ศัลยกรรมความงามช่วงโควิด-19 / คลุกวงใน พิศณุ นิลกลัด

พิศณุ นิลกลัด

คลุกวงใน

พิศณุ นิลกลัด

Facebook: @PITSANUOFFICIAL

 

ศัลยกรรมความงามช่วงโควิด-19

 

ช่วงโควิด-19 อาละวาด หลายคนต้อง Work From Home หรือทำงานอยู่กับบ้าน ปรากฏว่าหลายประเทศมีจำนวนคนทำศัลยกรรมความงามมากขึ้น ทั้งแบบผ่าตัดและไม่ผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นดูดไขมัน หรือที่เรียกว่า liposuction, การเสริมหน้าอก หรือฉีดโบท็อกซ์

เหตุผลที่สถิติทำศัลยกรรมเพิ่มขึ้นในช่วงที่คน Work From Home เพราะเป็นโอกาสดีที่ไม่ต้องลางานเพื่อพักฟื้นหลังผ่าตัดทำศัลยกรรม ผ่าตัดเสร็จ กลับบ้าน ทำงานต่อ (ที่บ้าน) ได้เลย

ส่วนการทำโบท็อกซ์เพิ่มขึ้นก็เพราะเวลา Work From Home ต้องมีการประชุมงานผ่านหน้าจอ หรือ Video Conference เมื่อเห็นหน้าตัวเองชัดๆ แบบใกล้ๆ ก็ขาดความมั่นใจ จึงไปฉีดโบท็อกซ์เพื่อให้หน้าตึง

เวลาประชุมผ่านหน้าจอ เพื่อนร่วมงานจะได้เห็นหน้าไร้รอยเหี่ยวย่น

 

ที่ประเทศอังกฤษ การทำศัลยกรรมเพิ่มขึ้นถึง 500% ในช่วง lockdown เพราะคน Work From Home

มีตั้งแต่การดูดไขมัน หรือ liposuction, ผ่าตัดเสริมหน้าอก, ลดขนาดหน้าอก

คลินิก Pall Mall Cosmetics ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ บอกว่าในปี 2020 มีการผ่าตัดทำศัลยกรรมความงามถึง 10,000 การผ่าตัด

การผ่าตัดที่นิยมสูงสุดคือการผ่าตัดลดหน้าอก มีสถิติเพิ่มขึ้น 520%

รองลงมาคือการผ่าตัดเสริมหน้าอก จำนวนเพิ่มขึ้น 110%

 

สําหรับผู้ชาย การผ่าตัดลดขนาดหน้าอกก็กำลังเป็นที่นิยมเช่นกัน

ผู้ชายที่มีหน้าอกเพราะไขมันเยอะ หรือที่เรียกว่า Man Boobs นั้น ทำให้ขาดความมั่นใจเวลาต้องถอดเสื้อ หรือใส่เสื้อพอดีตัว ทำให้เห็นหน้าอกใหญ่ ดูเหมือนผู้หญิง

พบว่าในอเมริกา ผู้ชาย 35% มีปัญหาการมี Man Boobs ซึ่งมีศัพท์ทางการแพทย์ว่า ไกเนโคมาสเทีย (Gynecomastia) หรือภาวะเต้านมโตในผู้ชาย พูดภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นผู้ชายนมแหลม

สาเหตุส่วนใหญ่มาจากไขมันหรือเนื้อเยื่อเต้านมเติบโตผิดปกติ ซึ่งไม่มีอันตราย แต่ทำให้ผู้ชายเกิดความไม่มั่นใจเวลาถอดเสื้อ

ดเวนย์ จอห์สัน (ก่อน & หลัง ผ่าตัดลดหน้าอก)

ดเวย์น จอห์นสัน (Dwayne Johnson) หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Rock อดีตนักมวยปล้ำ WWE วัย 48 ปี ที่ผันตัวมาเป็นนักแสดงฮอลลีวู้ดโด่งดังไปทั่วโลก ยอมรับว่าสมัยที่เป็นนักมวยปล้ำ WWE เขาเข้ารับการผ่าตัดเอา Man Boobs ออก เพราะไม่ว่าจะออกกำลังขนาดไหน คุมอาหารอย่างเคร่งครัดเพียงใด เขาก็ยังมีเนื้อหน้าอกเยอะเหมือนผู้หญิง ทำให้ขาดความมั่นใจ จึงตัดสินใจผ่าตัดลดขนาดหน้าอก

ซิโมน่า ฮาเล็ป (ก่อน & หลัง ผ่าตัดลดหน้าอก)

ซิโมน่า ฮาเล็ป (Simona Halep) นักเทนนิสหญิง วัย 29 ปี ชาวโรมาเนีย อดีตหมายเลข 1 ของโลก ปัจจุบันเป็นหมายเลข 2 ของโลก มองว่าหน้าอกใหญ่ไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับเธอเลย ไม่ว่าจะในการใช้ชีวิตประจำวัน หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเป็นนักกีฬาเทนนิส เพราะเมื่อหน้าอกใหญ่ก็ต้องแบกรับน้ำหนักเพิ่ม ทำให้การเคลื่อนไหวช้าลง และรู้สึกอึดอัด

ดังนั้น หลังจากได้แชมป์ Junior French Open 2008 ฮาเล็ปในวัย 17 ปี ก็เข้ารับการทำศัลยกรรมลดขนาดหน้าอกจากคัพ 34DD ลงมาเป็น 34C ในปี 2009

ซึ่งขนาดหน้าอกคัพ 34C ก็ถือว่ายังใหญ่อยู่สำหรับมาตรฐานหญิงไทย ที่อยู่ประมาณคัพ B

การได้แชมป์ French Open 2018 และ Wimbledon 2019 ก็คือรางวัลที่เธอได้รับจากการยอมเสียสละบางสิ่งเพื่อบรรลุความฝันของตัวเอง

 

จากตัวเลขของ International Society of Aesthetic Plastic Surgery (ISAPS) หรือสมาคมศัลยแพทย์ความงามนานาชาติ ซึ่งก่อตั้งโดยองค์การสหประชาชาติ รายงานว่าในปี 2018 มีการทำศัลยกรรมแบบผ่าตัดทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 10,607,227 ครั้ง

โดยศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมสูงสุด

อันดับ 1 เสริมหน้าอก 1,862,506 ครั้ง

อันดับ 2 การดูดไขมัน หรือ liposuction 1,732,620 ครั้ง

อันดับ 3 การทำตาสองชั้น 1,099,960 ครั้ง

 

สําหรับประเทศไทย ในปี 2018 มีการทำศัลยกรรมความงามแบบผ่าตัดมากเป็นอันดับ 10 ของโลก รวมทั้งสิ้น 105,105 ครั้ง โดยการทำศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 คือการทำตาสองชั้น อันดับ 2 เสริมหน้าอก และอันดับ 3 ทำจมูก

เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีอัตราคนเคยทำศัลยกรรมความงามสูงที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในประเทศ เฉลี่ยแล้วคนเกาหลีใต้ทุกๆ 1,000 คน จะมี 20 คนที่ผ่านการทำศัลยกรรม

จากการสำรวจของ Gallup Poll พบว่า จำนวนถึง 1 ใน 3 ของผู้หญิงเกาหลีใต้ ที่อายุระหว่าง 19-29 ปี บอกว่าเคยเข้ารับการผ่าตัดทำศัลยกรรม

นอกจากนี้ เกาหลีใต้ยังมีสัดส่วนหมอศัลยกรรมมากที่สุดในโลก อยู่ที่ 2,330 คน เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในประเทศ 51 ล้านคน

สำหรับประเทศไทย มีจำนวนหมอศัลยกรรมความงาม 375 คน

การทำศัลยกรรมความงามเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ได้เดือดร้อนใคร หากทำแล้วรู้สึกว่าตัวเองดูดีขึ้น ทำให้มีความสุข มีความมั่นใจมากกว่าเดิม คนอื่นก็ไม่ควรไปวิจารณ์