ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 26 มีนาคม - 1 เมษายน 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | รายงานพิเศษ |
เผยแพร่ |
รายงานพิเศษ
ภัณธิภร วงษ์จันทร์เพ็ญ
ผู้อำนวยการสถาบันโหราศาสตร์สากลและยูเรเนียนแห่งประเทศไทย
email : CUAT.TH@gmail.com
Facebook : Classical and Uranian Astrology Thailand
วรเชษฐ์ ตียเกษม ที่ปรึกษา
พยากรณ์ดวงชะตาโลก
และดวงชะตาประเทศไทย
มีนาคม-พฤษภาคม พ.ศ.2564
ดวงอาทิตย์ยกเข้าสู่ราศีเมษ ทางโหราศาสตร์สากลและโหราศาสตร์ยูเรเนียน เป็นโหราศาสตร์ที่อ้างอิงกับฤดูกาล (Tropical Zodiac) ราศีเมษเป็นราศีลำดับที่ 1 ในจักรราศี เป็นราศีทวาร แม่ธาตุไฟ ดวงอาทิตย์จะย้ายเข้าสู่ราศีเมษ ประมาณวันที่ 20 หรือ 21 มีนาคม ของทุกปี
ในปีนี้ดวงอาทิตย์ย้ายเข้าสู่ราศีเมษตรงกับ วันที่ 20 มีนาคม พ.ศ.2564 เวลา 16:37 น. ตามเวลามาตรฐานประเทศไทย (105E) ตำแหน่งดวงอาทิตย์ 00 องศา 00 ลิปดา 00 ฟิลิปดา ราศีเมษ
ไตรมาสนี้เป็นช่วงที่สำคัญอย่างยิ่ง ต่อการกำหนดทิศทางของเหตุการณ์สำคัญที่น่าสนใจในทุกด้าน ของดวงชะตาโลกและดวงชะตาประเทศไทย จะมีระยะครอบคลุมไปถึง 3 เดือนทั้งในด้านดีและร้าย ส่งผลต่อการฟื้นฟูในด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม
“การระบาดโควิด-19 และวัคซีน” จะเป็นสิ่งที่กำหนดชี้นำความเปลี่ยนแปลงควบคู่ไปกับ “สถานการณ์ทางการเมือง” การเปลี่ยนแปลงภายในรอบ 3 เดือนนี้จึงเป็นจุดประเด็นสำคัญต่อความเป็นไปของมวลมนุษยชาติทั่วโลก
ประเด็นร้อน ต้องจับตา
ดวงอาทิตย์ยกเข้าสู่ราศีเมษ เรือนชะตาที่ 7 เหตุการณ์สำคัญในรอบดวงไตรมาสนี้ จะเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การค้า การร่วมลงทุน การนำเข้าสินค้าและการส่งออก ปัญหาทางด้านการเมืองระหว่างประเทศ ที่จะเกิดความขัดแย้งด้านผลประโยชน์มากกว่าความร่วมมือช่วยเหลือกัน
เนปจูน ฮาเดส และลัคนา พลูโต สัมพันธ์กับอาทิตย์ สิ่งที่ต้องระวัง เกี่ยวกับวินาศภัยทางน้ำ สภาพอากาศที่ไม่แจ่มใส ปัญหาฝุ่น PM 2.5
ความเสียหายที่มาจากความผิดพลาด การเก็งกำไรที่ผิดพลาดเกิดการสูญเสียด้านธุรกิจ จะเกิดความเปลี่ยนแปลงสำคัญๆ ในหลายๆ ด้าน การโยกย้าย เช่น การย้ายฐานการผลิต การปิดกิจการ
ตลอดจนเกิดการควบรวมกิจการและการฟื้นฟูในด้านต่างๆ ที่จะทำให้รอดพ้นจากสภาวการณ์อันเลวร้ายในรอบปีนี้
พยากรณ์ดวงชะตาโลก
วัคซีนโควิด-19 ต่อการฟื้นฟูชะตาโลก
ธุรกิจทั่วโลกเร่งการปรับโครงสร้างและฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน การระดมเงินทุนจำนวนมหาศาลกับวิธีการจัดการธุรกิจที่มีชั้นเชิง จะทำให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อน การควบรวมกิจการ และการแตกไลน์ธุรกิจในรูปแบบใหม่ๆ จะมีให้เห็นในรอบไตรมาสนี้
ในขณะเดียวกันจะเห็นอีกด้านที่เลวร้ายในการนำพาธุรกิจในรอดด้วยการปรับตัวแบบที่ต้องดิ้นรนนำพาธุรกิจให้รอด ปรับโครงสร้างให้เหมาะสม ส่งผลต่อการลดการจ้างงาน ปรับลดค่าใช้จ่าย ลดต้นทุน ในรอบปีนี้จะเห็นภาพการปิดกิจการ ปัญหาการว่างงานมากขึ้นกว่ารอบปีที่ผ่านมา
เศรษฐกิจโลกก็ยังประสบปัญหา สถานการณ์ยังอยู่บนความเสี่ยงทั้งเรื่องโควิด-19 และเรื่องการเมือง ส่งผลให้ทั้งตลาดเงินเกิดความผันผวน ตลาดหุ้นทั่วโลกต้องอิงกับสภาพเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นทำให้การคาดการณ์เหตุการณ์ต่างๆ ยากขึ้น
ในรอบไตรมาสนี้จะยังส่งผลความรุนแรง ปัญหาการเมืองในประเทศต่างๆ ทั้งภายในและระหว่างประเทศ จะส่งผลต่อภาวะความยากจนและผู้ลี้ภัยจะเพิ่มความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ผลของการเมืองภายในประเทศ เช่นในเมียนมา กำลังจะขยายผลออกวงกว้างสู่นานาประเทศที่เกี่ยวข้องโดยตรงและทางอ้อม การค้า การลงทุนในเมียนมาจะส่งผลต่อความไม่เชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
ความเหลื่อมล้ำของคนจนและคนรวยแตกต่างกันอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตและสภาพทางสังคม จะนำไปสู่การจัดระเบียบทางวัฒนธรรม สังคม และการปกครองในรูปแบบใหม่ๆ ในอนาคต ความแปรปรวนของวิกฤตภัยธรรมชาติ จากอากาศ ฝุ่นพิษ และน้ำ
วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ประสบความสำเร็จและเริ่มใช้งานได้จริงในรอบปีนี้ และจะเกิดวัคซีนโควิด-19 อีกหลายๆ บริษัทผลิตขึ้นมาเป็นทางเลือกเพื่อต่อสู้ในเรื่องราคา เข้าสู่กลไกการแข่งขันในเชิงพาณิชย์ วัคซีนโควิด-19 จะยังเป็นข่าวในหลายๆ ด้านที่จะออกมาผ่านสื่อในเรื่องราวต่างๆ ในด้านการติดตามผลดี เสีย และเป็นตัวแปรสำคัญต่อการฟื้นฟูสถานการณ์ในด้านต่างๆ ทั่วโลก
ดวงชะตาประเทศไทย
สถานการณ์ความรุนแรงของวิกฤตโควิด-19 (COVID-19) ในไตรมาสนี้ ยังคงมีการระบาดอยู่และเกิดการแพร่กระจายเป็นกลุ่มๆ ตามแหล่งต่างๆ โดยเฉพาะตลาดสด คลัสเตอร์จากแหล่งต่างๆ ผลการระบาดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างจริงจัง ทำให้รัฐบาลต้องคอยเฝ้าระวังการปลดล็อกอย่างเหมาะสม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์ปีนี้ กิจกรรมบันเทิง การเล่นน้ำสงกรานต์ และกิจกรรมการสุ่มเสี่ยง ยังไม่ได้รับการผ่อนปรน
รัฐบาลจะพยายามใช้วิธีการแจกเงินเพื่อเยียวยาช่วยเหลือ ให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลต่อการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้บ้าง แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะยั่งยืนให้รอดพ้นวิกฤตนี้ไปได้ ปัญหาต่างๆ ที่คั่งค้างไม่ได้รับการเยียวยา แก้ไข ยังคงมีอีกหลายเรื่อง ในรอบไตรมาสนี้ สภาวะเศรษฐกิจก็จะฟื้นตัวไม่มากนัก ประชาชนต้องอดทน อดออม และหาช่องทางในการทำงานเพื่อสร้างรายได้ อย่ากู้ยืมเงินนอกระบบ
มีข่าวดีเกี่ยวกับการใช้กัญชงและกัญชาในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่กำลังจะทยอยมีออกมาในไม่ช้านี้ เทรนด์ธุรกิจไทยกำลังจับช่องทางต่อยอดกัญชาไทย สู่ตลาดอุตสาหกรรมในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่ม บรรยากาศคึกคัก ผู้ประกอบการรอคอยการปลดล็อกเพื่อนำมาสู่การผลิตและการลงทุน
สิ่งที่ต้องระวัง ควรศึกษาข้อกำหนด กฎระเบียบ กฎหมาย ก่อนทำการนำเม็ดเงินมาลงทุน ในอนาคตอันใกล้นี้ ธุรกิจกัญชาไทย ก็จะอยู่ในมือของผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ของประเทศ ส่วนแบ่งตลาดสู่รายย่อยมีน้อย ส่วนการค้าขายของรายย่อยๆ เช่น การขายสินค้าทางออนไลน์ กำลังเติบโตไปพร้อมๆ กับธุรกิจการจัดส่งสินค้าที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น
เศรษฐกิจไทยการท่องเที่ยวและการส่งออกในปีนี้ค่อยๆ ดีขึ้นมาเล็กน้อย ยังไม่เห็นผลการเปลี่ยนแปลงอย่างเด่นชัด
มีแนวโน้มการเติบโตต่ำ ภาคธุรกิจจะหาการลงทุนภายในประเทศที่คอยประคองธุรกิจไปก่อน ประมาณช่วงกลางปีจะค่อยๆ เห็นผลการเติบโตขึ้น รวมถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในด้านการท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมาดีขึ้น และส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น หลังจากการปลดล็อกและการควบคุมการระบาดของโควิด-19 ได้ดีกว่าเดิม เมื่อเริ่มมีการขยายการฉีดวัคซีนมากขึ้น
ความแปรปรวนของสภาพดินฟ้าอากาศ ทำให้เกิดน้ำท่วม ในกรุงเทพฯ และจังหวัดที่ลุ่มพื้นที่ต่ำ การระบายน้ำไม่ทัน ควรเตรียมการป้องกันด่วน รวมทั้งฝุ่น และอากาศเป็นพิษ
สถานการณ์ด้านการเมือง ภาพโดยรวมๆ ก็ยัง ไม่มีอะไรแน่นอน การปรับเปลี่ยนภายในพรรครัฐบาลและการสรรหาตำแหน่งต่างๆ ก็จะเป็นประเด็นสำคัญในไตรมาสนี้ รับรองมีพลิกล็อกแบบคาดไม่ถึงแน่นอน การบริหารงานและการแต่งตั้งต่างๆ ล้วนแล้วเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ยาก การร่างกฎระเบียบ กฎหมาย รัฐธรรมนูญ ยังไม่ลุล่วง ยืดเยื้ออีกนาน
การนัดชุมนุมกลุ่มย่อยๆ จะยังคงมีให้เห็น แต่ในที่สุดก็จะต้องเกิดการสลายตัวไปด้วยวิธีการและอำนาจของรัฐ สิ่งที่ประชาชนรอคอยคือการแจกจ่ายเงินในรูปแบบต่างๆ เพื่อกระตุ้นการเศรษฐกิจ แต่ในที่สุดจะก่อให้เกิดหนี้สินอย่างมหาศาล ประชาชนทั้งประเทศต้องแบกรับภาระหนี้สินในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เหตุการณ์ในรอบไตรมาสนี้ จะเห็นความเปลี่ยนแปลงและคลี่คลายในเรื่องต่างๆ รอลุ้นเรื่องดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่กำลังจะขยายผลออกไปในหลายๆ ประเทศทั่วโลก