‘ฮาน เลย์’ นางงาม ‘หัวใจแกรนด์’ กู่ก้อง Heal the World วิงวอนโลก รักษาชีวิตชาวเมียนมา / บทความในประเทศ

บทความในประเทศ

 

‘ฮาน เลย์’

นางงาม ‘หัวใจแกรนด์’

กู่ก้อง Heal the World

วิงวอนโลก รักษาชีวิตชาวเมียนมา

 

เป็นเวลาเกือบร่วม 2 เดือนแล้ว สำหรับการเข้ายึดครองอำนาจของกองทัพเมียนมา นำโดย พล.อ.อาวุโส ‘มิน อ่อง ลาย’ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียด และความสูญเสียของประชาชนชาวเมียนมารายวัน

หลังออกมาช่วยกันเรียกร้อง แสดงอายระขัดขืน ไม่ยอมรับการทำรัฐประหารของกองทัพเมียนมา ด้วยหลากหลายวิธีการ

ทั้งตีเกราะเคาะหม้อประท้วงด้วยน้ำตา จอดรถกลางถนน นัดรวมพลหยุดงานทั้งประเทศ ไปจนถึงการต่อต้านขั้นรุนแรง

นั่นก็คือการเผชิญหน้ากับกองทัพ ส่งผลให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ณ ขณะนี้ยอดเกินครึ่งพันไปแล้ว

สะท้อนภาพความโหดร้ายของกองทัพเมียนมาที่กระทำต่อประชาชนอย่างโหดเหี้ยมและเลือดเย็น

มีทั้งผู้ใหญ่ไปจนถึงเด็กตัวเล็กๆ ที่โดนลูกหลงจากกระสุนยางของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นชายชาติทหาร

ภาพความรุนแรงในการปราบปรามประชาชนนำมาซึ่งความสลดหดหู่ของคนที่ได้เห็นภาพเหล่านั้นเป็นอย่างมาก

แต่เมียนมาก็ยังไร้การช่วยเหลือจากนานาประเทศอย่างจริงจัง…

 

ขณะเดียวที่แผ่นดินของพม่าลุกเป็นไฟจากไม่ยอมรับการยึดอำนาจ ‘ฮาน เลย์’ ตัวแทนสาวงามของพม่า เจ้าของตำแหน่งมิสแกรนด์เมียนมา 2020 และรองอันดับหนึ่ง 1 มิสยูนิเวิร์สเมียนมา 2020 ได้เดินทางจากบ้านเกิดมาเข้าร่วมการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

หากเป็นช่วงสถานการณ์ปกติ ระยะเวลาการเดินทางประเมินได้เป็นหลักชั่วโมง

แต่ความจริงแล้วเจ้าตัวต้องใช้เวลามากถึง 2 วัน เพื่อเดินทางออกจากเมียนมามาที่ไทย เนื่องจากมีการปิดเส้นทางการบิน จึงต้องเดินทางไปที่สนามบินมาเลเซียและใช้เวลารอเครื่องนานถึง 8 ชั่วโมง จึงสามารถเดินทางมาถึงประเทศไทยได้สำเร็จ

แม้สถานการณ์บ้านเมืองของเธอจะไม่เอื้อต่อการเตรียมตัวมากนัก และการ ‘สละสิทธิ์’ เป็นเรื่องที่ทำได้

แต่ความหวังในฐานะนางงาม หากได้รับรางวัลก็อาจจะสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศของตนได้ไม่มากก็น้อย

รวมถึงสถานการณ์ความรุนแรงในแผ่นดินมาตุภูมิของเธอก็อาจจะทุเลาเบาลงได้

 

โดยในค่ำคืนวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 มีสาวงามกว่า 63 ประเทศเข้าร่วม และ ‘ฮาน เลย์’ ก็เป็นหนึ่งในนั้น

แม้การประกวดในครั้งนี้ เจ้าตัวจะไม่สามารถไปถึงรอบลึกๆ ได้สำเร็จตามหัวใจปรารถนา

แต่ไฟสปอตไลต์ขนาดใหญ่กลับส่องสว่างมายังตัวเธอ ชนิดที่ใครก็ไม่สามารถปฏิเสธได้

เมื่อทางกองประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ของ ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ กล้าเปิดพื้นที่และมอบแสงไฟให้กับมิสแกรนด์เมียนมา ขึ้นไปพูดสุนทรพจน์บนเวที แสดงทัศนคติตามคอนเซ็ปต์ของเวที ‘Stop The War & Violence’

ประจวบเหมาะตรงกับวันกองทัพเมียนมา มีการจัดพิธีสวนสนามอย่างยิ่งใหญ่อลังการ กลับกลายเป็นว่าม่านหลังพิธีสวนสนามนั้น มีการสลายการชุมนุมต่อต้านรัฐประหารอย่างรุนแรงและหนักหน่วงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แม้จะมีคำเตือนออกมาก่อนหน้า ห้ามผู้คนออกมาชุมนุมเพราะอาจจะโดนยิงที่ศีรษะและหลัง แต่ไม่สามารถสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวเมียนมาเลยแม้แต่น้อย

และในวันนั้นจะเรียกว่าเป็น ‘ฆาตกรรมหมู่’ ก็ไม่ผิดแปลกนัก

ยอดผู้เสียชีวิต 114 ราย มากที่สุดนับตั้งแต่เมียนมาทำการรัฐประหารมา นอกจากนี้ ยังมีผู้ถูกจับกุมอีกหลายพันคน

‘ฮาน เลย์’ ที่อยู่ในระหว่างการประกวดก็ได้รับทราบข่าวร้ายนี้พร้อมกับทุกคน ก่อนที่เจ้าตัวจะขึ้นไปกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีด้วยหัวใจที่ ‘เจ็บปวด’

ใจความมีว่า…

 

‘สวัสดีค่ะ การมายืนบนเวทีนี้ในวันนี้เป็นเรื่องยากมากจริงๆ ชาวเมียนมาอยากให้ฉันเป็นตัวแทนออกมาพูดถึงความเจ็บปวดและความเศร้าโศกที่พวกเขาต้องเผชิญ จากสถานการณ์ในปัจจุบันที่เกิดขึ้นกับประเทศเมียนมาที่ฉันรัก

ฉันขอแสดงความเสียใจแด่ผู้คนที่ต้องเสียชีวิตบนท้องถนน คนทุกคนบนโลกนี้ล้วนต้องการให้ประเทศของตัวเองเจริญรุ่งเรืองและสงบสุข

ดังนั้น ผู้นำแต่ละประเทศจึงไม่ควรใช้อำนาจและความโหดร้ายเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง แล้วทำไมประชาชนผู้บริสุทธิ์จึงต้องมาเสี่ยงชีวิตของพวกเขาด้วย หากสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับที่อื่น คนทั้งโลกคงพยายามหาทางออกและมอบความช่วยเหลือให้

วันนี้ในประเทศเมียนมา ขณะที่ฉันกำลังยืนอยู่บนเวทีแห่งนี้ ยังมีคนที่ต้องล้มตายกว่าหนึ่งร้อยคน ฉันเสียใจต่อผู้คนเหล่านี้ที่ต้องสูญเสียชีวิตไป คนในเมียนมาลงถนนเพื่อต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย ฉันเองก็เป็นหนึ่งในคนที่ปรารถนาอยากจะเห็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นในประเทศเช่นกัน

ฉันขอขอบคุณเวทีมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ให้โอกาสฉันได้ขึ้นมาพูดเรื่องนี้บนเวที ฉันอยากบอกว่า ได้โปรดช่วยพวกเราชาวเมียนมาด้วย เราต้องการความช่วยเหลือจากประชาคมโลกอย่างโดยเร็วที่สุดค่ะ’

 

ทันทีที่ประโยคสุดท้ายจบลง เสียงปรบมือจากแฟนนางงามดังกึกก้องส่งมอบกำลังใจให้กับนางงามหัวใจกล้าคนนี้

โลกออนไลน์เองก็เช่นกัน มีการแชร์คลิปการพูดของ ‘ฮาน เลย์’ พร้อมติดแฮชแท็ก #WhatsHappeningInMyanmar กระจายข่าวและส่งกำลังใจให้เธอตลอดจนชาวเมียนมา ให้อดทนและขอความโหดร้ายที่กองทัพทำกับประชาชนได้จบลงในเร็ววัน

รวมถึงชื่นชมเวทีการประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ ‘กล้า’ เปิดพื้นที่ให้นางงามคนนี้ส่งเสียงเล็กๆ ของเธอให้ดังไปทั่วโลก

นอกจากนี้ ‘ฮาน เลย์’ ยังถือโอกาสร้องเพลง ‘Heal The World’ ของ ‘ไมเคิล แจ๊กสัน’ พร้อมส่งสารผ่านภาษามือ สื่อถึงโลกที่เต็มไปด้วยเท่าเทียมที่เธอใฝ่ฝัน จนหลายคนประทับใจและส่งกำลังใจให้เธออย่างต่อเนื่อง

ความปรารถนาเดียวของผู้หญิงคนนี้คือหวังว่าประเทศของเธอจะได้รับความช่วยเหลือ และช่วยรักษาชีวิตชาวเมียนมาไม่ให้สูญเสียไปมากกว่านี้ จากโอกาสเดียวที่เธอมีในค่ำคืนวันนั้น แลกกับความเสี่ยงของชีวิต หากวันหนึ่งวันใดต้องเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด

 

ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 31 มีนาคม ‘ณวัฒน์ อิสรไกรศีล’ ผู้อำนวยการกองประกวด มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ได้พา ‘ฮาน เลย์’ ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเป็นครั้งแรก ยืนยันจะช่วยเหลือนางงามคนนี้ให้ถึงที่สุด

โดยขั้นต้นจะให้พักอยู่ในประเทศไทยไปก่อนอย่างน้อย 3 เดือน

ในระหว่างนี้จะให้เข้าร่วมกิจกรรมกับทางทีมมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล 2020 โดยจะมีพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิด

และทางองค์กรจะทำเรื่องขอวีซ่าใบอนุญาตทำงานในไทยให้ถูกต้องตามกฎหมาย

หากไม่ได้รับอนุญาตจากทางการไทย ก็จะเปลี่ยนเป็นการยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวแทน เนื่องจากสถานะของนางงามอยู่ในสภาวะที่ประเทศไทยต้องจำยอม

‘กรณีนี้เป็นกรณีที่ทั่วโลกเทใจให้นะครับ เพราะฉะนั้น เราจะคิดว่าไม่ใช่ธุระของเราคงไม่ถูก เนื่องจากเราเป็นมนุษยชาติ และเป็นหน้าที่ของทุกคนอยู่แล้วที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือ สิทธิมนุษยชนไม่มีพรมแดน ผมเองจะทำอะไรก็ต้องดูเรื่องกฎหมายก่อนอยู่แล้ว เราต้องยอมรับนะครับว่าการปฏิวัติมันเกิดความสูญเสียกับทุกๆ คน และไม่เคยให้ประโยชน์กับใคร ฉะนั้น เมื่อเขาไปอยู่ที่ไหน เขามีสิทธิ์ที่จะพูด อันนี้เป็นสิทธิ์สากลอยู่แล้ว ถ้าไม่ต่อให้ก็ไม่มีความชอบธรรม’

ณวัฒน์กล่าว

 

ขณะเดียวกันนางงามสาวก็ได้เล่าถึงสถานการณ์อันโหดร้าย และการกระทำของกองทัพที่ป่าเถื่อนทั้งน้ำตา บอกเล่าความฝันของเธอที่อยากจะเป็นแอร์โอสเตสได้จบลงแล้ว ตอนนี้ต้องการเป็นนักการเมืองหรือนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่ออยากจะช่วยเหลือประเทศมากกว่า

หากไปย้อนดูเฟซบุ๊ก ‘ฮาน เลย์’ จะเห็นชัดว่าเธอติดตามข่าวสารและร่วมเรียกร้องประชาธิปไตย นับตั้งแต่ทหารเมียนมาเข้ามาทำการยึดอำนาจ ไม่เว้นแม้แต่ออกมาร่วมแสดงจุดยืน ชูป้าย ชู 3 นิ้วเลือกอยู่ข้างประชาชน เฉกเช่นเดียวกับคนดังในพม่าหลายๆ คน

นอกจากนี้ เจ้าตัวยังเคยโพสต์ข้อความถามถึงองค์การสหประชาชาติ หรือ UN ในฐานะองค์กรเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ว่าจะต้องให้มีคนตายอีกกี่ศพ จึงจะออกมาช่วยเหลือชาวเมียนมาที่โดนทางกองทัพทหารไล่ฆ่าอย่างโหดเหี้ยมและไร้ความปรานี เพียงเพราะไม่ยอมรับการยึดอำนาจ

แม้ต้องแลกกับความเสี่ยงจากการออกมาพูด แต่ ‘ฮาน เลย์’ ยังคงยืนยันจะใช้เสียงของเธอเป็นกระบอกเสียงแทนชาวเมียนมา และหวังว่าประชาคมโลกจะรับฟังเสียงเล็กๆ ของเธอ พร้อมยื่นมือเข้ามาช่วยรักษาชีวิตชาวเมียนมา

ไม่ให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้อีกต่อไป…