เครื่องเคียงข้างจอ/วัชระ แวววุฒินันท์

เปรี้ยว…ขึ้นจอ

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คงจะไม่มีข่าวไหนที่จะดังเข้าไปในความรู้สึกของผู้คนมากไปกว่าข่าวของกรณี “เปรี้ยวฆ่าหั่นศพ” แน่นอน

มีการตั้งฉายาให้กับเธอผ่านสื่อต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น สวยสังหาร เปรี้ยวหั่นศพ สวยประหาร เป็นต้น แต่ไม่ว่ายังไง เธอคนนี้ได้ยึดพื้นที่ข่าวบนจอโทรทัศน์และบนออนไลน์ไปเรียบร้อยแล้ว

เปรี้ยวและพวกได้ถูกจับกุมหมดแล้ว โดยตอนที่เขียนต้นฉบับนี้ยังไม่รู้ว่าจะมีใครถูกจับเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หากการสืบสวนโยงใยไปถึง ซึ่งหลายคนให้ความเห็นว่าน่าจะมีขบวนการยาเสพติดมาเกี่ยวข้องด้วย

แต่กระแสในโลกโซเชียลถึงความไม่พอใจในท่าทีของตำรวจในการจับกุม สอบสวน และแถลงข่าวมาแรงมาก

ประกอบกับท่าทีที่ขัดต่อสายตาของเปรี้ยวและเพื่อน ทำให้เกิดเป็นดราม่าครึกโครมอยู่ในขณะนี้

หากใครที่ได้ติดตามเรื่องราวที่ชวนสยดสยองและหดหู่นี้ รวมทั้งได้ฟังการแถลงข่าวหลังการจับกุมแล้ว คงอดคิดไม่ได้ว่า อะไรทำให้เธอ…มาไกลถึงเพียงนี้

ความรู้สึกต่อเธอช่างชวนให้ขนลุก นับแต่คลิปเสียงหัวเราะก่อนการลงมือทำลายศพ มันช่างเยือกเย็นและเลือดเย็นเสียเหลือเกิน

เมื่อบวกกับการนำภาพและข้อความในเฟซบุ๊กของเธอมาผสม ไม่ว่าจะภาพตุ๊กตาฆาตกรชัคกี้, คำพูดสายโหด หรือการแชร์โพสต์การกระทำที่ชวนหวาดเสียวต่างๆ

ผู้คนก็ให้ภาพของ “นางมารร้าย” กับเธอเต็มรูปแบบ

และภาพนั้นก็ยิ่งถูกประทับตราให้แน่นแฟ้นมากขึ้น เมื่อมีคลิปการใช้ชีวิตของเธอแบบรื่นเริงตามปกติหลังจากได้ลงมือสังหารอย่างทารุณนั้นแล้ว

จนผู้คนพากันตั้งคำถามว่า เธอจะรู้สึกรู้สมกับการกระทำนี้บ้างหรือเปล่า

หากเรื่องราวของเธอถูกนำมาสร้างเป็นหนังหรือละคร โดยที่ไม่รู้มาก่อนว่าเป็นการนำมาจากชีวิตจริง ผู้ชมคงวิจารณ์ว่า ละครเรื่องนี้โม้ หรือโหดร้ายเกินไป ผู้หญิงอะไรจะโหดผิดมนุษย์มนาได้ขนาดนั้น

แต่เมื่อเป็นเรื่องจริง มันก็ช็อกและเสียดแทงลงไปในความรู้สึกของสังคมอย่างมาก

มีคำถามเกิดขึ้นมากมายว่า สังคมเรามาถึงจุดนี้แล้วหรือ

คำพูดที่รำพึงรำพันของแม่เปรี้ยวที่พูดถึงลูกสาวว่า

“เปรี้ยวเป็นเด็กดี เนี่ยก็กำลังสร้างบ้านให้แม่อยู่ ที่เป็นอย่างนี้คงจะเชื่อเพื่อน”

ฟังดูคุ้นๆ กับคำพูดของผู้เป็นแม่ของผู้ต้องหาคดีร้ายแรงต่างๆ ที่ต้องการันตีว่า “ลูกตนเป็นคนดี” และ “โทษคนอื่นที่เป็นต้นเหตุ”

แต่ที่ไม่เคยปรากฏเลยคือ “การตำหนิหรือกล่าวโทษตัวเอง”

เมื่อลูกสาวถูกจับได้ แม่ก็บอกว่า “ดีใจที่มันถูกจับ อย่างน้อยก็ยังดีกว่าเห็นมันตาย”

และบอกกับผู้สื่อข่าวว่า “จะเอาฝรั่งไปให้เปรี้ยวมัน มันชอบกิน”

คำพูดเหล่านี้บ่งบอกหลายๆ อย่างที่ทำให้เปรี้ยว…มาถึงจุดนี้ได้

การที่แม่แยกแยะไม่ออกว่าอะไรคือ “ดี” กับ “เลว” อันนี้น่ากลัว เชื่อว่าการที่เปรี้ยวกำลังสร้างบ้านให้กับแม่ คงไม่ใช่การทำอะไรให้ผู้บังเกิดเกล้าเป็นครั้งแรก แต่ต้องเคยให้นั่นให้นี่มาก่อน และจากการใช้ชีวิตของเปรี้ยวก็เชื่อว่าน่าจะมีให้แม่ไม่น้อย

แม่เคยสงสัยไหมว่า ลูกสาวไปทำอะไรมา หรือทำงานอะไร ทำไมถึงมีเงินมีทองมาให้และมีการใช้ชีวิตที่หรูหราฟุ่มเฟือยขนาดนั้น

ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่แม่จะรู้และดูออกว่า ลูกสาวของตนนั้นได้เดินผิดทางไปในโลกของความโลภ ฟุ้งเฟ้อ อยากได้ใคร่มี ไม่คำนึงถึงเรื่องดีไม่ดี หรือเผอิญลูกมีเงินทองมาตอบแทนก็เลยทำให้มองไม่เห็น

เปรี้ยวเป็นเด็กสาวคนหนึ่งที่เติบโตขึ้นมาด้วยความไม่พร้อมของพ่อแม่ ท่ามกลางสังคมที่ฟอนเฟะ แข่งขันกันมี แข่งขันกันรวย แข่งขันกันโชว์

เปรี้ยวคงไม่ได้รับการอบรมสั่งสอนดูแลให้ดีพอ จึงทำให้เธอคิดไม่เป็น และหลงทางเช่นนี้

หากการคาดเดาของผมถึงชีวิตในอดีตของเธอผิด ก็ต้องขออภัยด้วย

รึเปรี้ยวอาจจะได้รับการเลี้ยงดูที่ดีแล้ว แต่เป็น “กรรม” ของเธอเองที่เลือกจะ “ผิด”

ตอนนี้ก็ยังมีเด็กสาวที่เป็นเช่น “เปรี้ยว” อยู่ไม่น้อย อาจเป็นคนที่เรารู้จัก เป็นคนที่เราเห็นตามเฟซบุ๊ก เป็นคนที่เดินสวนกับเราในท้องถนน

และไม่รู้ว่าจะมีการ “ฆ่าหั่นศพ” ขึ้นมาอีกเมื่อไหร่

เปรี้ยวบอกกับพี่สาวว่า แอ๋มทำความเจ็บแค้นใจให้เธอมาก ทั้งเรื่องโกงหนี้สินและเคยแจ้งตำรวจให้มาจับแฟนเธอในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด และที่เธอหั่นศพเพื่อทำลายหลักฐานก็จำมาจากในหนัง

จริงๆ แล้วก็เป็นที่รู้กันดีว่า อะไรที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นหนทางสู่ความหายนะ สูญเสีย และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ง่ายๆ แต่คนบางคนก็เลือกที่จะเดินไปสัมผัสมัน

ยาเสพติดสามารถทำให้คนไม่เป็นตัวของตัวเองได้ สามารถลุกขึ้นมาทำร้ายใครก็ได้ แม้กระทั่งทำร้ายตัวเอง

ยาเสพติดอาจเป็นสาเหตุหลักก็ได้ที่ทำให้เปรี้ยวเลือดเย็นได้อย่างนั้น ถึงขนาดทำการหั่นศพเพื่อนได้ พร้อมเสียงหัวเราะ ตามด้วยการไม่รู้สึกผิดใดๆ

ที่ว่ายาเสพติดคือ “สัตว์นรก” ก็คงไม่ผิด

และอะไรทำให้เปรี้ยวต้องเดินทางผิดไปชนกับเจ้าสัตว์นรกนี่

เธอเติบโตมาด้วยชีวิตที่ล่อแหลมเพียงใด จึงทำให้มีวันนี้

พ่อและแม่ของเธอนั่นแหละจะให้คำตอบได้ดีที่สุด ถ้าไม่โกหกตัวเอง

ยังมีหญิงสาวและชายหนุ่มอีกมากที่กำลังอยู่บนเส้นทางสายนรกนี้

การขาดศีลธรรม ขาดหลักยึดเหนี่ยวจิตใจของคน ทำให้คนเราเข้าใกล้สัตว์เข้าไปทุกที คิดแต่จะแย่งชิง เอาชนะ

ไม่เว้นแม้แต่ใน “วัด” ที่สามเณรปลื้มถูกฆ่าและซ่อนศพใต้พื้นคอนกรีตภายในบริเวณวัด โดยมีผู้ร่วมกระทำการนับสิบคน โดยมีสาเหตุมาจากเรื่องของ “ผลประโยชน์” ในวัด

โอ้ อะไรนี่ วัดคือสถานที่ที่ควรจะขัดเกลากิเลสของคนให้ลดน้อยลง และสอนให้คนมีเมตตากรุณาต่อกัน แต่ในวัดนั้นเองยังมีพระและฆราวาสได้ร่วมกันฆ่าสามเณรเพราะเรื่องขัดผลประโยชน์

สังคมเราเดินทางมาไกลมาก ไม่ว่าจะเรื่องของเหยื่อที่เป็นฆราวาสอย่าง “เปรี้ยว” หรือเหยื่อที่เป็นสมณเพศอย่าง “สามเณรปลื้ม”

เราจะพัฒนา 4G กันไปถึง 7-8G ร้อยG ก็คงทำได้

แต่การพัฒนาจิตใจให้บริสุทธิ์ คิดดี ทำดีนี่สิ ไม่รู้จะพัฒนากันอย่างไรดี

เราอาจเป็นประเทศที่ก้าวไม่พ้นสักทีกับคำว่า “กำลังพัฒนา”

แต่สำหรับสังคมแล้ว บอกได้เลยว่า “เราด้อยพัฒนา” กันอย่างมาก…จริงๆ