Lucid Dreams

ศิลปะในโลกแห่งความฝัน

ที่มอบความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่กัน

ศิลปะ นอกจากจะทำหน้าที่ในการมอบความสุข ความเพลิดเพลินเจริญใจ หรือมอบแรงบันดาลใจและความรู้ให้แก่ผู้คนแล้ว

บางครั้งศิลปะยังสามารถให้ประโยชน์กับสังคมอย่างเป็นรูปธรรมได้เช่นกัน

เพราะในบางที ศิลปะก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นจิตสำนึกและแรงดลใจให้คนในสังคมหันมามอบความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่กันได้

ดังเช่นผลงานศิลปะในนิทรรศการที่เรากำลังจะกล่าวถึงในตอนนี้อย่าง Lucid Dreams Charity Art Exhibition

นิทรรศการศิลปะเพื่อสาธารณกุศลที่จัดขึ้นเพื่อระดมทุนสนับสนุนแก่องค์กรการกุศลในรูปแบบต่างๆ หลากหลายองค์กร โดยรวบรวมผลงานของศิลปินมากหน้าหลายตา

อย่าง ไผทวัฒน์ จ่างตระกูล, ไพโรจน์ พิเชฐเมธากุล, ตรีเทพ สิลาไกรลาส, กิตติพงษ์ คำสาตร์ (โก๋เอ็ม) และ ปกฉัตร วรทรัพย์

ศิลปินทั้งห้าคนนี้ ต่างก็ทำงานกับองค์กรการกุศลและสนใจในประเด็นของปัญหาทางสังคมมาอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ด้วยสำหรับพวกเขา “ศิลปะคือชีวิต” และทุกชีวิตต้องการความเมตตาและความเข้าใจ การสร้างสรรค์ผลงานเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้อื่นและสังคม ถือเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจและจุดมุ่งหมายที่สำคัญของศิลปินเหล่านี้

ผลงานทั้งหมดที่จัดแสดงในนิทรรศการนี้เกิดจากความร่วมมือกัน และการเปิดกว้างในการสร้างสรรค์และการทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน

คําว่า “Lucid Dreams” นั้นหมายถึง ความฝันที่ผู้ฝันรู้ว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ คนที่กำลังฝันแบบลูซิด นอกจากจะรับรู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในความฝันแล้ว ยังสามารถมีส่วนร่วมจัดการ สร้างสรรค์และเนรมิตสภาพแวดล้อมและเรื่องราวในความฝันของตัวเองได้อีกด้วย

จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราสามารถสร้างความฝันของเราให้เป็นจริงได้อย่างเปิดกว้างจากจินตนาการอย่างไม่สิ้นสุด โดยไม่มีข้อกำหนดกฎเกณฑ์ หากในแต่ละวันเราต้องตื่นเพื่อมาเผชิญหน้ากับความจริงและความไม่แน่นอนของชีวิตที่ไม่เปิดโอกาสหรือทางเลือกให้เรามากนัก หลายครั้งที่เรารู้สึกไม่อยากตื่นขึ้นมาจากความฝันที่อิสระ สวยงาม และทิ้งเรื่องแย่ๆ ไว้ข้างหลัง

ในนิทรรศการครั้งนี้ ศิลปินทั้งห้าได้สร้างโลกที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์และความสุข โลกที่เด็กได้วิ่งเล่น สัตว์ทั้งหลายมีคนรักและดูแล ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยสีสันสดใส ในความฝันลูซิด ที่ทุกคนสามารถสร้างสรรค์ กำกับ และกำหนดเรื่องราวในชีวิตของตัวเองได้ ในพื้นที่แห่งความหวัง และช่วงเวลาแห่งจินตนาการความคิดฝัน ที่เราสามารถจะเป็นหรือทำอะไรก็ได้ ด้วยผลงานของศิลปินทั้งห้า และภาพวาดอันบริสุทธิ์ของเด็กๆ กับงานศิลปะจัดวางรูปคนและสัตว์ต่างๆ

นิ่ม นิยมศิลป์ ภัณฑารักษ์ของนิทรรศการ กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโครงการศิลปะเพื่อการกุศลครั้งนี้ว่า

“นิทรรศการครั้งนี้เริ่มจากการที่พวกเราอยากทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับสังคมและการกุศล และศิลปินที่เราเลือกมาก็ทำงานในเชิงสังคมร่วมกับองค์กรการกุศลต่างๆ อยู่แล้ว อย่างไพโรจน์ ก็ทำงานร่วมกับเครือข่ายจิตอาสาบ้านชีวาศิลป์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ทำกิจกรรมศิลปะเพื่อเยียวยาเด็กที่ป่วยโรคมะเร็ง หรือไผทวัฒน์เองก็ทำงานร่วมกับห้องศิลปะ ณ กิตติคุณ ซึ่งเป็นชุมชนสำหรับบุคคลที่มีความต้องการพิเศษในกลุ่มอาการต่างๆ ทั้งดาวน์ซินโดรม ออทิสติก สมองพิการ และอาการอื่นๆ หรืออย่างกิตติพงษ์, ตรีเทพ และปกฉัตร ก็ทำงานช่วยเหลือสัตว์ป่วยอนาถา หมาและแมวจรจัด ด้อยโอกาสอยู่แล้ว เราเลยจัดเป็นนิทรรศการศิลปะที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการสร้างงานชุมชนทางศิลปะเพื่อการกุศลขึ้นมา”

“ที่ใช้ชื่อนิทรรศการว่า Lucid Dreams ก็เพราะเราชอบความหมายของคำนี้ คือความฝันที่เรารู้ตัวว่าฝัน และสามารถควบคุมความฝันได้ เราอยากสร้างพื้นที่ในนิทรรศการนี้ให้เป็นพื้นที่แห่งความฝัน พื้นที่แห่งความสุข เรามีความรู้สึกว่า คนทุกคน หรือแม้แต่สัตว์ทุกตัวนั้นมีโอกาสไม่เท่าเทียมกัน แต่ในความฝัน ทุกคนสามารถฝันได้อย่างมากมาย ใหญ่โต โดยไม่มีข้อจำกัด”

“เราอยากให้พื้นที่แห่งนี้เป็นที่ที่ทุกคนสามารถฝันและมีความสุขร่วมกันได้ เพราะพอเราพูดถึงการกุศล เราไม่อยากนำเสนอภาพจำแบบเดิมๆ ที่มักจะเป็นภาพของความเศร้า เราอยากให้เป็นเรื่องของความสุขและความฝันมากกว่า”

ภัณฑารักษ์ของงานยังกล่าวถึงรูปแบบการจัดแสดงผลงานในนิทรรศการครั้งนี้ว่า

“งานในนิทรรศการครั้งนี้เราแบ่งเป็นสองภาค คือภาคของเด็ก และภาคของสัตว์ อย่างภาคของเด็ก เราก็คัดเลือกศิลปินที่ทำงานในเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กอย่างไผทวัฒน์ที่ทำงานวาดภาพและลายเส้นที่มีความเป็นเด็กอยู่ เหมือนเขาย้อนเวลากลับไปยังสมัยเด็กที่เขาชอบวาดรูปเล่น หรือไพโรจน์ที่เชิญให้เด็กๆ ในบ้านชีวาศิลป์วาดรูปความฝันว่าพวกเขาอยากเป็นอะไร แล้วไพโรจน์ก็ค่อยมาวาดรูปหน้าเด็กเหล่านี้อีกที เรารู้สึกว่ามีความฝันของเด็กๆ อยู่ในงานของศิลปินสองคนนี้”

“ส่วนอีกภาคหนึ่งเป็นภาคของสัตว์ต่างๆ อย่างน้องหมาน้องแมวที่โดนทิ้งขว้าง อย่างงานของตรีเทพที่ทำเรื่องราวนอกโลก ในจักรวาล อวกาศ เป็นจักรวาลของหมา-แมวและสัตว์ที่ถูกทอดทิ้ง ไม่มีเจ้าของ เราเลยสร้างให้ห้องเขาเป็นเหมือนห้วงอวกาศ มีดวงดาวระยิบระยับ ส่วนกิตติพงษ์ที่เป็นสายสตรีตอาร์ต กับปกฉัตรที่เป็นสายถ่ายภาพ สองคนนี้ทำงานร่วมกัน โดยปกฉัตรก็ไปถ่ายภาพหมา-แมวและสัตว์จรจัดที่ “บ้านไร่ลุงเอ็ม” สถานที่ที่กิตติพงษ์รับเลี้ยงดูสัตว์เหล่านี้อยู่ ส่วนกิตติพงษ์ก็ทำงานกราฟฟิตี้ที่นำเสนอความวุ่นวายและความเจ็บปวดของสัตว์ที่อยู่ในสถานรับเลี้ยงดูของเขา แต่การนำเสนอก็ไม่ได้เน้นความหดหู่โหดร้าย แต่นำเสนอผ่านความสวยงามของศิลปะของพวกเขา”

“เราอยากให้โครงการแบบนี้เป็นโครงการที่ทำต่อเนื่อง ไม่อยากให้ทำแค่ครั้งเดียวแล้วหายไป อันที่จริงสิ่งที่เราทำก็เป็นสิ่งที่ศิลปินเหล่านี้ทำกันอยู่แล้ว เราแค่หยิบมาเน้นย้ำ เพื่อให้กระจายไปถึงคนในวงกว้าง ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจัดงานในลักษณะนี้กันทุกๆ ปี”

ภัณฑารักษ์ของนิทรรศการกล่าวทิ้งท้าย

นิทรรศการ Lucid Dreams Charity Art Exhibition จัดแสดงที่หอศิลป์ 333Anywhere โครงการ Warehouse 30 ซอยเจริญกรุง 30 (ตรอกกัปตันบุช) บางรัก กรุงเทพฯ (เข้าชมฟรี)

อนึ่ง รายได้บางส่วนจากยอดขายผลงานศิลปะในนิทรรศการนี้ จะมอบให้องค์กรการกุศลต่างๆ อย่างห้องศิลปะ ณ กิตติคุณ, Art Story, มูลนิธิออทิสติกไทย, เครือข่ายจิตอาสาบ้านชีวาศิลป์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, กิจกรรมศิลปะเพื่อเยียวยาเด็กป่วยมะเร็ง ณ หออภิบาลกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลศรีนครินทร์, เพจหมามะเร็ง, บ้านไร่ลุงเอ็ม

ในช่วงเวลาแสดงนิทรรศการ ทางหอศิลป์จะมีการจัดงาน charities day และกิจกรรมต่างๆ โดยจะมีการแจ้งกำหนดการล่วงหน้าสำหรับทุกคนที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Page Facebook @333anywhere โทร. 09-2682-0990 หรืออีเมล [email protected]

ขอบคุณภาพและข้อมูลจากคุณนิ่ม นิยมศิลป์, 333Anywhere