ภาพยนตร์ : NEWS OF THE WORLD ‘อาชีพอย่างนี้ก็มีเหรอ’ / นพมาส แววหงส์

นพมาส แววหงส์

NEWS OF THE WORLD

‘อาชีพอย่างนี้ก็มีเหรอ’

 

กำกับการแสดง

Paul Greengrass

นำแสดง

Tom Hanks

Helena Zengel

Ray McKinnon

Mare Winningham

Elizabeth Marvel

 

ท้องเรื่องของหนังเกิดใน ค.ศ.1870 ในรัฐทางใต้ของอเมริกา โดยเฉพาะเท็กซัส

หลังสงครามกลางเมืองอเมริกันเพียงห้าปี ร.อ.เจฟเฟอร์สัน คิดด์ (ทอม แฮงส์) ที่ปลดประจำการแล้ว หันมาประกอบอาชีพสื่อมวลชน

แต่ไม่ใช่ในลักษณะของโฆษกรายการข่าวหรือผู้ประกาศข่าวทางโทรทัศน์อย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

ก็สมัยนั้นยังไม่มีการประดิษฐ์คิดค้นโทรทัศน์ขึ้นมาเป็นเครื่องมือความบันเทิงในบ้านเลยนี่นา…อย่าว่าแต่เพียงตัวสื่อหรือตัวอุปกรณ์เลย ไฟฟ้าแบบที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันทุกวันนี้ยังไม่คนรู้จักเลยด้วยซ้ำ

ผู้กองคิดด์ร่อนเร่เดินทางจากเมืองหนึ่งไปอีกเมืองเพื่อนำข่าวสารบ้านเมืองและความเป็นไปในโลกกว้างจากหนังสือพิมพ์ต่างๆ มา “อ่าน” ให้ชาวบ้านฟัง แลกกับเงินสิบเซนต์ในการมาฟังเขาอ่าน

เขาหอบหนังสือพิมพ์มาเป็นปึก แต่ก็เลือกอ่านเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ชาวบ้านฟัง ด้วยน้ำเสียงและลีลาเร้าใจชวนลุ้นของนักเล่านิทานสมัยก่อน ทำให้ผู้ฟังติดตามเรื่องอย่างสนุกสนาน ตื่นเต้น เอาใจช่วย โกรธแค้น แช่งชักหักกระดูก ฯลฯ

กิจกรรม “การอ่านหนังสือพิมพ์” ของเขาจึงเป็นเหมือนมหรสพหรือความบันเทิงที่หาได้ยากสำหรับชาวชนบทห่างไกลในสมัยนั้น ซึ่งแทบไม่รู้ความเป็นไปในโลกกว้างและอ่านหนังสือไม่ออกเป็นส่วนมาก

 

ระหว่างเดินทาง ผู้กองคิดด์ผ่านไปทางถิ่นของชาวพื้นเมืองดั้งเดิม ซึ่งเราคนไทยมักเรียกกันว่า อินเดียนแดง และได้พบศพที่ถูกแขวนอยู่บนต้นไม้ ในบริเวณนั้น มีเด็กหญิงผิวขาวคนหนึ่งหลบซ่อนอยู่

จากเอกสาร เขาได้รู้ว่าเด็กหญิงชื่อ โจฮันนา (เฮเลนา เซงเกล) และเป็นลูกของคนเยอรมันที่อินเดียนแดงเผ่าคิโอวาเก็บมาเลี้ยง เพราะพ่อ-แม่ตายหมด ดังนั้น โจฮันนาจึงไม่พูดภาษาอังกฤษสักคำ และพูดแต่ภาษาคิโอวา

ผู้กองคิดด์จึงถือเป็นหน้าที่ของเขาที่จะนำเด็กกำพร้าคนนี้ไปให้ทางการเพื่อส่งต่อไปให้ญาติที่ใกล้ที่สุด แต่เมื่อทางการไม่รับ เขาก็ต้องทำหน้าที่พาเธอไปด้วยตัวเอง

จะเรียกว่านี่เป็นหนัง road movie ก็ไม่ผิด เพราะเป็นการเดินทางรอนแรมฝ่าฟันภัยไปด้วยกัน และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน

พล็อตและธีมแบบนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ เราคงได้ดูเค้าโครงเรื่องแบบนี้กันมานักต่อนักแล้ว

แต่ด้วยฝีมือกำกับอันละเอียดลออของพอล กรีนแกรส (The Bourne Trilogy, Captain Phillips) และฝีมือการแสดงอันประณีตของนักแสดงยอดฝีมือ ทอม แฮงส์ รวมทั้งนักแสดงเด็กหน้าใหม่ที่เหมาะเจาะลงตัวอย่างยิ่ง

นี่จึงเป็นหนังที่เนียนละเอียดและน่าดูมาก

 

การผจญภัยระหว่างทาง คือการหลบหนีกลุ่มอันธพาลแมงดาที่ต้องการซื้อตัวเด็กหญิงหน้าตาหมดจดจากผู้กองคิดด์ที่ดูเหมือนจะไม่มีทางสู้

มีฉากไล่ล่าบนหลังม้าและบนเกวียนแบบหนังเคาบอยตะวันตก ผู้กองของเราเฆี่ยนเกวียนโกโรโกโสหนีบนหนทางขรุขระจนเกวียนพัง และไปจนมุมอยู่บนโขดเนิน และใช้สติปัญญาร่วมมือกันหาทางเอาตัวรอดจากคนร้ายที่ดูจะได้เปรียบกว่าในทุกทาง

อีกตอนหนึ่งคือผู้กองคิดด์พาเด็กหญิงผ่านเข้าไปในเขตที่มีผู้นำเถลิงอำนาจ หลงตัวหลงอำนาจ กีดกันไม่ให้ “คนนอก” ผ่านเข้ามา และพยายามปิดหูปิดตาชาวบ้านจากโลกภายนอก รวมทั้งมอมเมาชาวบ้านด้วยโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ นานา ให้หลงเชื่อและหลงผิด

ประเด็นนี้แทบไม่มีทางตีความหรือคิดเป็นอื่นไปได้ นอกจากเป็นการวิพากษ์การเมือง โดยเฉพาะเกี่ยวกับอดีตประธานาธิบดีที่เพิ่งพ้นตำแหน่งไปหมาดๆ ที่สร้าง “ข่าวปลอม” โหมกระแสและยัดเยียดให้คนหมู่มากเชื่อ โดยไม่สนใจกับความเป็นจริงและความเป็นไปในโลกกว้าง

เมื่อผู้นำชุมชนสั่งให้ผู้กองอ่านข่าวโฆษณาชวนเชื่อ แต่ผู้กองไพล่ไปอ่านข่าวที่ปลุกระดมความคิดให้ต่อต้านผู้นำขี้ฉ้อ เรื่องราวจึงลุกลามไปสู่การจลาจลย่อยๆ

ซึ่งทำให้เห็นถึงบทบาทและศักยภาพของสื่อมวลชนที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่ชุมชนหรือสังคมได้

 

แต่การวิพากษ์ทางการเมืองเป็นเพียงประเด็นที่แตกออกมาจากพล็อตเรื่องหลัก ต่อให้ไม่มีส่วนนี้ หนังก็ยังมีเรื่องราวน่าประทับใจให้ได้ดูอีกมาก…

ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์และความผูกพันระหว่างตัวละคร

อาชีพแสนแปลกที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอยู่

การได้กลับไปอยู่ในช่วงของกาลเวลาในอดีตย้อนหลังไปราว 150 ปี

ความคิดที่ว่าบรรพบุรุษของเราเคยมีชีวิตอย่างไรโดยไม่ต้องอาศัยความสะดวกสบายของเทคโนโลยีอย่างที่เรามีในทุกวันนี้…

ภาพยนตร์เป็นหน้าต่างที่เปิดให้เราเห็นโลกและความเป็นอื่นอันชวนพิศวงจริงๆ เลย

นักดูหนังไม่ควรพลาดเรื่องนี้ ซึ่งเพิ่งออกใหม่ทางเน็ตฟลิกซ์ค่ะ