ในประเทศ : ฝันไกล ไปจนถึง (เสียที) “น้องเม” กระหึ่มกรีน! หมายเลข 1 กอล์ฟหญิงโลก

สร้างความภูมิใจและนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติอย่างแท้จริง

สำหรับ “โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล” นักกอล์ฟสาว วัย 21 ปี ที่ผงาดครองมือ 1 ของโลกได้สำเร็จ พร้อมทั้งสร้างประวัติศาสตร์เป็นชาวไทยคนแรกที่ขึ้นแท่นเป็นนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลก และถือเป็นนักกอล์ฟอาเซียนคนแรกที่ได้ครองบัลลังก์มือ 1 ของโลกอีกด้วย

นอกจากนี้ เอรียายังเป็นนักกีฬาหญิงไทยคนที่ 3 ที่ได้ครองมือ 1 ของโลก ต่อจาก “เมย์-รัชนก อินทนนท์” นักแบดมินตันประเภทหญิงเดี่ยว

และ “ณี-สุธิยา จิวเฉลิมมิตร” นักยิงเป้าบินสาวประเภทสกีต

 

ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์แอลพีจีเอ ทัวร์ และสื่อกอล์ฟทั่วโลก เคยทำให้แฟนกีฬาชาวไทยเฮเก้อมาแล้วครั้งหนึ่ง

จากกรณีที่นำเสนอข่าวว่า เอรียาจะก้าวขึ้นเป็นมือ 1 ของโลกคนใหม่ แทนที่ ลิเดีย โค จากนิวซีแลนด์ หลังจาก ริว โซ ยอน โปรชาวเกาหลีใต้ ไม่ผ่านการตัดตัวในรายการช็อปไรต์ แอลพีจีเอ คลาสสิค ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

แต่เมื่อถึงเวลาประกาศผลการจัดอันดับคะแนนสะสมโลกนักกอล์ฟหญิงอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฏว่า ลิเดีย โค ยังคงครองตำแหน่งมือ 1 ของโลกต่อไปเป็นสัปดาห์ที่ 85 ติดต่อกัน มี 8.37 คะแนน ส่วนเอรียา อยู่ที่ 2 มี 8.36 คะแนน ตามหลังเพียง 0.01 คะแนนเท่านั้น

จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทำให้แอลพีจีเอ ทัวร์ ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ พร้อมทั้งขอโทษในความผิดพลาดของระบบเครื่องมือที่ใช้คำนวณคะแนน

จนกระทั่งล่าสุด เอรียาก็มาระเบิดฟอร์มเก่งในรายการ มานูไลฟ์ แอลพีจีเอ คลาสสิค ที่ประเทศแคนาดา เมื่อเธอสามารถคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ หลังจากสร้างปาฏิหาริย์พัตต์เบอร์ดี้ระยะไกล 30 ฟุต ส่งลูกกอล์ฟลงหลุมไปอย่างงดงาม ท่ามกลางความตกตะลึงของคนดูทั้งสนาม

ส่งผลให้เอรียาคว้าชัยชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดตั้งแต่การเพลย์ออฟที่หลุมแรก เหนือ เล็กซี่ ธอมป์สัน โปรชาวสหรัฐอเมริกา และ ชอน อิน กี โปรชาวเกาหลีใต้ พร้อมรับเงินรางวัล 255,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.6 ล้านบาท

นับเป็นแชมป์รายการแรกของเอรียาในปีนี้ และเป็นแชมป์ระดับแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการที่ 6 ในการเล่นกอล์ฟอาชีพของเธอ

ขณะเดียวกัน เอรียายังเป็นนักกอล์ฟหญิงที่ทำเงินรางวัลสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของแอลพีจีเอ ทัวร์ โดยทำได้ 954,279 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32 ล้านบาท

 

จากผลงานที่ยอดเยี่ยมในครั้งนี้ ทำให้เธอผงาดครองมือ 1 ของโลกอย่างยิ่งใหญ่และสมศักดิ์ศรี

ขณะที่ผลการจัดอันดับคะแนนสะสมโลกอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา เอรียามีคะแนนเฉลี่ย 8.78 คะแนน อันดับ 2 ลิเดีย โค มี 8.34 คะแนน และอันดับ 3 ริว โซ ยอน มี 8.17 คะแนน

ในที่สุดเธอก็สมหวังได้ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลกอย่างภาคภูมิ

เอรียาเปิดใจหลังคว้าแชมป์ มานูไลฟ์ แอลพีจีเอ คลาสสิค ว่า ไม่ได้สนใจกับการจัดอันดับโลก และคิดเพียงออกไปเล่นให้สนุกกับเกมเท่านั้น

นอกจากนี้ เอรียายังโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ขอบคุณกำลังใจจากแฟนกีฬาชาวไทย รวมถึงผู้สนับสนุนต่างๆ ที่อยู่เคียงข้างมาตลอด

แต่กว่าจะมีวันนี้ได้ เอรียาต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย สมัยเด็กๆ ครอบครัวของเธอซึ่งประกอบด้วยคุณพ่อสมบูรณ์, คุณแม่นฤมล, พี่สาว “โปรโม-โมรียา จุฑานุกาล” เคยหมดตัวจากวิกฤตเศรษฐกิจ “ต้มยำกุ้ง” จนเป็นหนี้สินรุงรัง หลังจากใช้หนี้ 30 กว่าล้านบาทหมด ก็หันมาเปิดร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟ

จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สองพี่น้องได้รู้จักกับกีฬากอล์ฟ โดยเอรียาเริ่มจับก้านเหล็กตอนอายุเพียง 5 ขวบเท่านั้น ส่วนพี่สาว โมรียา จับไม้ตอนอายุ 7 ขวบ

หลังจากเริ่มฉายแววโดดเด่น คุณพ่อก็ได้ผลักดันส่งสองพี่น้องเข้าแข่งขันกอล์ฟเยาวชนเรื่อยมา จนเมื่อเอรียาอายุ 8 ขวบ ก็ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยลงแข่งขันจูเนียร์ เวิลด์ กอล์ฟ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และคว้ารองแชมป์กลับมา

จุดนี้เองจึงทำให้ครอบครัวตัดสินใจให้ลูกทั้งสองคนหันมาเอาดีด้านกีฬากอล์ฟ โดยเทหมดหน้าตัก ทุ่มแบบสุดตัว ยอมขายบ้าน, ขายรถ, ขายที่ดิน รวมเป็นเงินกว่า 20 ล้านบาท เพื่อดันให้ลูกสาวได้เทิร์นโปรเป็นนักกอล์ฟอาชีพ โดยมีคุณพ่อเป็นโค้ชคนแรก

 

แต่เมื่อเทิร์นโปรแล้วใช่ว่าจะประสบความสำเร็จทันที โดยในปี 2013 เอรียาพลาดแชมป์ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ อย่างน่าเสียดาย หลังตีเสียทริปเปิ้ลโบกี้ที่หลุมสุดท้าย จนแชมป์หลุดมือ

นอกจากนี้ เอรียายังเคยบาดเจ็บหนัก เอ็นหัวไหล่ขวาฉีก หลังประสบอุบัติเหตุหกล้มบนกรีนขณะวิ่งเล่นกับพี่สาวระหว่างซ้อม จนต้องผ่าตัดและพักยาวถึง 8 เดือน ในช่วงครึ่งหลังของปี 2013 ถึงต้นปี 2014 ทำให้อันดับโลกรูดกราวลงเรื่อยๆ

เมื่อกลับมาแข่งอีกครั้ง เอรียาไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งคืนมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงกลางปี 2015 ที่สภาพจิตใจย่ำแย่ ไม่ผ่านการตัดตัวถึง 10 รายการติดต่อกัน

แต่เอรียากลับไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา เธอเปลี่ยนความผิดหวังเป็นแรงผลักดัน จนในที่สุดเธอก็ได้เขย่าวงการกอล์ฟด้วยการคว้าแชมป์แอลพีจีเอ 3 รายการติดต่อกันในปีที่แล้ว ได้แก่ โยโกฮาม่า ไทร์ แอลพีจีเอ คลาสสิค, คิงส์มิลล์ แชมเปี้ยนชิพ และ แอลพีจีเอ วอลวิก แชมเปี้ยนชิพ

ไม่เพียงแค่นั้น เอรียายังสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟหญิงไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ รายการ วีเมนส์ บริติช โอเพ่น ที่ประเทศอังกฤษ และคว้าแชมป์รายการ แคนาเดียน แปซิฟิก วีเมนส์ โอเพ่น จนทำให้เธอก้าวขึ้นมาครองมือ 2 ของโลก

 

จากผลงานที่ยอดเยี่ยมในปี 2016 ทำให้เอรียากวาดรางวัลใหญ่มาครองมากมาย อาทิ นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของแอลพีจีเอ ทัวร์ พร้อมรับเงินโบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 33 ล้านบาท, นักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้สื่อข่าวกอล์ฟของสหรัฐอเมริกา และนักกอล์ฟหญิงที่มีคะแนนสะสมมากที่สุดแห่งปี 6,800 คะแนน รวมเงินรางวัลสูงสุดกว่า 2,550,928 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 86 ล้านบาท

นับเป็นการปิดฉากฤดูกาล 2016 ที่งดงามของ “โปรเม-เอรียา”

จนมาถึงตอนนี้ เอรียากำลังยืนอยู่บนยอดสูงสุดของวงการกอล์ฟหญิงโลก อย่างไรก็ตาม หลายคนคงตั้งคำถามว่า เธอจะรักษาตำแหน่งมือ 1 ของโลกไว้ได้นานแค่ไหน?

แต่เชื่อว่าหากเอรียายังคงมุ่งมั่นพัฒนาฟอร์มการเล่นให้ดีขึ้น และสนุกกับการเล่นกอล์ฟต่อไป

ประตูแห่งความสำเร็จคงเปิดรอต้อนรับเธออย่างแน่นอน