หลังเลนส์ในดงลึก : ‘กฎ’ / ปริญญากร วรวรรณ

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
หมาไน - พวกมันเป็นนักล่า ซึ่งประสบผลมาก ไม่มีกฎในการล่า วิ่งไล่เข้าล้อมเหยื่อจนมุม แต่เมื่อไม่ใช่เวลาทำงาน มันก็เดินผ่านเก้ง, กวาง หรือนอนแช่อยู่ใกล้กันได้

 

‘กฎ’

 

ในงาน ผมเคยเขียนถึงเพื่อนๆ ที่ทำงานร่วมกันในป่าเสมอๆ พูดได้ว่า งานของผมจะทำไม่ได้หรอก ถ้าไม่มีเพื่อนเหล่านี้ช่วยเหลือ อีกความจริงหนึ่งซึ่งผมบอกใครตลอดว่า ในป่า ผมเป็นคนที่ทำงานง่ายที่สุด

ทำแค่เพียงกดชัตเตอร์ รอให้สัตว์ป่าอนุญาตให้ถ่ายรูป

แต่คนผู้ทำงานหนักจริงๆ คือคนทำงานในป่า พวกเขาปกป้องดูแล “บ้าน” ของสัตว์ป่า และการไล่ล่าตัวพวกมัน

ทำงานและอยู่ในป่าไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่ได้ยากเข็ญ เพื่อให้อยู่ในป่ายาวนานอย่างรื่นรมย์ หลายคนจึงมีอะไรแปลกๆ

ดังนั้น กับเพื่อนๆ ในป่า ผมคิดว่ามีคุณสมบัติหนึ่งที่พวกเขามี และผมชอบ คือเกือบทุกคนมีความ “เพี้ยน” เล็กๆ

และมีกฎบางอย่าง ซึ่งพวกเขาละเลย

กฎที่ว่าคือ ปล่อยให้มีสัตว์เลี้ยงอยู่ในหน่วยพิทักษ์ป่า

สัตว์เลี้ยงนั่นคือ แมว

 

ไม่มีใครรู้หรอกว่า อ้วน แมวตัวผู้อาวุโสสีตุ่นๆ ดวงตาสีเหลืองตัวนี้อายุเท่าไหร่ รู้เพียงว่า มันอยู่ในหน่วยพิทักษ์มาแล้วกว่า 10 ปี

อยู่มานานกระทั่งคล้ายเป็นเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง

เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นคนนั้น หลายคนมาอยู่และจากไปอยู่ที่อื่น แต่อ้วนคงอยู่

“ลุงแก้ดแกเอามาจากบ้านครับ ตั้งแต่ช่วงแกยังไม่เกษียณ เอามาสองตัว อีกตัวก็แจ๋วแหววไงครับ” คนในหน่วยเล่าความเป็นมาของอ้วน

แมวชื่อแจ๋วแหววนั้น คนในป่ารู้จักดี เพราะมันเป็นสหายสนิทของเจ้าหน้าที่ประจำสถานีวิทยุแม่ข่าย มีสมญาว่าเสือผอม

สถานีวิทยุเป็นห้องแคบๆ เสือผอมอยู่ที่นั่นกับแจ๋วแหวว

“แสนรู้ครับ” เสือผอมพูดถึงเพื่อน “ผมพูดอะไรฟังรู้เรื่องหมด”

เสือผอมใช้แจ๋วแหววเป็นนาฬิกาปลุก

“ผมจะสั่งมันว่า เช้าจะให้ปลุกกี่โมง ถึงเวลามันจะปีนขึ้นมาบนตัว ตามเวลาที่สั่งไว้เลยละ” เขาบอกอย่างภูมิใจ

ผมพยักหน้าฟังอย่างเชื่อครึ่งเดียว

ช่วงที่แจ๋วแหววตาย เสือผอมเศร้าอยู่พักใหญ่ หลังมีไก่ป่ามาอยู่เป็นเพื่อนแทนแจ๋วแหวว เขาก็อาการดีขึ้น

ทุกคนในป่ารู้จักเพื่อนเขาอีก เพราะทุกครั้งที่กดคีย์เพื่อพูดวิทยุ เจ้าไก่ป่าจะส่งเสียงขันแทรกตลอด

 

ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม ในป่าเป็นช่วงมรสุม จึงคล้ายเป็นเรื่องปกติที่บนเส้นทางมีไม้ล้มขวาง หล่มลึก ระดับน้ำสูง การเดินทางใช้เวลาเพิ่มมากขึ้น

บนเส้นทางนี้ เมื่อรถจมโคลนต้องปีนออกทางหน้าต่าง

ช่วงมรสุมอย่างนี้ ผมจึงมักใช้เวลาอยู่ในหน่วยพิทักษ์ป่ามาก

ต้นไทรข้างหน่วยออกลูกล่าช้ากว่าปีก่อน นกเงือกกรามช้างซึ่งมารวมฝูงอยู่ในหุบหลังหน่วย ในช่วงเวลานี้ในปีที่แล้วยังไม่ปรากฏให้เห็น

ต้นผลไม้หลายชนิดที่ควรจะออกลูก มีแค่ใบเขียวๆ มีต้นมะเม่าเท่านั้นที่ออกลูกตรงตามเวลา

ตามโป่ง อันเป็นแหล่งอาหารเสริม เงียบเหงา กระทิงน่าจะเพลิดเพลินอยู่กับหน่อไม้รวก ด่านใกล้ๆ หน่วยมีกลิ่นหอมๆ จากการที่เสือโคร่งมาสเปรย์ หรือพ่นฉี่ไว้กับต้นไม้ข้างด่าน

 

การเดินทางในป่ายากขึ้น แต่สำหรับคนล่าสัตว์ นี่ไม่ใช่อุปสรรค

ข่าวการปะทะระหว่างชุดลาดตระเวนกับคนล่าสัตว์ ทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตสองราย คนล่าสัตว์เสียชีวิตในที่เกิดเหตุหนึ่งราย อีกหลายคนบาดเจ็บหลบหนีไปได้

คนในป่ารับทราบข่าวนี้ด้วยความห่วงใย ทุกครั้งที่ออกลาดตระเวน พวกเขาไม่รู้หรอกว่าจะพบเจออะไรบ้าง

 

ในหน่วยพิทักษ์ป่า วันนี้หลายหน่วยเรียกได้ว่าค่อนข้างสะดวกสบาย มีไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จานดาวเทียมรับสัญญาณโทรทัศน์

ทุกเย็นในครัวเล็กๆ จึงคึกคัก ช่องทีวีถูกจับจองโดยคนที่มาก่อน เขาจะถือรีโมตไว้

แต่ที่นี่จะเงียบเหงาในวันที่พวกเขาออก วอ.สี่

โรงครัวจึงเป็นพื้นที่ของอ้วน ทุกคนรู้ดีว่า ผมกับอ้วนสนิทกัน

มันมักเข้ามายืนใกล้ๆ เอาหัวซบขา ไม่ก็ขึ้นมานอนบนตัก นานๆ จะเหลือบตาสีเหลืองนั่นมองหน้า

ผมสบตากับมัน ความสนิทสนมอาจเป็นเพราะเราอยู่ในวัยอาวุโสเช่นกัน

อ้วนไม่มีความสามารถพิเศษอะไร ไม่ออกไปนอกหน่วย ใช้เวลาเกือบทั้งหมดอยู่ในครัวอันเป็นถิ่น

“มันรู้ว่าพี่จะมานะครับ พอได้ยินเสียงรถจะออกมายืนรอเลย”

คนในหน่วยบอก พอพบหน้า อ้วนร้องเสียงดัง ผมต้องนั่งลงลูบหัวทักทาย เอาตัวเข้ามากอดจึงเงียบเสียง

 

มรสุมทำให้การทำงานไม่ง่าย การอยู่นิ่งๆ พร้อมใจอันสงบจำเป็น อ้วนช่วยผมได้

ท่ามกลางสายฝนโปรย ละอองฝนสาด ผมครึ่งนั่งครึ่งนอนอยู่ในถิ่นอ้วนที่นอนอยู่บนตัก

สายฝนหนักคล้ายเป็นอุปสรรค

แต่สัตว์ป่าสอนให้รู้นานแล้วว่า หยุดนิ่งๆ หยุดใจที่ร้อนรุ่ม กระวนกระวาย จุดหมายจะใกล้ขึ้น

ผมสบตากับดวงตาสีเหลืองของอ้วน ผมไม่รู้ชัดเจนนักว่าความเป็นมาของมันเป็นอย่างไร ไม่รู้หรอกว่า มันผ่านอะไรมาบ้างก่อนมาอยู่อย่างผิดกฎในที่นี่

ในวันที่ต้องหยุดนิ่งๆ มันบอกผมอย่างหนึ่ง

หากชีวิตคือเรื่องซึ่งต้องเป็นไปตาม “กฎ” ที่ถูกกำหนดไว้

บางครั้งเลือกละเลยกฎบ้าง หนทางเดินจะชัดเจนขึ้น