ใส่บ่าแบกหาม : Brooklyn

เธอจ๊ะ

Brooklyn เป็นนิยาย เขียนโดย Colm T?ib?n อ่านสนุกมาก

เอามาสร้างเป็นภาพยนตร์ กำกับการแสดงโดย John Crowley เขียนบทภาพยนตร์โดย Nick Hornby ดูสนุกมากปานกัน

Nick Hornby คนเดียวคนเดิมที่เขียนนิยาย High Fidelity กับ About a Boy ที่เราชอบอ่านกัน เป็นคนเขียนบทภาพยนตร์ พี่นิกเขียนบทหนังเรื่องนี้ได้สนุก ฉันคะเนว่าน่าจะเป็นด้วยความสามารถในการเขียนนิยายและความสามารถในการเขียนบทมาผนวกกัน เลยเกิดเป็นบทหนังที่สนุกได้

Saoirse Ronan อ่านว่า เซีย-ช่า โรแน่น เพราะเป็นภาษาไอริช

หนูเซียช่านี้ก็โตเป็นสาวแล้ว เรารู้จักเธอก็ตอนหนังเรื่อง Atonement

เรื่องนี้หนูเซียช่าแสดงเป็น Ellis นี่ก็อ่านว่า เอลิช ก็เพราะเป็นชื่อไอริชนี่นะ ตัว s ในภาษาไอริชออกเสียงเป็น sh

ภาษาไอริชนี้สนุกดีหนา แบบคนชื่อ Eoin บางทีสะกด Eóin, Eoghan หรือไม่ก็ Eoinn สี่คำอ่านเหมือนกันว่า Owen หรือ โอเว่น

Brooklyn เกิดขึ้นราวๆ ปี ค.ศ.1952 เป็นเรื่องของสาวรุ่นชาวไอริช ที่อพยพจากประเทศไอร์แลนด์มาสหรัฐอเมริกา แล้วสุดท้ายต้องเลือกว่าจะอยู่ประเทศไหน ในเมื่อจะเรียกว่า “บ้าน” ก็ได้ทั้งคู่

หนังเขาสร้างดี ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ตั้งสามสาขา ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม

นางสาวเอลิซ เดิมทีก็อยู่ Enniscorthy อ่านว่า เอ็นนิสคอร์ธี่ ประเทศไอร์แลนด์ มีแม่กับพี่สาวหนึ่งคนเท่านั้น พ่อตายแล้ว

ปัญหามันอยู่ที่หางานทำไม่ได้ เพราะงานมันไม่มี ก็ได้แต่ทำงานพาร์ตไทม์ที่ร้านของชำ เจ้าของเป็นหญิงสูงวัยชื่อมิสเคลลี่ เป็นหญิงใจร้าย ไม่เอื้ออารี เอาเปรียบลูกจ้าง เอาเปรียบลูกค้า ขายของแพงแสนแพง

ลูกค้าต่อแถวรอซื้อของ แต่พอดีมีลูกค้าที่มิสเคลลี่ชอบอยู่ในแถว มิสเคลลี่ก็แซงคิวให้หน้าตาเฉย

“I am next.” ฉันสิคนต่อไป ลูกค้าคนหัวแถวแย้งขึ้น
“And you still are.” ก็ยังคงเป็นคนต่อไป มิสเคลลี่ไม่แคร์ลูกค้าเลย

เอลิซแอบดีใจที่ไม่ต้องทำงานที่นี่อีกต่อไป

Father Flood in New York arranged it.
Rose used to play golf with him.
He sponsored me.

บาทหลวงฟลัดที่อยู่นิวยอร์กจัดการให้
เป็นคนที่โรสเคยเล่นกอล์ฟด้วย
เขาเลยมาอุปถัมภ์

พี่สาวพยายามหาโอกาสให้น้องสาวได้สร้างอนาคต เลยจัดการติดต่อให้บทหลวงที่นิวยอร์กรับน้องสาวไปดูแล หางานให้ทำ หาพี่พักให้ จัดการให้ได้วีซ่า พอเอลิซแจ้งข่าวมิสเคลลี่ว่าจะลาออก มิสเคลลี่ก็ใจร้ายปากจัดจนวินาทีสุดท้าย

Oh, mothers are always
being left behind in this country.
But Rose, that’s the end for her now, isn’t it?
She will be looking after your mother,
for the rest of her life.

ประเทศนี้คนเป็นแม่ก็โดนทิ้งอยู่เรื่อย
ส่วนโรส ชีวิตก็จบสิ้นแล้วสิ
ต้องดูแลแม่เธอไปจนชั่วชีวิต

เดินทางจากประเทศไอร์แลนด์ของเอลิซนี้ลำบากใช้ได้เลย ต้องนั่งรถไฟไปต่อเรือ อยู่ในเรือหลายวัน ยิ่งเวลาเจอมรสุมกลางทาง ก็ต้องลำบากลำบนอยู่บนเรือนานขึ้นไปอีก

พนักงานเสิร์ฟอาหารรู้เลยว่าเอลิซไม่เคยเดินทางไกลทางเรือ

A few spoonfuls of soup, maybe,
but not the mutton stew.

กินซุปสักสองสามช้อนพอได้
แต่กินสตูแกะเลยไม่ดีแน่

ผู้โดยสารคนอื่นเขารู้ว่าคืนนี้จะมีพายุ เรือจะโคลงเคลงหนัก หิวแค่ไหน เขาก็จะพากันไม่กินอาหาร

แล้วคืนนั้น เอลิซก็ไม่ได้หลับได้นอน อาเจียนหมดไส้หมดพุง หนำซ้ำห้องน้ำที่ต้องใช้ร่วมกันระหว่างห้องเคบินสองห้อง อีกห้องหนึ่งล็อกกลอนกันห้องน้ำไว้ใช้สำหรับห้องเดียว

เดชะบุญ ที่ผู้โดยสารร่วมห้องของเอลิซมีมิตรจิตมิตรใจ ช่วยเหลือเอลิซแก้ไขทุกสถานการณ์เป็นอย่างดีตลอดการเดินทาง

และยังซักซ้อมความเข้าใจให้ สำหรับเวลาเดินไปพบเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง

Brooklyn-Header

 

นางสาวเอลิซมาอยู่บ้านที่แบ่งห้องให้เช่า ที่เขาเรียกว่า boarding house เพื่อนร่วมบ้านเป็นผู้หญิงชาวไอริชล้วน มีผู้ดูแลบ้านเป็นหญิงสูงวัย ดูแลความเป็นอยู่ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของลูกบ้าน ทุกเย็น ลูกบ้านจะมากินอาหารที่โต๊ะร่วมกัน

ตอนกลางวันเอลิซไปทำงานเป็นพนักงานขายที่ห้างหรู แต่แปลกที่แปลกทาง กับความคิดถึงบ้าน ไม่ทำให้เราเป็นพนักงานขายที่มีประสิทธิภาพเท่าไหร่นัก

So you treat every customer
as if she’s a new friend.

บริการลูกค้าทุกคน
ให้เหมือนกับเขาเป็นเพื่อนใหม่

หัวหน้าลงมากำกับดูแล เพราะพนักงานออกแนวเงียบ ไม่พูดไม่จา ไม่เกิดผลดีต่อห้างเอาเสียเลย

It’s not a matter of trying.
It’s what you have to do.

ไม่ใช่เรื่องต้องพยายาม
มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ

เอลิซบอกว่าจะพยายามปรับปรุง แต่หัวหน้าว่าไม่ใช่ อะไรที่ต้องทำก็ต้องทำ ความสำคัญมันผิดกัน

มันเหงา มันอ้างว้าง คิดถึงบ้าน ไปทำงานแล้วก็กลับมาห้องพัก จะมีก็จดหมายที่พี่สาวเขียนมาหา ที่พอจะทำให้ร่าเริงขึ้นมาได้ ส่วนจดหมายที่ตัวเองเขียนกลับไป ก็ต้องแต่งให้สนุก ทางบ้านจะได้ไม่เป็นห่วง

ความทราบถึงหลวงพ่อ ผู้อุปถัมภ์ ต้องยื่นมือมาช่วยเหลือ

Homesickness is like most sicknesses.
It will pass.

โรคคิดถึงบ้านก็เหมือนโรคส่วนมาก
มันจะผ่านไป

หลวงพ่อเลยส่งไปเรียนวิชาบัญชีภาคค่ำ เอลิซก็อยากเรียนด้วยแหละ อยากทำอาชีพเดียวกับพี่สาว

หลวงพ่อยังชักชวนไปเป็นจิตอาสาในช่วงเทศกาล เพราะที่โบสถ์จะมีการจัดเลี้ยงอาหารให้คนไอริชที่ตกระกำลำบากอยู่ในบรู๊กลิน ส่วนมากเป็นผู้ชาย ทำงานเป็นช่าง สร้างถนน สร้างสะพาน สร้างเสร็จก็ว่างงาน

If there’s nothing there
for a clever young girl such as yourself,
there’s gonna be even less for men like these.

ถ้าที่นู่นไม่มีงาน
ให้ผู้หญิงฉลาดๆ อย่างหนู
กับผู้ชายพวกนี้ ยิ่งไม่มีเข้าไปอีก
เขาก็อพยพมาหาอนาคตในนิวยอร์กเหมือนเอลิซ

แต่ไม่ช้าไม่นาน เอลิซก็เริ่มคุ้นเคย มีโทนี่ ชายหนุ่มเชื้อสายอิตาเลียนมาชอบพอ ก็หายเหงาไปเป็นกอง

3xB_03517_2K3A0370

กาลเวลาผ่านไป ชีวิตดำเนินไปราบรื่นขึ้นมากแล้ว ข่าวร้ายก็มาเยือน โรส พี่สาวของเอลิซตาย ไม่สบายเป็นโรคอะไรก็ไม่อาจรู้ได้ เอลิซเลยต้องกลับไปบ้านเกิดเมืองนอน แต่ก่อนกลับไป ก็ตกลงใจแต่งงานกับโทนี่ เต็มใจสร้างความรักความผูกพันกันที่มีต่อกันให้แน่นหนา

แต่พอกลับไปบ้านแล้ว ได้งานทำแถมยังมีผู้ชายดีๆ มาชอบพอ จึงเกิดคำถาม แต่หรือเราจะอยู่บ้านได้? จะเหลือก็แต่บ้านเราที่บรู๊กลินและโทนี่สามีของเรา จะให้เขาอยู่ตรงไหนของชีวิต หรือจะแค่ทำเป็นลืมๆ มันไป

ชอบน่ะเรื่องนี้ ตัวละครหลักเป็นผู้หญิง พยายามสร้างชีวิตและอนาคตของตนเอง เมื่อต้องเลือก ก็กล้าหาญพอที่จะเลือก และอยู่กับเหตุและผลของตัวเองให้ได้ต่อไป

น้องเซอช่าแสดงดีเป็นที่หนึ่ง จากผู้หญิงที่ดูงงๆ หลงทาง เรียนรู้จากประสบการณ์ กลายเป็นผู้หญิงคิดได้และคิดเป็น การแสดงช่างละเมียดละไม

ฉันเอง