เสียงคำรามที่ดังมาจาก “บุรีรัมย์”

การเมืองหน้า 8

 

ติดปลายนวม

 

เป็นที่รู้กันในแวดวงการเมืองว่า “บุรีรัมย์โมเดล” นั้นยึดถือวิถีนักเลงโบราณ

คำไหน-คำนั้น

และไม่ยอมให้ใครชกฟรี

ดังนั้น เมื่อกลุ่มดาวฤกษ์นำโดย “มาดามเดียร์” วทันยา วงษ์โอภาสี ลงมติ “งดออกเสียง” นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

เสียงคำรามจึงดังมาจาก “บุรีรัมย์”

เพราะนายศักดิ์สยามไม่ใช่เป็นเพียงเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย

แต่เป็นน้องชายสุดที่รักของ “เนวิน ชิดชอบ” ผู้มากบารมีตัวจริง-เสียงจริงของพรรค

และที่สำคัญ ทุกคนรู้ว่าเหตุผลแท้จริงของการเสียบข้างหลังครั้งนี้มาจากเหตุใด

เพราะ “มาดามเดียร์” เองก็ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

แต่ยังเป็น “มาดาม” ของสื่อย่านบางนา-ตราด ที่มีปัญหาคาใจกับแกนนำพรรคภูมิใจไทยมายาวนาน

โดยมีตัวละครสำคัญชื่อ “บีทีเอส” ที่กลืนไม่เข้า คายไม่ออก

จนสำลักออกมาเป็นรถไฟฟ้าสายสีเขียว-สีส้ม

เมื่อเรื่องราวหลังม่านเป็นเช่นนี้

เสียงเรียกร้องจากพรรคภูมิใจไทยถึงพรรคพลังประชารัฐให้จัดการกลุ่มดาวฤกษ์จึงไม่ธรรมดา

แต่เปี่ยมด้วยรังสีอำมหิตอย่างแท้จริง

 

การวอล์กเอาต์จากสภาผู้แทนราษฎรของ “ภูมิใจไทย” หลังพรรคพลังประชารัฐเสนอเลื่อนกฎหมายอื่นขึ้นมาแซงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

เป็นแค่ “หมัดแย็บ” แสดงความไม่พอใจพรรคพลังประชารัฐ

เพราะการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกลุ่มดาวฤกษ์ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบที่น้อยเกินไปในความรู้สึกของภูมิใจไทย

เขาต้องการมากกว่านั้น

แต่จะให้ถึงขั้นลาออกจากรัฐบาล คงมากเกินไป

โกรธแบบนี้…ขาดทุน

เกมตอนนี้จึงคงเป็นแค่การตีรวนในสภา หรือขวางลำบางเรื่องใน ครม.

แต่นั่นเป็นเกมก่อนที่ศาลจะตัดสินคดี กปปส.

 

เพราะทันทีที่ศาลตัดสินจำคุกแกนนำ กปปส.

ความปั่นป่วนก็เกิดขึ้นกับรัฐบาลทันที

มีรัฐมนตรีที่ต้องพ้นจากตำแหน่งทันที 3 คน คือ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ, พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จากพรรคพลังประชารัฐ

และถาวร เสนเนียม จากประชาธิปัตย์

นอกจากนั้น ยังมี ส.ส.เขตของประชาธิปัตย์ที่ต้องเลือกตั้งใหม่อีก

สถานการณ์เช่นนี้บังคับให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องปรับคณะรัฐมนตรี

นี่คือ “โอกาส” ของพรรคภูมิใจไทย

เพราะจำนวน ส.ส.ของพรรคที่เพิ่มขึ้นจาก “งูเห่า” อนาคตใหม่ ทำให้โควต้ารัฐมนตรีของภูมิใจไทยต้องได้เพิ่มขึ้น 1 เก้าอี้

จะเอาหรือไม่เอาก็ได้

แต่วันนี้คงต้องออกฤทธิ์ออกเดชบ้าง

“โมโห” แล้ว “กำไร” ใครจะไม่เอา