2503 สงครามลับ สงครามลาว (16) บทบาทของพารู / บทความพิเศษ พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

บทความพิเศษ

พล.อ.บัญชร ชวาลศิลป์

 

2503 สงครามลับ

สงครามลาว (16)

 

บทบาทของพารู

ต้นปี พ.ศ.2504 ที่กองบัญชาการพารู ค่ายนเรศวร อำเภอหัวหิน หนุ่มชาวม้งชั้นหัวกะทิเดินทางจากทุ่งไหหินทางอากาศ เข้าอบรมในหลักสูตรผู้นำหน่วยระดับต่างๆ รวมทั้งยุทธวิธีการรบที่สูงขึ้นกว่าการรบแบบกองโจรพื้นฐาน

พารูในลาวเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 100 คน ถูกแบ่งออกเป็นทีม ทีมละ 5 คน ดำเนินการฝึกพวกม้งในพื้นที่ต่างๆ ไม่เฉพาะทุ่งไหหิน มีซีไอเออเมริกันราว 10 กว่าคนคอยกำกับดูแลอยู่พอเป็นพิธี พวกเขาทำงานอย่างเร่าร้อนจริงจัง จัดตั้งสถานที่ฝึก อบรมหลักสูตร ส่งทีมลาดตระเวนออกหาข่าวในพื้นที่ คอยให้คำแนะนำวังเปาและช่วยสรรหาผู้นำหน่วยระดับรองลงไป

คลังแสงของซีไอเอที่โอกินาวา จัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์และเครื่องกระสุนสำหรับใช้ในการฝึกและปฏิบัติการให้อย่างพร้อมพรั่ง

สายการบินพลเรือนที่ได้สัมปทานคือ “แอร์อเมริกา” และ “เธิร์ด แอนด์ ซัน” ลำเลียงอาวุธมาทิ้งร่มลงยังลานดินที่ถูกปรับแต่งเป็นจุดทิ้งร่ม

นอกจากนั้น สายการบินพลเรือนทั้งสองยังมีหน้าที่คอยลำเลียงเจ้าหน้าที่อเมริกันและพวกพารูไปตามสนามบินขรุขระบนภูเขาด้วยเครื่องช้อปเปอร์แบบ H-34 และเครื่องบินลำเลียงปีกติดลำตัวขนาดเล็ก “เฮลิโอ” ซึ่งมีสมรรถภาพน่าทึ่ง

 

การรุกของม้ง

ดูเหมือนว่าทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ชัยชนะเหนือฝ่ายคอมมิวนิสต์ครั้งแล้วครั้งเล่าเกิดขึ้นติดๆ กัน

เครือข่ายขบวนการต่อต้านของชาวม้งที่มีอยู่เก่าขยายตัวเติบโต ผู้นำหมู่บ้านทยอยกันเข้าร่วมกับวังเปา หน่วยลาดตระเวนประจำหมู่บ้านถือปืนเหลือเก็บของอเมริกันออกซุ่มโจมตีก่อกวนกองทหารข้าศึกที่ผ่านเข้าใกล้ละแวกหมู่บ้าน ก่อนที่จะอาศัยแนวป่าแฝงการหลบหนีอย่างไร้ร่องรอยหลังเสร็จสิ้นภารกิจ

ม้งเข้าครอบครองพื้นที่ป่าเขาบนแผ่นดินสูง ทหารฝ่ายซ้ายและฝ่ายเป็นกลางยังไม่สามารถคิดหาวิธีตอบโต้สงครามกองโจรม้งได้

อย่างไรก็ดี แลร์ยังกังวลถึงอนาคตข้างหน้า เพราะเขารู้ดีว่าจนถึงขณะนั้น กองทหารเวียดนามเหนือที่น่าเกรงขามยังไม่ได้เข้าสู่เวทีต่อสู้

 

วอชิงตันขยายผล

ซีไอเอที่วอชิงตันเดินหน้าขยายผลความสำเร็จของปฏิบัติการโมเมนตัมต่อไป จากสงครามกองโจรของชาวเขาจำนวน 10,000 คนตามแนวความคิดเดิมของแลร์ ปฏิบัติการเริ่มขยายขอบเขตมากยิ่งขึ้น

พารูและที่ปรึกษาอเมริกา 400 คน พร้อมทั้งเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดใบพัด 6 เครื่อง ถูกส่งเข้ามาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับลาวฝ่ายขวาในลาว เพิ่มความฮึกเหิมให้กับวังเปาและพลพรรค

ขณะเดียวกัน นาวิกโยธินสหรัฐ 500 คนเคลื่อนย้ายมาเตรียมพร้อมลับๆ ในไทย อีก 2,000 คนเตรียมพร้อมอยู่ในที่ตั้งบริเวณฐานทัพในภูมิภาคแปซิฟิกสำหรับเป็นกองหนุนหากสถานการณ์ในลาวตึงเครียดขึ้น

กองทัพอากาศอเมริกันเสนอให้มีการโจมตีทางอากาศขนาดใหญ่บริเวณทุ่งไหหิน ขณะที่กองทัพบกเสนอให้ส่งกองกำลัง 140,000 คนพร้อมด้วย “อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี” เข้าไปประจำการในประเทศลาว

 

ปฏิบัติการ “มิลล์พอนด์”

ขณะเดียวกัน ซีไอเอที่วอชิงตัน ก็ไม่ต้องการทุ่มเดิมพันทั้งหมดไว้ที่แลร์และปฏิบัติการโมเมนตัม จึงเปิดปฏิบัติการลับ “มิลล์พอนด์ : Millpond” ควบคู่ไปกับปฏิบัติการลับโมเมนตัม

โดยนำเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบบี 26 รุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สองจัดเป็นฝูงบินเฉพาะกิจ ขูดลบเครื่องหมายต่างๆ บนตัวเครื่องออกหมดเพื่อโจมตีทิ้งระเบิดช่วงเวลากลางคืนใกล้ๆ กับทุ่งไหหิน

เป้าหมายอยู่ที่เมืองเชียงขวางและบ้านบานรวมถึงบริเวณถนนหมายเลข 7 อันเป็นเส้นทางเชื่อมตัวทุ่งไหหินและเมืองทั้งสองเข้ากับบริเวณพรมแดนเวียดนามเหนือ

จุดประสงค์ของการทิ้งระเบิดในปฏิบัติการลับมิลล์พอนด์นี้จำกัดไว้เพียงเพื่อทำลายการส่งกำลังบำรุงของพวกโซเวียตในลักษณะ “ตีหัวเข้าบ้าน” ไม่ต้องการผลแตกหัก

เป็นการส่งสัญญาณเตือนให้อีกฝ่ายอยู่ห่างๆ ไว้เท่านั้น

 

“อ่าวหมู”

ช่วงเวลาเดียวกันนี้ อีกซีกโลก วอชิงตันก็กำลังยุ่งอยู่กับการปฏิบัติตามแผนการยกพลขึ้นบกที่ “Bay of Pig : อ่าวหมู” ในประเทศคิวบาซึ่งกองทัพอากาศสหรัฐกำลังเริ่มโจมตีทางอากาศอย่างลับๆ ต่อฝ่ายรัฐบาลทหารคิวบาที่กำลังเข้มข้นขึ้นเช่นเดียวกับปฏิบัติการในลาว

ฝูงบิน บี- 26 ตามแผนปฏิบัติการมิลล์พอนด์ เคลื่อนย้ายจากเกาะไต้หวันมายังฐานทัพอากาศตาคลี นักบินของฝูงบินดังกล่าวมาจากแอร์อเมริกาและกองทัพอากาศ แต่ทุกคนแต่งกายพลเรือน ถือเอกสารปลอมของนักบินพลเรือน

เมื่อมาถึง พวกเขาต่างรอคอยอย่างอดทนอยู่ที่สนามบินตาคลี ไม่นานนักก็ได้ออกปฏิบัติการเริ่มบินในเที่ยวกลางคืนข้ามลำน้ำโขงตัดผ่านแผ่นดินแคบๆ ของประเทศลาวมุ่งสู่ชายแดนติดแดนประเทศเวียดนามเหนือ

ที่นั่นพวกเขาทิ้งเสบียงและอาวุธให้กลุ่มต่อต้านรัฐบาล มีการก่อไฟเป็นรูปตัวอักษรตามที่นัดกันไว้ล่วงหน้าเพื่อบอกพิกัดของจุดทิ้งร่ม

การโจมตีทิ้งระเบิดเหนือดินแดนลาวเริ่มปฏิบัติการในเที่ยวบินกลางคืนนี้เช่นเดียวกัน เครื่องบินบินในระดับต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับด้วยเรดาร์ฝ่ายข้าศึก นักบินบังคับเครื่องเลาะลัดไปตามช่องเขา เมื่อเงาทมึนของภูผาสูงชันทาบทับบดบังดวงแสงดาวเบื้องหน้า จึงดึงเครื่องเชิดหัวขึ้นเกือบ 90 องศา ปล่อยลูกระเบิดขนาด 500 ปอนด์ลงบนถนนหมายเลข 7 บริเวณใกล้บ้านบาน

อย่างไรก็ตาม ไม่กี่วันต่อมาภาพถ่ายที่ได้จากเครื่องบินลาดตระเวนแสดงให้เห็นว่าถนนที่กลายเป็นหลุมบ่อโดยแรงระเบิดได้ถูกซ่อมแซมจนราบเรียบเหมือนใหม่

ขณะที่นักบินของฝูงบินเฉพาะกิจดังกล่าวกำลังรอคำสั่งจากวอชิงตันให้โจมตีทางอากาศขนาดใหญ่ต่อเป้าหมายในดินแดนประเทศลาว

ผู้นำระดับสูงในวอชิงตันก็อยู่ระหว่างการชั่งน้ำหนักของทางเลือกต่างๆ อยู่

แล้วจู่ๆ ฝูงบินเฉพาะกิจซึ่งเตรียมพร้อมอยู่ที่สนามบินตาคลีก็ถูกยุบลงโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ จากวอชิงตัน เครื่องบินและนักบินทั้งหมดถูกส่งตัวกลับคืนสังกัดเดิม

 

เคนเนดี้แถลงข่าวลาวครั้งแรก

ต้นปี พ.ศ.2504 ปฏิบัติการโมเมนตัมในลาวกำลังไปได้สวย กองกำลังกองโจรของวังเปาสามารถครองความได้เปรียบเหนือฝ่ายนิยมคอมมิวนิสต์ในทุกพื้นที่ ขณะที่เคนเนดี้เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากไอเซนฮาวและเริ่มเดินงานในฐานะผู้นำแห่งโลกเสรีอย่างเต็มที่

23 มีนาคม 2504 ที่กรุงวอชิงตัน ประธานาธิบดีเคนเนดี้จัดให้มีการแถลงข่าวด้วยตัวเองที่ตึกทำการกลางของกระทรวงการต่างประเทศ ข้างโพเดียมแถลงข่าว ปรากฏแผนที่ประเทศลาวขนาดใหญ่เรียงกันอยู่ 3 แผ่น

แผนที่เหล่านี้แสดงเขตพื้นที่ยึดครองของกองกำลังฝ่ายต่างๆ ในลาวในช่วงเวลาที่ต่างกัน

สีแดงแทนพื้นที่ยึดครองของฝ่ายซ้าย

สีขาวแทนพื้นที่ยึดครองของฝ่ายเป็นกลาง

และสีน้ำเงินแทนพื้นที่ยึดครองของฝ่ายขวาตามลำดับ

แผนที่แผ่นแรกเป็นช่วงเวลาก่อนเกิดการรัฐประหารของฝ่ายเป็นกลางในเดือนสิงหาคมปี 2503 มีแต้มสีแดงเป็นหย่อมๆ ตามแนวพรมแดนด้านติดกับเวียดนามเหนือ

แผนที่แผ่นที่ 2 แสดงระยะเวลาหลังจากที่ฝ่ายขวาสามารถยึดเวียงจันทน์กลับคืนมาได้ในเดือนธันวาคม 2503

บนแผนที่แผ่นที่ 2 นี้จุดแต้มสีแดงได้ขยายกลายเป็นแถบสีแดงกระจายกันไป

และบนแผนที่แผ่นที่ 3 แทนช่วงเวลาปัจจุบัน แถบสีแดงที่ว่าได้ขยายเป็นแนวปื้นหนาดูคุกคามทาบทับพื้นที่ทุ่งไหหินและพื้นที่รอบๆ แลดูเหมือนอาการลุกลามของมะเร็งร้าย

ซึ่งขัดกับสถานการณ์จริงที่วังเปากำลังรุกครอบครองพื้นที่จากฝ่ายตรงข้าม