สัมผัสน้ำเสียงและเห็นอาการของ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ หรือ “ครูหยุย” ในที่ประชุมสนช.แล้ว

เข้าใจ และ เห็นใจ

เข้าใจใน “ความรู้สึก” เมื่อคณะกรรมการกกต.ชุด นายสมชัย ศรีสุทธิยางกูร ถูกกระทำ

เห็นใจในความเข้าใจ

เพราะว่าคณะกรรมการกกต.ชุด นายสมชัย ศรีสุทธิยางกูร มีความเด่นชัดในบทบาทและพฤติการณ์

“อาสา” นาย “จนพอแรง”

ขนาด “รับใช้” อย่างสุดลิ่มทิ่มประตูโดยเฉพาะในห้วงแห่งการเลือกตั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ก็ยังถูกเชือด

“เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล”

 

วิถีแห่งกรรมอย่างชนิด “ติดจรวด” อย่างนี้มีหรือที่นักการเมืองระดับ “ครูหยุย” จะอ่านไม่ออก

แม้จะเรียนมาทาง “ครุศาสตร์” ก็ตาม

ต้องยอมรับว่า นับแต่ นายสมชัย ศรีสุทธิยางกูรและเพื่อนกกต.ท่านอื่นได้รับแต่งตั้งภาระหน้าที่ก็เด่นชัด

โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ 2557

เมื่อกระแส “ชัตดาวน์” ลามมาจากมวลมหาประชาชนมาถึงการเลือกตั้ง แทนที่กกต.จะทำหน้าที่ทำให้การเลือกตั้งตามกฤษฎีกาบรรลุ

กลับโพสต์ภาพ “หอเอน” จากเมืองปีซามาโชว์

คำว่า “จำเป็นต้องเอียง” จึงกลายเป็นแนวทางและหลักการในการทำงาน

กระทั่งไม่สามารถจัดการ “เลือกตั้ง” ได้

 

ต้องยอมรับว่าเพียงผลงานของกกต.ชุดนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 ก็ถือว่ายอดเยี่ยมอย่างยิ่ง

เพียงแต่ความยอดเยี่ยมมีระยะเวลา

พอผ่านเหตุการณ์เมื่อเดือนกุมภาพันธ์เข้าสู่สถานการณ์ในเดือนพฤษภาคม 2557

ยาขนานเดิมก็เริ่ม “หมดอายุ”

การหมดอายุของกกต.ชุด นายสมชัย ศรีสุทธิยางกูร จึงก่อความสะเทือนใจให้กับ “ครูหยุย” อย่างลึกซึ้ง

เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล