ปรุงในครัวทัวร์นอกบ้าน : คืนสู่ล็อกดาวน์ / แม่หวาน ละมุนมัม

คืนสู่ล็อกดาวน์

–สถานการณ์ฝั่งโน้นเป็นไงบ้าง ทางนี้อยู่กันแบบหวาดผวามากเลย ยอดผู้ติดเชื้อมาเรื่อยๆ

ญาติพี่น้องฝั่งเมืองไทยทักถามกันมาบ่อย เพื่อนบางคนเมื่อเห็นรูปในเฟซบุ๊กก็ถามว่า

–ทำไมไม่ใส่หน้ากากล่ะ? ใช้ชีวิตกันยังไง? ทางนี้กลุ้มใจมาก ไม่รู้จะให้ลูกไปโรงเรียนยังไง?

แม่หวานเข้าใจความรู้สึกค่ะ เพราะก็มีลูกสาวเช่นกัน และก็กำลังอยู่ในวัยเรียน ช่วงโควิด-19 ระบาดรอบแรกก็แอบผวาให้เธอหยุดเรียนยาวไปเลย วันๆ ขลุกตัวอยู่แต่ในบ้าน วาดภาพบ้าง อ่านหนังสือบ้าง

แต่ก็ยังโชคดีที่ได้รับอนุญาตจากทางรัฐให้ออกกำลังกายและออกไปซื้อของในเขตได้ไม่เกินวันละครั้ง ครั้งละไม่เกินหนึ่งชั่วโมง ข้อห้ามรวมตัวกันเกินสองคนก็ไม่ได้กระทบแม่-ลูกแต่อย่างใด เราไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องแยกจากกัน

การไปเดินเล่นที่สนามหญ้าหน้าอาคารเพื่อสูดอากาศภายนอก และเปิดตาดูสิ่งใหม่ๆ ที่ไม่จำเจคือช่วงเวลาเบิกบานใจที่สุดของสองแม่-ลูก

หลังจากเวลาผ่านไปไม่กี่เดือน ประชาชนเมืองเพิร์ธต่างตีฆ้องร้องป่าวชื่นชมมุขมนตรีนายมาร์ก แม็กโกแวน แห่งรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียกันยกใหญ่ เพราะเมืองเพิร์ธมีการจัดการที่เด็ดขาดรวดเร็ว รวมทั้งผู้อยู่อาศัยก็ให้ความร่วมมือกับรัฐอย่างดีระยะเวลากว่า 10 เดือน หน้ากากไม่จำเป็น ความหวาดระแวงไม่มี ระยะห่างไม่ต้อง เราเริ่มกอดทักทายใช้ชีวิตปกติอีกครั้ง เราเพียงแค่ไม่สามารถเดินทางข้ามรัฐหรือข้ามประเทศได้เท่านั้น

แน่นอน เมืองเพิร์ธจึงเป็นรัฐที่น่าอิจฉาจากรัฐอื่นที่เชื้อโรคเข้ามาระบาดซ้ำระลอกสองระลอกสาม

อายากะมีความสุขกับการปิดเทอมใหญ่ด้วยการนัดเพื่อนออกไปเที่ยว บางครั้งก็นอนค้างบ้านเพื่อนสนิทบ้างในช่วงเดือนครึ่งที่แม่-ลูกไม่สามารถกลับเมืองไทยได้

แม่หวานเองนอกจากศึกษาธรรม ลดละกิเลส สังเกตกายใจไม่ให้เกิดความขุ่นข้องหมองมัวอันเป็นอกุศล และก็ไม่ยอมให้ความคิดอกุศลทั้งหลายกลายมาเป็นอารมณ์จึงฝึกถอยห่างออกมาเป็นบุคคลที่สามเพื่อมองดูความคิด ความเคลื่อนไหวของจิต

การฝึกถอยออกมาทำให้แม่หวานเลิกยึดติดกับอัตตา ตัวตน ทำให้ผ่อนคลาย และสามารถละลายก้อนแห่งความคิด (ความทุกข์) ออกไปได้บ้างแล้วก็พยายามเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตด้วยการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ จัดบ้านใหม่ ทำอาหารเมนูใหม่โดยเฉพาะเมนูขนมเค้กที่แม่หวานไม่ถนัดเลยได้ช่วยให้ชีวิตประจำวันมีสีสันมากขึ้น

แต่ที่สุดเหวี่ยงมากสำหรับแม่หวานในหน้าร้อนนี้คือการไปว่ายน้ำในทะเลที่ Cottesloe Beach

–หนูไปกระโดดโต้คลื่นเล่นกับเพื่อนมาสนุกมากค่ะ อยากชวนคุณแม่ไปด้วยกัน

ปีที่แล้วอายากะกลับมาเล่าให้แม่หวานฟังอย่างตื่นเต้น เพื่อนแม่หวานชาวอาร์เจนตินาคุณซาบิน่าก็เคยแนะนำแม่หวานว่า

–หน้าร้อนต้องไปลงทะเลนะคะ เย็นสบายมาก

แต่แม่หวานก็ยังไม่เคยตัดใจลงน้ำทะเลที่คลื่นแรงและน้ำเย็นเฉียบเช่นนั้นได้สักที ถึงแม้ว่าจะเห็นคนไปว่ายน้ำกันอย่างรื่นเริงดูสบายน่าว่ายก็ตาม แม่หวานยังคงได้แค่เดินเล่นสังเกตการณ์ไปเรื่อยๆ

–ไม่ต้องกลัวนะคะ ไปกับหนู

อายากะที่เคยเป็นลูกสาวตัวน้อยให้แม่หวานดูแลมาตลอด มาวันนี้เธอพูดคำพูดที่แม่หวานเคยพูดกับเธอ เช่นนั้นแล้วจะรออะไร (ฮา)

–หนูเคยกลัวนะคะ พอคลื่นมานี่หนูก็จมหลายครั้ง เพื่อนๆ ต้องหิ้วปีกหนูขึ้นมา

อายากะเล่าให้แม่หวานฟังพร้อมถอดเสื้อยืดคอกลมออก

–คุณแม่รีบถอดเสื้อสิคะ ไปกันค่ะ

อายากะเร่งแม่หวาน ด้วยเธอเห็นแม่หวานปูผ้าลงบนหาดทรายสีขาวแล้วลงไปนั่งนิ่งมองคลื่นทะเลอย่างสบายใจ

–ใจเย็นๆ ค่ะ ขอคุณแม่เตรียมใจนิดนึงค่ะ

แม่หวานเริ่มสองจิตสองใจเอาไงดี?

–คุณแม่คะ หนูดูแลได้ค่ะ ไปกัน

แม่หวานมองหน้าอายากะเห็นสายตาที่แน่วแน่ของเธอว่า “หนูดูแลได้” ก็ลงมือถอดเสื้อคลุม เอาไงเอากัน เราจะปอดแหกให้ลูกเห็นได้อย่างไร? อายากะจูงมือแม่หวานลงทะเลก่อนเขย่งเท้ากระโดดกลับ

–อุ๊ย น้ำเย็นนะคะคุณแม่

–กลับกันเถอะลูก

แม่หวานปอดแหกจูงมืออายากะกลับชายหาด แต่เธอยิ้ม ปล่อยมือแม่หวานก่อนก้าวขาลงไปใหม่พร้อมเอาน้ำทะเลมาลูบตัวแล้วเธอก็หย่อนตัวลง

–มาค่ะคุณแม่ เดี๋ยวอายเด็กนะคะ

–คุณแม่คะ ดูคุณป้านั่นสิเดินลงเฉยเลย คุณแม่สาวกว่านะคะจะกลัวอะไร

Cottesloe Beach

อายากะที่ไปลอยคออยู่ในน้ำทะเลเรียบร้อยเร่งรัดแม่หวานที่ยังยืนแช่น้ำอยู่ครึ่งน่องให้รีบลงไปลึกกว่านี้เพื่อว่ายน้ำกับเธอ แม่หวานหันรีหันขวาง เออ… จริงสิ คนอื่นๆ เขาก็เดินลงไปว่ายน้ำกันง่ายดายไม่เห็นน่ากลัวเลย พอดีกับจังหวะที่อายากะเดินมาจูงมือแม่หวานลงไป

–คลื่นมาละ กระโดดค่ะคุณแม่ กระโดด

คลื่นลูกใหญ่ที่ซัดเข้ามากระทบลำตัวเมื่อเรากระโดดลอยเหนือคลื่นนั้นได้ก็รู้สึกสนุก และแอบสะใจ แอบดีใจที่คลื่นลูกนั้นทำอะไรเราไม่ได้ (ฮา) แม่หวานเกาะไหล่อายากะตีขาลอยตัวไปเรื่อยๆ จนชิน และเริ่มทราบว่าน้ำทะเลตรงเวิ้งริมโขดหินที่ทอดยาวเหมือนสะพานท่าเรือ (Jetty) นี้คลื่นค่อนข้างสงบ ไม่แรงเท่าที่ห่างออกไป ดังนั้น ผู้คนทั้งเด็กเล็กและคนชราจึงมาว่ายน้ำเล่นกันอย่างสนุกสนาน พื้นทรายด้านล่างก็เป็นพื้นราบไม่ได้ลึกชันเหมือนหาดที่ฮาวายที่ทำแม่หวานเกือบจมมาแล้ว น้ำก็อุ่นสบาย

แม่หวานจึงเริ่มว่ายน้ำขยับตัวไปไกลขึ้นคุณป้าและเด็กๆ ที่ว่ายอยู่ข้างๆ ส่งยิ้มให้กันอย่างเป็นมิตร

แสงแดดยามอาทิตย์ยอแสงสาดส่องมากระทบผิวน้ำเป็นแสงระยิบระยับดั่งลอยตัวอยู่บนเกล็ดเพชรกว้างใหญ่ไพศาลที่นุ่มนิ่มเย็นสบาย

–คุณแม่กลับเถอะ หนูหิวละ

เวลาแห่งความรื่นรมย์ชื่นชมกับธรรมชาติอย่างดื่มด่ำผ่านไปนานแค่ไหนไม่ทราบได้ มารู้สึกตัวก็เมื่ออายากะเข้ามาสัมผัสตัวแม่หวาน

–คุณแม่ดูท้องฟ้าสิคะ

อายากะเชิญชวนให้แม่หวานหันกลับไปดูขอบท้องฟ้าด้านหลังตรงฝั่งทะเลที่พระอาทิตย์ลาลับผิวน้ำไปแล้ว เหลือแต่แสงสนธยาหรือแสงทไวไลต์ (Twilight) ที่ปรากฏเป็นแสงสีเหลือง ส้ม และแดง สีสันฉูดฉาดบาดตาเหมือนจิตรกรฝีมือเยี่ยมนำพู่กันมาวาดปาดลงบนบริเวณขอบฟ้าอย่างสนุกสนาน

–แม่หวานเริ่มชอบแล้วค่ะ เหมือนลูกบอกมาค่ะว่าว่ายน้ำที่ทะเลสนุกกว่าที่สระ พรุ่งนี้มาอีกนะคะ

วันรุ่งขึ้นระหว่างขับรถไปรับอายากะที่ไปปิกนิกกับเพื่อน แม่หวานได้ยินเสียงจากทางวิทยุว่า “มีคนติดเชื้อ เราจะมีการล็อกดาวน์ 5 วัน โรงเรียน สถานที่ราชการ ผับจะปิดให้บริการ ร้านอาหารได้แค่สั่งกลับบ้าน” คงไม่เกี่ยวกับเรา แต่น่าจะเกี่ยวกับเรา แม่หวานคิดวนเวียนไปมาจนถึงจุดหมาย อายากะโอบกอดร่ำลาเพื่อนแล้ววิ่งเข้ามาในรถ ระหว่างที่ยังนั่งไม่เรียบร้อยดีเธอก็พูดขึ้นว่า

–รัฐสั่งล็อกดาวน์ค่ะ มีคนติดเชื้อ “โควิด-19 สายพันธุ์อังกฤษกลายพันธุ์”

–หนูรู้ได้ไงคะ?

–ก็กี้นี้เพื่อนนั่งดูโทรศัพท์แล้วข่าวมันก็เด้งขึ้นมา ทุกคนตกใจมากค่ะ แม่เพื่อนทุกคนตอนนี้ไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกันค่ะ

ตกลงเมืองเพิร์ธก็ไม่รอดใช่ไหม? 10 เดือนกว่าที่ได้ใช้ชีวิตปกติสุข ต้องกลับมานิวนอร์มอลอีกครั้งแล้วสิ!