ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 12 - 18 กุมภาพันธ์ 2564 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
ว้ากซีน
การตัดสินใจไม่เข้าร่วมกับโครงการ covax ของรัฐบาลไทย ทำให้เกิดคำถามว่ายุทธศาสตร์การจัดหาวัคซีนของไทยเดินมาถูกทางหรือไม่
covax นั้นมีองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เป็นแกนนำ มีเป้าหมายเพื่อให้ทุกประเทศเข้าถึงวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19
ประเทศใหญ่ๆ ลงขันเพื่อซื้อวัคซีนแจกประเทศยากจน
ส่วนประเทศที่พอมีเงินก็ลงขันซื้อได้ แต่ต้องจ่ายเงินค่าวัคซีน
ในประเทศอาเซียนทั้งหมดเข้าร่วมขบวนรถไฟ covax อย่างพร้อมเพรียงกัน
ประเทศที่ยากจนอย่างลาว กัมพูชา พม่า จะได้วัคซีนฟรี
แต่ประเทศที่มีเงินอย่างสิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย บรูไน ฯลฯ ต้องจ่ายเงิน
มีเพียงไทยประเทศเดียวที่ไม่เข้าร่วม
ทั้งที่ covax คือช่องทางหนึ่งในการได้มาซึ่ง “วัคซีน”
ไม่ได้หมายความว่าประเทศที่มีเงินทุกประเทศจะรอวัคซีนจาก covax ทางเดียว
ทุกประเทศก็ติดต่อซื้อวัคซีนจากบริษัทต่างๆ
covax นั้นเหมือนการซื้อประกันของประเทศที่มีเงิน
ถ้าวัคซีนที่หาได้ไม่พอก็ใช้
แต่หากหาวัคซีนตัวที่พอใจได้ก็ไม่ต้องใช้
จะบริจาคให้ประเทศต่างๆ ก็ได้
แต่ไทยกลับเลือกแนวทาง “ปิดประตู”
สถานการณ์วันนี้ ทุกประเทศกำลังวิ่งแข่งไล่ล่า “วัคซีน”
ใครฉีดครบก่อน จะได้เปรียบทางการแข่งขันทันที
ประเทศไทยที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลัก
ตอนนี้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวกำลังย่ำแย่อย่างหนัก
ความหวังของเขาอยู่ที่ “วัคซีน”
แต่เจอคำพูดของนายกฯ ที่บอกว่า “ไม่ยอมให้คนไทยเป็นหนูทดลอง”
หรือคำพูดของนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน
“วัคซีนจะมาช้าหรือเร็ว แทบไม่มีผลกับคนไทย เพราะเรามีหน้ากากอนามัยกับหน้ากากผ้าในการป้องกัน ไม่ต้องเจ็บจากการฉีดวัคซีน”
ชัดเจนว่าไม่ให้ความสำคัญกับการเร่งหาวัคซีน
อุณหภูมิอารมณ์ของคนในแวดวงธุรกิจท่องเที่ยวถึงจุดเดือดอย่างพร้อมเพรียงกัน
เหมือนคนที่ลอยคอในน้ำนานเป็นปี กำลังหมดลมหายใจ
มองเห็นฝั่งแล้ว แต่โดนรัฐบาลกดหัวซ้ำ แล้วถีบให้ออกจากฝั่งอีก
บางคนถึงขั้นปล่อยสำนวนบู๊ลิ้มออกมา
“บิดาท่านไร้ซึ่งชีพจร”
มีคำวิจารณ์หนึ่งที่บอกว่า พล.อ.ประยุทธ์และนายแพทย์ทวีศิลป์ เป็นข้าราชการประจำมาตลอดชีวิต
จะทำงานหนักหรือเบา สิ้นเดือนก็ได้รับเงินเดือน
ไม่เคยรู้ร้อนรู้หนาวเหมือนพ่อค้าแม่ค้าที่ทำมาหากิน
จนถึงวันนี้ คนทำงานแต่ละบริษัทโดนลดเงินเดือน ตัดค่าใช้จ่าย
แต่ข้าราชการยังได้รับเงินเดือนเหมือนเดิม
ไม่สะเทือนเลย
นักธุรกิจบางคนเสนอว่า ถ้าจะให้รัฐบาลและข้าราชการรู้ร้อนรู้หนาวกับวิกฤตโควิด-19
ต้องลองลดเงินเดือนรัฐบาลและข้าราชการ
จะได้รู้ร้อนรู้หนาวเหมือนประชาชนบ้าง