ใส่บ่าแบกหาม : The Lady in the Van

เธอจ๊ะ

The Lady in the Van เป็นหนังจากประเทศอังกฤษ แนวชีวิตปนตลก สร้างจากเรื่องจริงของ Alan Bennett นักเขียนผู้ซึ่งสร้างมิตรภาพอันยาวนานกับ Mary Shepherd หญิงสูงอายุที่อาศัยในรถตู้บุโรทั่ง ที่มาอาศัยจอดหน้าบ้านตั้ง 15 ปี

Maggie Smith แสดงเป็น มิสเชพเพิร์ด หญิงสูงอายุคนนั้น

ตอนเรื่องนี้เอามาทำละครเวที แม็กกี้ สมิธ เคยแสดงบทนี้แล้ว

เรื่องก็เริ่มในวันหนึ่ง มิสเชพเพิร์ดขับรถบนถนนอยู่ดีๆ กลับมีคนขี่มอเตอร์ไซค์ ที่ชายผู้นี้ต้องเรียกอยู่ดีไม่ว่าดี ขี่มาชนโครมเข้าให้ มิสเชพเพิร์ดตกใจลงไปดู คนขี่มอเตอร์ไซค์ตายคาที่ หากแต่มิสเชพเพิร์ดก็ไพล่ไปคิดว่าตัวเองเป็นคนทำให้เขาตาย เลยคิดแต่ว่าต้องหนี จึงกลายเป็นคนเร่ร่อนไปตามถนนต่างๆ ตั้งแต่วันนั้น

มิสเชพเพิร์ดเป็นหญิงปากร้าย ขี้หงุดหงิด ชีวิตแกผ่านเรื่องราวมากมาย ทั้งดีและร้าย หนังเขาก็ค่อยๆ เฉลยให้เราคนรู้ได้รู้ทีละนิดๆ

I’m a sick woman.
Dying, possibly.

ฉันป่วย
ใกล้ตายด้วยซ้ำไปมั้ง

มิสเชพเพิร์ดอ้างแบบนี้เวลามีคนมากวนใจ

ก่อนหน้าที่มิสเชพเพิร์ดจะมาอาศัยจอดที่ทางเข้าบ้านคุณเบนเน็ตต์ มิสเชพเพิร์ดเที่ยวจอดหน้าบ้านคนอื่นๆ มาก่อนหลายต่อหลายหลังบนถนนเส้นหนึ่ง ทั้งถนนก็คุ้นเคยกับมิสเชพเพิร์ด แต่ก็ไม่ได้อยากรู้จักมาก ก็คนเร่ร่อนนี่นะ

อย่างคุณเบนเน็ตต์ ได้พูดคุยกับมิสเชพเพิร์ดก็ตอนมิสเชพเพิร์ดต้องย้ายที่จอดรถ เลยขอให้ช่วยเข็นรถตู้บุโรทั่ง มิสเชพเพิร์ดแกไม่ยอมขับ บอกว่าเปลืองน้ำมัน

04LADYINVAN-superJumbo-720x479

คุณเบนเน็ตต์ก็ช่วยเข็นไปไกล แต่มิสเชพเพิร์ดก็ไม่บอกเสียทีว่าถึงที่หมายหรือยัง

Possibly.
I’m in two minds.

คงถึงมั้ง
ฉันยังสองจิตสองใจอยู่เลย

be in two minds เป็นสำนวนอังกฤษ หมายถึง ตัดสินใจไม่ได้ ไม่รู้จะยังไงดี หรืออย่างของไทยก็มีสำนวนความหมายนี้ สองจิตสองใจ

ตอบมาแบบนี้ คุณเบนเน็ตต์อารมณ์เสียเลย เลิกเข็นกลางคันในทันใด!

คุณเบนเน็ตต์แกก็มีธุระปะปังของแกในแต่ละวัน ด้วยว่าเป็นนักเขียน ธุระหลักๆ ก็เขียนหนังสืออยู่บ้าน แกรักความสันโดษเอามากๆ อย่างตอนที่มิสเชพเพิร์ดมาขอเข้าห้องน้ำ แกก็บอกไปตรงๆ ว่าเข้าไม่ได้

The flush is on the blink.
ชักโครกมันไม่ค่อยดี

on the blink เป็นสำนวน มักใช้กับเครื่องมืออุปกรณ์ที่มันทำงานไม่ปกติ ออกแนวเกิดอาการผิดปกติ

blink แปลว่า กะพริบๆ แบบกะพริบตา หรือแสงหรือปุ่มที่มันกะพริบได้ มันเหมือนพวกเครื่องมือเครื่องใช้ไฟฟ้าของเรา ถ้าปุ่มไฟส่องแสงนิ่งๆ แสดงว่ามันปกติ แต่หากมันกะพริบ ก็แสดงว่ามันไม่ปกติ ออกแนวกำลังจะเสีย

นอกจากนั้น คุณเบนเน็ตต์แกยังชอบสนทนากับตนเอง

There is the self
who does the writing, and there is the self
who does the living.

มันก็มีตัวผมที่ลงมือเขียน และตัวผมที่ใช้ชีวิต

สรุปคือ แกสนทนากับตนเองได้ ขัดคอกันบ้าง เออออห่อหมกกันบ้าง ตามแต่ประเด็นเนื้อหาจะพาไป

แต่แกก็เขียนบทละครด้วยนะ ก็ต้องออกไปพบปะผู้คน ให้เคนได้ถามไถ่ว่าทำอะไรอยู่

I have got a play on in the West End in the pipeline
ผมก็มีละครที่เวสต์เอ็นด์กำลังเตรียมงานกันอยู่

in the pipeline เป็นสำนวน หมายถึง กำลังวางแผน กำลังทำ กำลังดำเนินงาน

น่าจะมาจากว่า pipeline แปลว่า ท่อส่ง สมมติว่าเราจะส่งน้ำมันไป พอน้ำมันอยู่ในท่อ ก็แสดงว่าได้ส่งไปแล้วและมันกำลังจะไปถึงที่หมาย

บางวันคุณเบนเน็ตต์ก็ไปเจอมิสเชพเพิร์ด ปูผ้าบนฟุตปาธนั่งขายของเก่าอีจุ๊กอีจิ๊ก

บางวันก็ได้เห็นกับตาว่ามิสเชพเพิร์ดโดนคนทำร้าย มาผลักบ้าง พูดจาแรงๆ ใส่บ้าง ก็คนเร่ร่อนนี่นะ แต่งตัวซอมซ่อ กลิ่นกายไม่สะอาด มีผู้คนรังเกียจ

แต่มิสเชพเพิร์ดก็ไม่ใช่คนไร้ฤทธิ์เดช มาว่าแก แกก็สู้

I’m not a beggar!
I’m self-employed,
and this gentleman is my neighbour.

ฉันไม่ได้เป็นขอทาน
ฉันเป็นนายตัวเอง
คุณคนนี้ก็เป็นเพื่อนบ้านฉัน

11-720x479

มิสเชพเพิร์ดต้องย้ายทำเลจอดรถไปเรื่อย เพราะผิดกฎจราจร ถ้าจะไปจอดรถแช่นานๆ บนถนน

แต่มิสเชพเพิร์ดแกก็เลือกนะ ไม่ได้ไปจอดบ้านใครก็ได้

มีฉากหนึ่ง แกได้ที่จอดก็กะว่าจะจอดแช่ได้สบายไปอีกหลายวัน แต่ทันใด บ้านนั้นมีลูกสาวกำลังเรียนดนตรี แกรีบเก็บของเตรียมอพยพเลย จนเจ้าของบ้านสงสัย ทำไมรีบไป ทำไมอยู่ไม่นาน?

Because it was non-stop music.
It’s the noise levels I”m worried about.

ดนตรีเล่นไม่หยุดระดับเสียงต่างหากที่ฉันกลุ้มใจ

ก็หนูน้อยบ้านนั้นเพิ่งเริ่มเรียนดนตรี เสียงมันก็ต้องบาดหูเป็นธรรมดา

นักสังคมสงเคราะห์มาเยี่ยมเยียน เอาเสื้อโค้ตมาให้ตั้งหลายตัว ก็มิสเชพเพิร์ดแกเคยบอกว่าอยากได้ แต่มิสเชพเพิร์ดแกก็เลือกนะ แกไม่ได้เก็บไว้ทุกตัว แกมีโยนกลับคืน

Green is not my colour.
สีเขียวฉันใส่ไม่ขึ้น

เอากะเขาสิ! แต่สุดท้าย มิสเชพเพิร์ดก็ชี้ชวนให้คุณเบนเน็ตต์ยอมให้ไปจอดรถที่ทางเข้าหน้าบ้านได้

The ideal solution would be off-street parking.
You know, a driveway, possibly.

ทางแก้ปัญหาก็คืออย่าไปจอดรถที่ถนน
แต่เป็นทางเข้าบ้านก็ได้มั้ง

คุณเบนเน็ตต์เริ่มเอะใจ

So, what are you going to do?
คุณจะทำอะไรเนี่ย?

มิสเชพเพิร์ดตอบแบบมีเลศนัย

Play it by ear.
ก็ค่อยว่ากันไป

play it by ear เป็นสำนวน หมายถึงว่า เราตัดสินใจที่จะจัดการกับสถานการณ์แบบไม่ได้เตรียมตัวล่วงหน้า พอเราตัดสินใจไม่ได้ เราก็ค่อยๆ รับมือกับมันไปตามครรลองของมัน

ในที่สุด มิสเชพเพิร์ดก็ได้ที่จอดรถ ลองขอจอดดู แต่ใครเลยจะคิดว่าไปๆ มาๆ จะจอดนานตั้ง 15 ปี

มิสเชพเพิร์ดกับคุณเบนเน็ตต์ก็ได้รู้จักมักจี่ ไม่ทันได้รู้ตัว มิตรภาพก็เกิดขึ้นแล้ว

หนังเรื่องนี้นะดูคุณแม็กกี้ สมิธ คนเดียวก็คุ้มมากๆ แล้ว แสดงเป็นคนแก่ที่แก่ขึ้นเรื่อยๆ คนแก่ที่มีโรครุมเร้า มีความหลังฝังใจลืมไม่ลง แล้วยังมีความผิดที่คิดไปเองอีก มีทุกอย่างที่กล่าวมาในการแสดงของเธอ

หนังอังกฤษนี่ดีนะ จะว่าไป เขามีบทสนทนาโอภาปราศรัยแบบคนคุยกันดี ภาพก็สวย เพลงก็เพราะอีก ฉันชอบ, ว่าแต่คุณแม็กกี้ สมิธ อายุ 80 ปีแล้ว ยังแข็งแรงแสดงหนังได้เชิ้บๆ คิดภาพเมืองไทยเป็นสังคมผู้สูงอายุ ถ้าพวกเราแข็งแรงแสดงดีในบทบาทของเรา ก็คงไม่เท่าไหร่หรอก เธอว่าไหม

ฉันเอง