การศึกษา/ เปิดเส้นทางทวงคืน 2 ทับหลัง ‘ปราสาทเขาโล้น-หนองหงส์’ จาก ‘มะกัน’ กลับสู่ไทย…

การศึกษา

เปิดเส้นทางทวงคืน 2 ทับหลัง

‘ปราสาทเขาโล้น-หนองหงส์’

จาก ‘มะกัน’ กลับสู่ไทย…

 

ถือเป็นข่าวดีรับต้นปีวัวทอง 2564

กรณีสหรัฐอเมริกาเตรียมส่งคืนทับหลัง 2 ชิ้น คือ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์

และทับหลังปราสาทเขาโล้น อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว ให้กับประเทศไทย

หลังจากถูกตรวจสอบพบว่าเป็นทับหลังที่ถูกขโมยไปและถูกเก็บไว้ภายในพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชีย ในนครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา

ย้อนรอยการติดตามทวงคืนทับหลังทั้งสองชิ้น เริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2560 กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยกรมศิลปากร ได้ประสานงานอย่างเป็นทางการผ่านกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ส่งหนังสือติดตามทวงคืนโบราณวัตถุถึงสำนักงานสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ สหรัฐอเมริกา

และส่งข้อมูลการศึกษาทางวิชาการพร้อมหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น รายงานการสำรวจของกรมศิลปากร ตัวอย่างเอกสารอนุญาตในการส่งออกโบราณวัตถุ เป็นต้น เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวน

ยืนยันว่าโบราณวัตถุนั้นมีถิ่นกำเนิดในไทย และได้ถูกลักลอบนำออกไปโดยวิธีการที่ผิดกฎหมาย…

กระทั่งได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมของสหรัฐ และทางพิพิธภัณฑ์ฯ ยอมรับว่าทับหลังทั้ง 2 รายการ เป็นกรรมสิทธิ์ของฝ่ายไทย

ปัจจุบันได้นำทับหลังทั้ง 2 ชิ้นออกจากห้องจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์มาจัดเก็บในห้องคลัง เพื่อรอขั้นตอนทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในกระบวนการส่งคืนสู่ประเทศไทย ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

นอกจากนี้ ยังมีโบราณวัตถุที่อยู่ระหว่างติดตามคืนสู่ประเทศไทยอีกกว่า 130 รายการ ซึ่งมีทั้งที่เป็นพระพุทธรูป พระโพธิสัตว์ และทับหลังต่างๆ

 

อย่างไรก็ตาม คำแถลงการณ์ของสำนักงานอัยการเขตแคลิฟอร์เนียเหนือระบุว่า นักโบราณคดีของไทยเชื่อว่าทับหลังทั้งสองชิ้นถูกขโมยออกมา และถูกพ่อค้าชาวยุโรปซื้อไปในช่วงปลายทศวรรษ 1960 จากนั้น เอเวอรี บรันเดจ อดีตประธานคณะกรรมการโอลิมปิกและนักสะสมงานศิลปะได้มอบทับหลังจากปราสาทหนองหงส์ให้พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียซานฟรานซิสโกเมื่อปี 1966 ส่วนทับหลังจากปราสาทเขาโล้น ทางพิพิธภัณฑ์ซื้อเข้ามาเมื่อปี 1968

นับเป็นเวลานานกว่า 55 ปี ที่ทับหลังทั้ง 2 ชิ้นถูกนำออกไปจากประเทศไทย…

เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางสหรัฐทราบครั้งแรกเมื่อปี 2017 ว่าทับหลังทั้งสองชิ้นถูกลักลอบส่งออกมาจากประเทศไทยและได้ติดต่อพิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียในเมืองซานฟรานซิสโกให้ส่งคืนไทย

และในปีเดียวกันทางพิพิธภัณฑ์ตัดสินใจนำทับหลังทั้งสองชิ้นออกจากการจัดแสดง ต่อมาเดือนตุลาคม ปี 2563 กระทรวงยุติธรรมสหรัฐยื่นฟ้องพิพิธภัณฑ์เพื่อริบคืนทับหลังทั้งสองชิ้นจนนำมาสู่การทำข้อตกลงดังกล่าว

 

เรื่องนี้ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ระบุว่า รัฐบาลกลางสหรัฐจะนำส่งทับหลังทั้งสองรายการคืนไทยผ่านกรอบการดำเนินงานของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐให้แก่รัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการ

คาดว่าจะล่าช้าไปจากเดิมที่กำหนดไว้เดือนมีนาคม ไปเป็นเดือนเมษายน หรือพฤษภาคม เนื่องจากติดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19

จากนี้ วธ.จะทำหนังสือรายงานผลการดำเนินงานเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ผ่านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ว่าการดำเนินการในกระบวนการทางกฎหมายในสหรัฐสิ้นสุดลงแล้ว

เหลือในส่วนกระบวนการส่งคืน

 

การได้รับทับหลังทั้ง 2 รายการคืนครั้งนี้ นับเป็นหนึ่งความสำเร็จครั้งสำคัญภายใต้การดำเนินงานแบบบูรณาการระดับชาติ

ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา

ตลอดจนความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน และความตระหนักถึงคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมที่ได้ถูกลักลอบนำออกนอกประเทศโดยผิดกฎหมาย เป็นแนวปฏิบัติที่สหรัฐได้ดำเนินการในฐานะมิตรประเทศ โดยในการจัดพิธีส่งมอบอย่างเป็นทางการจะทำหนังสือเชิญนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีรับมอบ หลังจากนั้นได้มอบหมายให้กรมศิลปากรนำโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการมาจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าชมต่อไป

พร้อมกันนี้ คณะกรรมการจะเร่งดำเนินการติดตามทวงคืนโบราณวัตถุอีกกว่า 50 รายการที่อยู่ในบัญชี ซึ่งอยู่ในขั้นตอนที่คณะอนุกรรมการวิชาการได้ดำเนินการพิสูจน์เพื่อจัดส่งหลักฐานเกี่ยวกับที่มาที่มีความชัดเจน ว่ามีการลักลอบนำออกนอกประเทศไทยไปจริง และพิสูจน์ได้ว่าเป็นของไทย เช่นเดียวกับโบราณวัตถุทั้ง 2 รายการที่มีหลักฐานและภาพถ่ายว่าเคยอยู่ในประเทศไทยทั้งที่ปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว และปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์

“นับเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมทั้งกระบวนการที่เริ่มจากนโยบายของรัฐบาล และเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและสหรัฐ ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้น วธ.เองได้เคยมีการหารือกับเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยในการพบปะกันด้านวัฒนธรรม โดยมีการหารือกันในการช่วยกันดูงานทางศิลปวัฒนธรรมที่อาจจะถูกลักลอบนำมา ทั้งกรณีลักลอบออกนอกประเทศและลักลอบนำเข้ามาในไทยก็ขอให้ประสานความร่วมมือกัน เช่น เอกอัครราชทูตเปรู ปากีสถาน อิหร่าน ประจำประเทศไทย”

นายอิทธิพลกล่าว

 

สําหรับทับหลังปราสาทเขาโล้น เป็นทับหลังจำหลักลายเทวดาประดับเหนือเกียรติมุข ศิลปะลพบุรี (ศิลปะเขมรโบราณในประเทศไทย) ราวพุทธศตวรรษที่ 16-17 ที่ ต.ทัพราช อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว โบราณวัตถุชิ้นดังกล่าวเคยปรากฏภาพถ่ายอยู่ในหนังสือศิลปะสมัยลพบุรี โดยศาสตราจารย์หม่อมเจ้าสุภัทรดิศ ดิศกุล มหาวิทยาลัยศิลปากร ตีพิมพ์เมื่อปี 2510 และมีการนำเสนอข่าวว่ามีการจัดแสดงที่เอเชีย อาร์ต มิวเซียม ในนครซานฟรานซิสโก (Asian Art Museum)

ส่วนทับหลังปราสาทหนองหงส์ เป็นทับหลังจำหลักรูปพระยมทรงกระบือเหนือเศียรเกียรติมุข ศิลปะลพบุรี (ศิลปะเขมรโบราณในประเทศไทย) ราวพุทธศตวรรษที่ 16 คาดว่าเคยเป็นทับหลังที่อยู่เหนือกรอบประตูปราสาทหลังใต้ของปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ โบราณวัตถุชิ้นนี้เคยปรากฏภาพถ่ายในรายงานโครงการสำรวจและขุดแต่งโบราณวัตถุสถานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกรมศิลปากรเมื่อปี 2502 ปัจจุบันทับหลังชิ้นนี้จัดแสดงที่เอเชีย อาร์ต มิวเซียม เช่นกัน

โดยจากข้อมูลการส่งคืนโบราณวัตถุต่างประเทศกลับประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2508-2560 ในระยะเวลา 52 ปี ได้รับโบราณวัตถุคืนจากต่างประเทศ 19 ครั้ง จำนวน 1,024 รายการ

ส่วนสถิติการได้รับโบราณวัตถุคืนจากสหรัฐ ตั้งแต่ 2510-2558 ได้รับคืน 14 ครั้ง 851 รายการ

และในช่วงปี 2548 จนกระทั่งถึงปี 2557 ในช่วงรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับคืน 554 รายการ โดยครั้งแรกเป็นโบราณวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์ ยุคบ้านเชียง และปี 2558 ได้รับคืนมาอีก 2 ครั้ง 76 รายการ รวมแล้วกว่า 600 รายการ

และล่าสุดปี 2564 กำลังจะได้ทับหลังคืนอีก 2 ชิ้น คือทับหลังเขาโล้น และทับหลังหนองหงส์

นับเป็นเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงภาวะวิกฤตของประเทศ คงต้องชื่นชมแม่งานอย่างกรมศิลปากร ที่ประสาน และไม่ปล่อย จนสามารถนำสมบัติของชาติกลับคืนสู่ประเทศไทยได้…