เผยแพร่ |
---|
การเลือก “สนามราษฎร์” เป็นเป้าหมายในการชุมนุมนัดที่ 3 ของปรากฎการณ์ REDEM ในวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม สำคัญและคมแหลมยิ่งในทางการเมือง
เนื่องจากพื้นที่ของ”สนามราษฎร์”มิได้เป็นพื้นที่ครั้งสุดท้ายของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมใน#ม็อบ13กุมภาพันธ์เท่านั้น
หากแต่ “สนามราษฎร์” คือเป้าหมายสำคัญจากการเคลื่อนไหว ใหญ่ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน ซึ่งแม้จะเริ่มที่”ธรรมศาสตร์”แต่ด้านหลักคือ “สนามหลวง”
เท่ากับเป็นการยึดคืน “สนามหลวง”พร้อมกับการปักหมุดให้กับ
“คณะราษฎร” และการเปลี่ยนชื่อของ “สนามหลวง”แห่งอดีตให้เป็น
“สนามราษฎร”ในที่สุด
นี่คือปรากฏการณ์อันสะท้อนความต่อเนื่องจาก”เยาวชนปลด แอก”เมื่อเดือนกรกฎาคม ก่อนการยกระดับและประกาศจัดตั้ง”คณะ ราษฎร 2563”ขึ้นในเดือนตุลาคม
ปรากฏการณ์นี้ของ REDEM จึงมิได้เป็นเพียงการหวนคืน หากแต่เป็นการยอกย้ำและก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อเปลี่ยนประเทศไทย
ภายในคำประกาศชุมนุม ณ สนามราษฎร์ ในตอนเย็นวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม ของ REDEM ไม่เพียงแต่ยังยืนยันหลักการอันเป็นพื้นฐานที่ว่าไม่มีแกนนำเท่านั้น
หากที่สำคัญเป็นอย่างมากอีกประการหนึ่งก็คือ ดำเนินไปในลักษณะไม่เคลื่อน
ต้องยอมรับว่า การเคลื่อนไหวในพื้นที่สนามราษฎร์ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ #ม็อบ20กันยายน ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์#ม็อบ 13กุมภาพันธ์
เป็นการชุมนุมที่ดำเนินไปอย่างมีการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไม่ว่าจะจากท้องสนามราษฎร์
การเคลื่อนไหวภายใต้คำประกาศ”ไม่เคลื่อน”จึงเป็นของใหม่
ไม่มีใครตอบได้ว่าการนัดหมายชุมนุมในวันเสาร์ที่ 20 มีนาคมของกลุ่ม REDEM จะลงเอยอย่างไร
มีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก หรือว่าถดถอยน้อยลง
แต่ประการสำคัญเป็นอย่างมากก็คือ ต่างคนต่างมา ไม่มีแกนนำเหมือนการชุมนุมของกลุ่มอื่นๆ ไม่มีเวทีและไม่มีการปราศรัยอย่างเป็นรูปการ
ยิ่งเมื่อประกาศหลักการ”ไม่เคลื่อน” ยิ่งทำให้การชุมนุมนำไปสู่สภาพการณ์ใหม่อันควรจับตามองโดยอัตโนมัติ