังทิ้งทุ่นเปิดทางให้อำนาจผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด มีอิสระในการตัดสินใจประกาศได้เอง ว่าต้องใช้มาตรการยาแรงระดับใด เพื่อป้องกันพื้นที่จังหวัดของตัวเองไม่ให้เชื้อโควิดเล็ดลอดเข้ามาได้

ผลพวงจากคลัสเตอร์ทองหล่อ ทำให้ ศบค.สั่งปิดสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ และอาบอบนวด ทั้งหมดในกรุงเทพมหานครศูนย์กลางการแพร่ระบาด และในอีก 40 จังหวัดที่เชื้อแพร่กระจายออกไป อย่างน้อย 14 วัน

หรืออาจมากกว่านั้นหากสถานการณ์ไม่ดีขึ้น

 

จากโควิดระลอกใหม่ที่ลุกลามรุนแรงรวดเร็ว ซ้ำเติมวิกฤตประเทศทรุดหนักทุกด้าน

เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบเรื้อรังมานานนับปี ชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้า ผู้ประกอบการห้างร้าน สถานบันเทิง รีสอร์ต โรงแรมที่พัก พนักงานลูกจ้างภาคบริการและการท่องเที่ยว ฯลฯ ต่างหวังจะลืมตาอ้าปากในช่วงสงกรานต์ กลับต้องมาเจอกับโควิดรอบ 3 อย่างคาดไม่ถึง

แต่ที่แปลกใหม่คือการระบาดรอบนี้ ยังส่งผลสะเทือนต่อการเมืองอย่างรุนแรง

เมื่อมีชื่อนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เป็น 1 ในผู้ป่วยติดเชื้อ จากคลัสเตอร์ทองหล่อ ที่มีจำนวนผู้ป่วยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ก่อนรวมกว่า 250 คน มีทั้ง ส.ส.รัฐบาล นายตำรวจ นายทหารระดับสูง ข้าราชการ ไฮโซ ดารา นักร้อง นักดนตรีติดเชื้ออีกหลายคน เรียกว่ามาจากแทบทุกวงการกันเลยทีเดียว

ยังมีคนดังอย่าง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ที่ติดเชื้อจากการไปเตะบอลกระชับมิตร แล้วลามติดถึงภรรยา นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่รู้แน่ชัดว่าติดเชื้อจากไหน เป็นต้น

กรณีนายศักดิ์สยาม ทำให้ ส.ส.ภูมิใจไทยต้องกักตัว 14 วัน ยกพรรค รวมทั้งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรค หลังทั้งหมดร่วมงานทำบุญวันเกิดพรรคครบ 13 ปีเมื่อวันที่ 6 เมษายน

นอกจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯ เลขาพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำกระเช้าดอกไม้ไปร่วมยินดี งานนี้ยังทำให้สมเด็จพระวันรัต เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศฯ และพระอนุจรอีก 8 รูป ต้องกักตัวด้วยเช่นกัน

นายศักดิ์สยามถูกฝ่ายค้านยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจบการอภิปรายปรากฏว่า 6 ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ พรรคพลังประชารัฐ ของ “มาดามเดียร์” น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี งดออกเสียงไว้วางใจนายศักดิ์สยาม จนกลายเป็นปมบาดหมางกันตั้งแต่นั้นมา และเป็นเหตุให้ต่อมา น.ส.วทันยาและ ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ถูกปลดออกจากการเป็นวิปรัฐบาล และจากทุกตำแหน่งในพรรคพลังประชารัฐ กระทั่งเมื่อนายศักดิ์สยามติดเชื้อโควิด น.ส.วทันยาจึงเป็น ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลคนแรกๆ ที่ออกมาเรียกร้องให้นายศักดิ์สยามเปิดเผยไทม์ไลน์ให้ชัดเจน ว่าได้ไปเที่ยวคลับหรูย่านทองหล่อ คลัสเตอร์โควิดรอบ 3 ด้วยหรือไม่

“เขาก็บอกมาว่าติดจากลูกน้อง เขาติดจากหน้าห้อง จะต้องถามไทม์ไลน์อะไร เพราะท่านก็ไม่ได้ไปไหน แค่ไปประชุม การติดก็ติดมาจากหน้าห้องซึ่งเป็นคนใกล้ชิด” สรุปยังคงเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ที่พยายามตัดบทเรื่องนี้ไม่ให้บานปลาย สั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลโดยรวม

 

กรณีคลัสเตอร์ผับทองหล่อ ก่อให้เกิดคำถามจากสังคมถึงความรับผิดชอบ

เพราะผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดทุกรอบจนแทบกระอักเลือด หนีไม่พ้นประชาชนหาเช้ากินค่ำ และผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อย

ย้อนกลับไปยังการแพร่ระบาดโควิดรอบแรกต้นปี 2563 คลัสเตอร์การแพร่กระจายเป็นกลุ่มก้อนใหญ่มาจากสนามมวยที่มีกองทัพและทหารดูแลรับผิดชอบ

ทั้งที่หน่วยงานการกีฬาฯ มีหนังสือเตือนให้ปิดและหยุดกิจกรรมชกมวย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ แต่สุดท้ายสนามมวยลุมพินียังยืนกรานให้เปิดและจัดชกมวยต่อไปจนเกิดการแพร่ระบาดและมีผู้ติดโควิดหลายร้อยคน

ส่วนการแพร่ระบาดรอบ 2 ช่วงปลายปี 2563 ต่อเนื่องต้นปี 2564 มาจากคลัสเตอร์ตลาด จ.สมุทรสาคร แหล่งรวมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายที่ลักลอบเข้ามาทำงานในตลาด ก่อนลุกลามไปยังตลาดในอีกหลายจังหวัด

รวมถึงคลัสเตอร์บ่อนพนันภาคตะวันออก จันทบุรี ระยอง และชลบุรี

กระทั่งมาถึงการระบาดซ้ำรอบ 3 ช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา คลัสเตอร์สถานบันเทิงคลับ ผับ เลาจน์ ย่านทองหล่อ ซึ่งมีนักการเมือง ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ กลุ่มคนมีฐานะเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก

นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุถึงเชื้อโควิดรอบใหม่นี้ว่า

เป็นโควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษ แพร่มาจากกัมพูชา ติดเชื้อได้เร็วกว่าปกติ 1.7 เท่า โดยมาจากการเคลื่อนย้ายของประชาชนระหว่างกัมพูชาและไทย ทั้งแรงงานต่างด้าว คนไทยที่ข้ามไป-ข้ามมา

น่าจะเป็นต้นเหตุในการแพร่ระบาด

 

หลังเกิดคลัสเตอร์ผับทองหล่อ ต้นตอแพร่ระบาดโควิดรอบ 3 นายชูวิทย์ กลมวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองและอดีตเจ้าของธุรกิจสีเทา ออกมาแฉละเอียดยิบ

“คริสตัลคลับ หรือไทยคู่ฟ้าคลับ มีทั้งระดับรองนายกฯ รัฐมนตรี นักการเมือง ส.ส.ฝั่งรัฐบาล ผู้ว่าขบวนความเร็ว ทีมงาน แถมมีต่างชาติชาวญี่ปุ่นร่วมวงเฮฮา จับก๊วนนักธุรกิจใหญ่ในห้อง VVIP ลี้ลับหลบสายตา คุยโครงการพันล้านหมื่นล้านอวดเด็ก”

นายชูวิทย์ยังอ้างว่ามีหลักฐานภาพถ่ายทะเบียนรถของรัฐมนตรีที่เข้าไปจอดยังลานจอดรถ VVIP เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาด้วย

“เรื่องพวกนี้เป็นชายชาตรีไม่เห็นต้องอับอาย หากติดโควิด แจงไทม์ไลน์ให้ชัด คนอื่นจะได้ไม่เดือดร้อน ทีชาวบ้านบังคับให้เขาแสดงไทม์ไลน์ แต่พอไปเองจะต้องอายอะไร”

ก่อนสรุปสถานการณ์โควิดรอบ 3 นี้ว่า “ติดคนรวยซวยคนจน” เพราะคนที่ไปเที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ถือเป็นคนรวยมีเงินเที่ยวคืนละเป็นหมื่นเป็นแสน แต่พอติดโควิดขึ้นมา ต้องเดือดร้อนคนจน เผชิญชะตากรรมที่ไม่ได้ก่อ

กรณีนายศักดิ์สยาม น่าจะสร้างความหงุดหงิดให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอยู่ไม่น้อย ถึงขนาดสั่งให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารรณาว่าการใช้คำว่าไทยคู่ฟ้าคลับ ผิดกฎหมายหรือไม่ “การใช้คำว่าไทยคู่ฟ้าไปทำโน่นทำนี่ ขอให้ระวังกันด้วย”

ส่วนเสียงวิพากษ์วิจารณ์นักการเมือง รัฐมนตรีบางคนเดินทางไปสถานที่อโคจร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครจะไปที่ไหนมาก็รู้ตัวอยู่แล้ว รัฐบาลไปห้ามไม่ได้ อยู่ที่ตัวบุคคล วันนี้มองว่าเป็นบทเรียนพอสมควรแล้ว ขอให้หยุดกันเสียที เพราะหากใครติดเชื้อก็ต้องรักษา

“เป็นบทเรียนว่าสถานที่อโคจร ไม่ควรไป”

 

การแพร่ระบาดของโควิดทั้ง 3 รอบ ส่งผลกระทบทั้งเศรษฐกิจปากท้องชาวบ้านอย่างมาก

รวมถึงยังส่งผลทางการเมือง ที่นอกจากก่อให้เกิดรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเอง ยังกลายเป็นจุดอ่อนให้พรรคฝ่ายค้านนำมาโจมตีถึงการแก้ไขปัญหาที่ผิดพลาดและล้มเหลวของรัฐบาล

โดยเฉพาะการบริหารจัดการเรื่องการกระจายวัคซีน ที่นอกจากล่าช้า ยังเป็นการแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เกาไม่ถูกที่คัน แผนกระจายการฉีดวัคซีนไม่ชัดเจน

ดังจะเห็นได้ว่าการระบาดของโควิดระลอก 3 เกิดขึ้นในช่วงที่ไทยมีวัคซีนแล้ว และได้ฉีดให้เจ้าหน้าที่กับคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงไปแล้ว แต่ทำไมตัวเลขผู้ติดเชื้อยังกระจายเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังมีบุคลากรทางการแพทย์อีกจำนวนมากที่ออกมาเรียกร้องว่ายังไม่ได้รับวัคซีน

จากการแพร่ระบาดของโควิดทั้ง 3 รอบ จึงสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลว ผิดพลาด บกพร่องของรัฐบาล ปล่อยให้แรงงานลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ปล่อยให้มีการเปิดบ่อนพนันอย่างโจ๋งครึ่ม และไร้มาตรการคุมเข้มสถานบันเทิง

ความหย่อนยานของรัฐบาลและหน่วงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้สังคมไม่อาจมั่นใจได้ว่าเมื่อจบการระบาดรอบ 3 แล้วยังจะมีรอบ 4 รอบ 5 ตามมาอีกหรือไม่

และแผนการเปิดประเทศเพื่อพื้นฟูเศรษฐกิจ อาจต้องทอดยาวออกไปอีกนานเป็นปี นำพาประเทศสู่จุดอโคจรอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง