หนุ่มเมืองจันท์

www.facebook.com/boycitychanFC

Clubhouse

 

มีคนบอกว่าตอนนี้สังคมไทยแบ่งชนชั้นกันชัดเจน

กรณี “เราชนะ” ได้แบ่งคนไทยเป็น 2 กลุ่ม

กลุ่มหนึ่ง คือ มีโทรศัพท์มือถือแบบ “สมาร์ตโฟน”

โหลดแอพพ์ไปใช้ได้เลย

อีกกลุ่มหนึ่ง ยังใช้โทรศัพท์แบบปุ่มกดอยู่ หรือไม่มีโทรศัพท์มือถือ

ต้องไปตากแดดเข้าคิวหน้าธนาคารกรุงไทย เพื่อกรอกข้อมูลเข้าโครงการแจกเงิน “เราชนะ”

แบ่งชนชั้นชัดเจนมาก

ในขณะเดียวกัน คนกลุ่ม “สมาร์ตโฟน” ก็ถูกแบ่งแยกเหมือนกันจากแอพพ์ใหม่ที่มาแรงมากในตอนนี้

Clubhouse

แอพพ์นี้มีมาพักใหญ่แล้ว แต่ไม่มีกระแสในเมืองไทย

จนวันหนึ่ง “อีลอน มัสก์” ประกาศว่าจะมาตั้งห้องคุยใน Clubhouse เรื่องการใช้ชีวิตในดาวอังคาร

เท่านั้นล่ะครับ

Clubhouse ก็โด่งดังไปทั่วโลก มีคนไทยจำนวนมากแห่เข้าไปฟัง

และเริ่มมีการชวนเพื่อนให้เข้ามาในแอพพ์นี้ ตั้งห้องคุยกัน

กลยุทธ์ของ Clubhouse น่าสนใจมาก

เพราะตามปกติแอพพ์ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น line facebook twitter ฯลฯ เราแค่โหลดแอพพ์เสร็จก็ใช้ได้เลย

แต่ Clubhouse ไม่ใช่

เขาให้สิทธิ์กับคนที่เข้าได้แล้วชวนเพื่อนได้ 2 คน

และที่สำคัญ เฉพาะคนที่ใช้ “ไอโฟน” เท่านั้น

ใครใช้มือถือระบบ “แอนดรอยด์”…ไม่ได้

แบ่งชนชั้นกันชัดเจน

กลยุทธ์ “ทำให้ยาก” เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของ Clubhouse

ทำให้คนอยากเข้า

มีคนบอกว่า Clubhouse ไม่ฉลาด เพราะทำให้การเติบโตของสมาชิกช้าเกินไป

แต่พอมีคนบอกให้ลองคิดเลขเล่นๆ

จาก 1 เชิญได้ 2 คน

2 ไป 4

4 ไป 8 ฯลฯ

เห็นตัวเลขตอนแรกน้อยๆ แบบนี้

เชื่อไหมครับ รอบที่ 20 จะได้คน 1 ล้านคน

พอถึงรอบที่ 30 ตัวเลขคนที่ได้รับเชิญรอบนี้ คือ 1,000 ล้านคน

มหัศจรรย์ไหมครับ

 

คําถามที่คนส่วนใหญ่สงสัยก็คือ Clubhouse มีดีอะไร

ทำไมคนจึงอยากเข้ากันนักหนา

ระบบของ Clubhouse จะเปิดให้สมาชิกทุกคนมีสิทธิ์เปิดห้องสนทนาขึ้นมา จะชวนใครมาคุยก็ได้

เราเห็นห้องไหนน่าสนใจก็เข้าไปนั่งฟัง

เหมือนการสัมมนาขนาดใหญ่ที่มีหลายๆ ห้องให้เราเลือกเข้าไปฟังได้

Clubhouse ก็แบบนั้นเลย

ถ้าอยากถาม หรืออยากคุยด้วย เขามีปุ่มให้ยกมือ

เจ้าของห้องจะให้พูดหรือไม่ให้ก็ได้

หรือเจ้าของห้องเห็นเพื่อน หรือคนที่มีชื่อเสียงเข้ามาฟัง อยากให้ขึ้นมาคุยด้วย เขาก็ส่งคำเชิญไปหา

ถ้าคนนั้นอยากคุยก็ตอบรับ แต่ถ้าอยากแอบฟังเหมือนเดิมก็ปฏิเสธ

ที่เล่ามาทั้งหมด เราจะได้ยินเฉพาะ “เสียง” นะครับ

ไม่ใช่ zoom ที่เห็นหน้ากัน

คล้ายๆ รายการวิทยุ ที่มีดีเจคุยกับแขกรับเชิญ และเปิดให้คนฟังโทร.เข้ามาได้

และที่สำคัญ เป็นรายการสด

จบแล้วจบเลย

ไม่มีการบันทึกเพื่อให้ฟังย้อนหลัง

นี่คือ สิ่งที่แตกต่างจาก podcast

ตอนที่ผมได้รับคำชวนเข้าไป กระแส Clubhouse เพิ่งเริ่ม

เข้าไปเดินงงๆ ในดง Clubhouse พักใหญ่

เขาทำอะไรกัน

รู้สึกเหมือนตอนที่เดินทางจากเมืองจันท์เข้ามาเรียนธรรมศาสตร์

งงๆ และเขินๆ

วันแรกที่แอบฟังตามห้องต่างๆ ก็เพลินๆ แต่ไม่อิน

แวะไปห้อง “วิธีรับมือกับคนดัง” เล่นๆ อยากรู้ว่าคุยเรื่องอะไร

ห้องนี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมงมาหลายวันหลายคืน

มีคนรับไม้ต่อเพื่อดำเนินรายการหลายคน

ผมแวะเข้าไปนิดนึง บังเอิญเจ้าของห้องรู้จักผม

เขาก็เลยเชิญให้เข้าไปคุยด้วย

คุยแบบงงๆ นิดนึงแล้วรีบขอตัว บอกว่ายังไม่คุ้นเลยครับ

เดินออกจากห้องแบบตัวสั่นๆ

ตกใจ!!!

ผ่านไป 2 วันจึงเริ่มคุ้นขึ้น

สนุกดีครับ

เพราะมีคนดังๆ คนมีความรู้ในเรื่องต่างๆ มาเปิดห้องคุยกัน

ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่มีเนื้อหาสาระทั้งสิ้น

เดินเข้าไปสัก 2-3 ห้อง

“รอยหยัก” ในสมองเพิ่มขึ้นแน่นอน

คนส่วนใหญ่จะชอบ Clubhouse เพราะเหมือนได้เจอคนดัง หรือคนที่อยากคุยด้วยเต็มไปหมด

และเรามีสิทธิ์ยกมือถาม หรือขอคุยด้วยได้

โอกาสแบบนี้หายาก

นั่นคือ ที่มาของกระแส Clubhouse ที่ทำให้คนใช้ “แอนดรอยด์” มองค้อนคนที่ใช้ “ไอโฟน”

แต่เชื่อว่าไม่นาน เขาคงทำระบบให้ผู้ใช้ “แอนดรอยด์” ใช้ได้

 

การให้สิทธิ์สมาชิกทุกคนเปิดห้องคุยได้

ห้องต่างๆ จึงเริ่มคึกคักขึ้นเรื่อยๆ

อาจารย์ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ที่กลายเป็นขวัญใจของคนรุ่นใหม่ เปิดห้องก่อนเลยครับ

คึกคักมาก

ล่าสุดเมื่อ 2 วันก่อน มีคนเข้าไปฟังถึง 6,000 คน

เต็มความจุที่ Clubhouse ให้

แต่เมื่อคนยังมีคนอยากเข้าไปฟัง ก็มีคนเปิดห้องใหม่ถ่ายทอดเสียงจากห้อง อ.ปวิน

เหมือนไปเรียนกวดวิชาที่มีทั้งสอนสด และห้องที่ดูจอ

ห้องใหม่นี้มีคนฟัง 3,600 คน

รวม 2 ห้องเกือบ 10,000 คน

ล่าสุด วันอภิปรายไม่ไว้วางใจวันแรก กลุ่มก้าวหน้าโดย “ธนาธร-ปิยบุตร” เปิดห้องคุยเรื่องการเมือง

แป๊บเดียวคนเต็ม 6,000 คน

ต้องเปิดห้องถ่ายทอดเสียงเพิ่มอีก 1 ห้อง

นี่คือ ช่องทางใหม่ทางการเมืองที่น่าจับตามอง

แต่ท่ามกลางเนื้อหาสาระ ก็มีคนเปิดห้องสนุกๆ ขึ้นมา

ที่ผมชอบที่สุดคือ “ป๋าเต็ด” ยุทธนา บุญอ้อม

เขาเปิดห้อง “รับแก้ปัญหาด้วยวิธีการผิดๆ และไม่รับผิดชอบอะไรทั้งสิ้น”

ให้น้องๆ เข้ามาเล่าปัญหา แล้วทีม “ป๋าเต็ด” จะตอบ

ฮามากครับ

ช่วงหนึ่งมีน้องผู้หญิงเข้ามาเล่าปัญหาว่าพี่ชายชอบ “อิ๊งค์ วรันธร” ศิลปินใหม่ที่มาแรงมาก

ชอบแซวน้องต่างๆ นานา เปรียบเทียบกับ “อิ๊งค์” ตลอด

เธอถามว่าจะทำอย่างไรกับ “อิ๊งค์” ดี

ถามแบบขำ-ขำ

ผู้ชายทั้งหมดของทีม “ป๋าเต็ด” ตอบเหมือนกันว่าเขาอยู่ฝั่งพี่ชายน้อง

แต่ที่ขำกว่าก็คือ “อิ๊งค์ วรันธร” เข้ามาจังหวะนั้นพอดี

“ป๋าเต็ด” ก็เลยเชิญเธอขึ้นมาคุยด้วย

ครับ เป็นเรื่องราวสนุกๆ ใน Clubhouse ซึ่งกลายเป็นกระแสในวันนี้

แต่จะเป็นแค่ “แฟชั่น” หรือเป็น “ของจริง” ที่ยาวนานแบบ line หรือ facebook หรือเปล่า

คงต้องให้ “เวลา” เป็นกรรมการตัดสิน