ฮัลโหล Tony Woodsome / บทความพิเศษในประเทศ

บทความพิเศษในประเทศ

 

ฮัลโหล

Tony Woodsome

 

เมื่อช่วงปลายปี 2563 ต่อเนื่องถึงต้นปี 2564 “ทักษิณ ชินวัตร” ถูกมองว่าเริ่มถดถอยและกำลังถูก “ก้าวข้าม” ทางการเมือง

เพราะแม้แต่การเลือกตั้งท้องถิ่น โดยเฉพาะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด

“ทักษิณ” พร้อมน้องสาว “เยาวภา-ยิ่งลักษณ์” ต้องออกแรงอย่างสุดฤทธิ์ โดยเฉพาะเชียงใหม่ และเชียงราย

แต่ผลการเลือกตั้งท้องถิ่นโดยรวม ไม่สู้จะดีต่อทักษิณ และพรรคเพื่อไทยมากนัก

คือแม้จะชนะในสนามเชียงใหม่

แต่ก็แพ้ในเชียงราย

นอกจากนั้น รวมถึงสนามภาคอีสาน ที่เคยเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคเพื่อไทยอีกหลายจังหวัด

ตรงกันข้าม พรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทยกุมชัยไปได้ครึ่งค่อนประเทศ

ขณะที่เยาวชนและคนรุ่นใหม่ดูเหมือนจะก้าวข้ามทักษิณ และเพื่อไทย ไปหาพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้ามากกว่า

ทำให้ฝ่ายทักษิณและเพื่อไทยจำต้องขยับอะไรบางอย่าง

มิฉะนั้นอาจสูญเสียฐานมวลชนทั้งเก่าและใหม่ไป

 

นี่จึงนำมาสู่การปฏิรูปพรรคครั้งใหญ่

แม้ว่าจะต้องสูญเสียกลุ่มสำคัญในพรรคอย่างคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไป

แต่พรรคเพื่อไทยก็ไม่มีทางเลือกนัก

จำต้องเดินหน้าต่อไป

กรรมการบริหารพรรคพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ เริ่มผลักดันโครงการ “The Change Maker” มีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ ผู้อำนวยการทีมคิดเพื่อไทย ฯลฯ เข้ามาดำเนินการ

ถือเป็นการดิสรัปต์ตัวเอง เพื่อก้าวไปสู่สิ่งใหม่

ภายใต้แนวคิด คน-คิด-เคลื่อน

“คน” คือการดึงคนที่มีความมุ่งมั่น เข้ามาช่วยกันคิด

“คิด” คือการระดมสมองมาแก้ปัญหา

“เคลื่อน” คือการปฏิบัติ ที่ผ่านมาเพื่อไทยครองใจประชาชนได้ เพราะการเป็นนักปฏิบัติ ทำมากกว่าพูด

 

ทั้งนี้ ในประเด็น “คน” นั้น

สังคมก็ได้เริ่มเห็นการดึงคนนอกพรรค แต่มากด้วยบารมีและอิทธิพล อย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” เข้ามา

โดยเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ อินสตาแกรม Ing Shinawatra ของแพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กของนายทักษิณ

ได้โพสต์คลิปวิดีโอภาพของนายทักษิณขณะกำลังซ้อมชกมวยที่บ้านในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

พร้อมข้อความระบุว่า

“หนุ่มวัย 72 ส่งคลิปนี้มาให้แม่ลูกอ่อนดูว่า ฟิตร่างกายไว้ พร้อมเลี้ยงหลานธิธารแล้วค่ะ!”

แม้จะดูเป็นเรื่องภายในครอบครัว

แต่กระนั้น หลายคนอดจะมองไปในทางการเมืองไม่ได้

นั่นคือ ถึงทักษิณจะมีอายุย่างเข้าสู่วัย 72 แต่ก็ยังฟิต แข็งแรง

น่าจะสามารถทำงานได้ต่อไปอีกนาน

อันรวมถึงบทบาททางการเมืองด้วย

 

ต่อมาในวันวาเลน์ไทน์ 14 กุมภาพันธ์

ทักษิณได้เปิดตัวผ่านคลิปวิดีโอในงาน ‘คนไทย ไร้จน’ ซึ่งจัดขึ้นโดยกลุ่มแคร์ คิด เคลื่อน ไทย ที่ลิโด้ คอนเนค

แสดงวิชั่นการแก้ไขปัญหาความยากจน หลายประเด็น

และดูเหมือนจะได้รับความสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ติดตามผ่านโซเชียลในรูปแบบต่างๆ

ซึ่งแน่นอน สำหรับทักษิณที่เคยถูกกล่าวขานว่าเป็นอัศวินคลื่นลูกที่ 3

ย่อมมองออกจะใช้ช่องทางใดสื่อสารกับคนรุ่นใหม่

ทำให้อีกไม่กี่วันต่อมา คือวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564

ทักษิณ ชินวัตร ในชื่อบัญชี Tony Woodsome (โทนี่ วูดซัม)

อันเป็นชื่อภาษาอังกฤษที่ได้มาระหว่างการมาเรียนปริญญาโท-เอกในสหรัฐอเมริกา (ระดับปริญญาโท สาขากระบวนการยุติธรรม ที่มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเคนทักกี สำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ.2518 และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ในสาขาเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยแซมฮิวสตันสเตต เมื่อปี พ.ศ.2521)

โดยอาจารย์ที่สอนไม่สามารถออกเสียงชื่อ “ทักษิณ” ได้ จึงเรียกเขาว่า “โทนี่”

ส่วน Woodsome บีบีซีไทยให้ข้อมูลว่า Woodsome Manor เป็นชื่อของอาคารที่พัก-สำนักงานที่นายทักษิณใช้เป็นที่อยู่ในการจดทะเบียนธุรกิจ ย่านเซอร์เรย์ ใกล้กรุงลอนดอน

ทั้งนี้ ทักษิณในชื่อบัญชี Tony Woodsome ได้เข้าร่วมพูดคุยผ่านแอพพลิเคชั่น Clubhouse (คลับเฮาส์) ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นใหม่ และกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง ในหมู่คนรุ่นใหม่ตอนนี้

 

โดยทักษิณได้เข้าไปทำกิจกรรมในห้องพูดคุยชื่อ “ไทยรักไทย ใครเกิดทัน มากองกันตรงเน้!” ที่กลุ่มแคร์ คิด เคลื่อน ไทยเปิดขึ้น

มีบุคคลที่มีชื่อเสียงในพรรคไทยรักไทยเรื่อยมาจนถึงพรรคเพื่อไทยร่วมด้วย อาทิ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช นายจาตุรนต์ ฉายแสง

การพูดคุยมีหลากหลายประเด็น อาทิ กองทุนหมู่บ้าน, 30 บาทรักษาทุกโรค, 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์

ทั้งนี้ ทักษิณวิจารณ์การแก้ไขปัญหาโควิด-19 ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า “ควรเปิดตลาดการค้า ใส่ใจด้านเศรษฐกิจมากกว่านี้ จากแก้ไขแบบนี้เหมือนทำให้คนไทยตายผ่อนส่ง”

นอกจากนั้น ยังกล่าวถึงกระแสคนรุ่นใหม่ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยว่า “เกิดจากเด็กรุ่นใหม่เริ่มมองไม่เห็นอนาคต เด็กรุ่นนี้คือคน Gen Y เกิดมาจากเทคโนโลยี มาตอนนี้โลกเปลี่ยนไปเยอะ ถ้าเด็กไม่เห็นอนาคต เขาก็ต้องหา”

ผู้ที่เข้าร่วมพูดคุยถามทักษิณว่า “ถ้าปัจจุบันคุณทักษิณเป็นนายกฯ จะทำอย่างไรกับข้อเรียกร้องของคนรุ่นใหม่”

ทักษิณตอบว่า “ผมก็จะพูดคุยกัน ทุกอย่างมีเหตุผล ประเทศเรามีมาช้านานในเรื่องสถาบัน เราต้องเคารพ เขาเป็นห่วงปฏิวัติ ห่วงตรงนี้เป็นหลัก ทุกอย่างอยู่ที่การพูดคุย เรื่องนี้ไม่ฟังไม่ได้ เราต้องรวมทุกฝ่ายเข้าหากัน และร่วมกันทำงาน เรื่องการพูดคุยเป็นเรื่องสำคัญ”

นอกจากนี้ มีผู้ที่เข้าร่วมถามนายทักษิณว่า เหตุการณ์ความรุนแรงที่ตากใบ และภายในพื้นที่มัสยิดกรือเซะ จังหวัดปัตตานี จนมีผู้เสียชีวิต เป็นอย่างไร นายทักษิณตอบว่า “รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่ตอนนั้นอยู่ในการควบคุมทหาร ผมก็ได้รับรายงาน ก็เสียใจ จำไม่ค่อยได้ เสียใจ”

เมื่อมีผู้เข้ามาถามเรื่องการใช้ ม.112 ทักษิณตอบว่า “ขออนุญาตไม่ตอบ ตอนนี้ตามแต่เรื่องปัญหาเกี่ยวกับโลก ไม่ค่อยตามข่าวในไทย”

 

แม้ว่าในสองประเด็นหลัง คือเรื่องตากใบ กรือเซะ และมาตรา 112 ที่ทักษิณลอยตัว อ้างจำไม่ได้ และ “ไม่ตอบ” จะกลายเป็นประเด็นวิพากษ์ในเชิงลบต่ออดีตนายกฯ ผู้นี้

แต่ที่ปฏิเสธไม่ได้

คือ Tony Woodsome ได้สร้างปรากฏการณ์มีผู้ร่วมฟังในห้อง “ไทยรักไทย ใครเกิดทัน มากองกันตรงเน้!” อย่างล้นหลาม

โดยบีบีซีไทยรายงานว่า เวลา 22.55 น.วันที่ 22กุมภาพันธ์ มีคนฟัง Tony Woodsome ในคลับเฮาส์ไทยรวมกว่า 5 หมื่นคน แบ่งเป็นตามห้องต่างๆ คือ

“ไทยรักไทย ใครเกิดทัน มากองกันตรงเน้!” จำนวน 8,000 คน

เสด็จพ่อทักษิณ ห้อง 2 จำนวน 8,000 คน

ห้องถ่ายทอดเสียง “ไทยรักไทย” ห้อง 2 จำนวน 7,900 คน

ห้องเสียง “ไทยรักไทย ใครเกิดทัน มากองกันตรงเน้!” จำนวน 7,900 คน

ทักษิณ มา Clubhouse แว้ววววว… จำนวน 8,000 คน

ห้องเสียง คุณพ่อ (เข้าไม่ทันทางนี้) จำนวน 1,800 คน

ห้องเสียง ทักษิณ จำนวน 467 คน

ห้องทักษิณ ไทยรักไทย ใครเกิดทัน 4,800 คน

ห้อง 3 มีจำนวน 59 คน

การสนทนาจบลงในเวลา 23.30 น. ผู้จัดประกาศว่า มีจำนวนห้องสนทนาและที่เปิดเชื่อมต่อสัญญาณรวมทั้งหมด 9 ห้อง มีผู้ฟังเกือบแสน

ถือเป็นสถิติต้นๆ ของคลับเฮาส์ในไทยเลยทีเดียว

 

มีผู้สื่อข่าวนำเรื่องนี้ไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า จะพิจารณาหรือทดลองเล่นคลับเฮาส์ หรือไม่ เพราะจะได้เป็นอีกหนึ่งช่องทางเพิ่มการสื่อสารที่ได้ทั้งการสื่อสาร หลังทักษิณเข้ามาเล่นเป็นครั้งแรกและได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม

คำตอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ก็คือ

ไม่มีเวลาขนาดนั้น แต่ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตาม เพื่อที่จะได้ชี้แจงให้ถูกต้อง กรณีที่มีการบิดเบือน เรื่องนี้สุดแล้วแต่ประชาชนว่าจะอย่างไร ถือว่าวันนี้เป็นเรื่องของโลกใบใหม่ โลกยุคใหม่

แต่ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์เปรยขึ้นมาด้วยว่า คำถามที่เป็นกระพี้ขอให้ลดลงหน่อยก็แล้วกัน กระพี้ที่เป็นเปลือกนอกของต้นไม้ แก่นมันอยู่ตรงไหนถามตรงแก่นตรงนั้น

เมื่อถาม พล.อ.ประยุทธ์ ว่าที่ทักษิณพูดในแอพพลิเคชั่นคลับเฮาส์เมื่อคืนนี้มีการบิดเบือนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ผมไม่ได้ฟัง ต้องไปถามเขาดู คนผิดกฎหมายอยู่ต่างประเทศ จะฟังทำไมเล่า ชอบฟังนักนะ ไอ้คนผิดกฎหมายเนี่ย ทำลายกฎหมาย ให้เครดิตกันอยู่ได้”

ระหว่างตอบ นายกฯ ยังได้ชี้ไปยังต้นไม้พร้อมบอกว่า “นี่แหละกระพี้ กระพี้ นี่เปลือกกระพี้นี่ไง”

 

การกระทบกระเทียบถึงกระพี้ของ พล.อ.ประยุทธ์นี้

ถูกเชื่อมโยงไปถึงกรณีที่ทักษิณไปโผล่ในคลับเฮาส์ในทันที

พร้อมๆ กับเกิดการเปรียบเทียบ ฝ่ายไหนเป็นกระพี้ หรือแก่นกันแน่

โดยเฉพาะการก้าวเท่าทันกระแสเทคโนโลยีด้านการสื่อสารระหว่างทั้ง 2 ขั้ว

แน่นอน มีการมองว่าฝ่ายทักษิณฉับไวกว่า

และเชื่อว่านี่จะเป็นยุทธวิธีในการสื่อสารกับคนรุ่นใหม่ และเชื่อมผสานเป็นเนื้อเดียวกันกับแนวทาง “คน-คิด-เคลื่อน”

อันจะปูทางไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่ ที่น่าจะเกิดขึ้นภายใน 2 ปีข้างหน้า หรืออาจเร็วกว่า

โดยพรรคเพื่อไทยภายใต้การหนุนเนื่องของทักษิณ คงจะ “ปฏิรูปพรรค” เพื่อให้ไปรองรับแนวทางของพรรคและเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะทำให้เข้าถึงกลุ่มต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและแผ่เป็นวงกว้าง

แน่นอน พรรคเพื่อไทยย่อมวางยุทธศาสตร์ที่จะตะลุย ส.ส.เขตทั้งประเทศ แข่งกับพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ อย่างเต็มที่

โดยคงจะสร้างปรากฏการณ์อย่าง Tony Woodsome ออกมาเขย่าสังคมเป็นระยะๆ อย่างแน่นอน

ซึ่งจะเป็นเพียง “กระพี้”

หรือนี่คือการเริ่มต้นขยับเพื่อเคลื่อนรับ “การเลือกตั้ง” ที่จะมีขึ้นในอีก 2 ปีข้างหน้า หรืออาจจะเร็วกว่านั้นเมื่อประเมินจากผลการซักฟอกที่เคยถูกปรามาสว่าจะไม่มีน้ำยา

แต่กลับส่งผลสะเทือนกับรัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์อย่างสูง