ยานยนต์ สุดสัปดาห์ / สันติ จิรพรพนิต /2 สไตล์ ‘โอดิสซีย์’ – ‘สวิฟต์’ ใหม่ รถครอบครัว 7 ที่นั่งและ ‘อีโคคาร์’

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ /สันติ จิรพรพนิต [email protected]

2 สไตล์ ‘โอดิสซีย์’ – ‘สวิฟต์’ ใหม่

รถครอบครัว 7 ที่นั่งและ ‘อีโคคาร์’

แม้จะเพิ่งเข้าสู่เดือนที่ 2 ของปี 2564 แต่เมืองไทยต้อนรับรถใหม่ๆ หลากหลายรุ่น ทั้ง “โมเดลเชนจ์” และ “ไมเนอร์เชนจ์” เปิดตัวแทบทุกสัปดาห์

ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ มีรถใหม่อีก 2 รุ่นเข้ามาเขย่าตลาด

หนึ่งคือ “ฮอนด้า โอดิสซีย์” รถครอบครัว 7 ที่นั่ง นำเข้าโดยบริษัทอีตั้น อิมปอร์ต อีกหนึ่ง “ซูซูกิ สวิฟต์” ใหม่

รุ่นแรกเป็นโมเดลเชนจ์ ส่วนรุ่นหลังเป็นไมเนอร์เชนจ์

“ยานยนต์สุดสัปดาห์” จึงจับทั้ง 2 รุ่นมารวบนำเสนอในฉบับนี้

 

“ฮอนด้า โอดิสซีย์” ที่นำเข้ามาครานี้เป็นเจเนอเรชั่นที่ 5

รูปลักษณ์ภายนอกปรับให้มีความสปอร์ตมากขึ้น แผงกันชนหน้าแบบใหม่ กระจังหน้าเป็นดีไซน์ใหม่ที่เน้นส่วนของโครเมียมมากขึ้นกว่าเดิม

นอกจากนี้ ยังดีไซน์ลายเส้นบนฝากระโปรง, ไฟหน้า LED ทรงใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม, ประตูท้ายและไฟท้ายทรงใหม่ เพิ่มความหรูหราขึ้นอีกด้วย

รุ่นท็อป ยังมีจุดเด่นและฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ เช่น สามารถเปิด-ปิดฝาท้ายด้วยระบบ Hand Free โดยใช้เท้าเตะ มีที่วางแขนขนาดใหญ่สำหรับฝั่งคนขับ

มีระบบไฟ LED Ambient Light บริเวณเบาะโดยสารแถวกลาง รวมถึงขนาดล้ออัลลอยที่ออกแบบมาพิเศษ 18 นิ้ว

การเปิด-ปิดประตูสไลด์ทั้งสองด้าน โดยไม่ต้องสัมผัสหรือกดปุ่มใดๆ เรียกว่า “Gesture-Control Door” ระบบเปิด-ปิดประตูโดยไม่ต้องใช้มือสัมผัส เพียงแค่ใช้มือ หรือข้อศอกเพื่อควบคุม เพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้น

ภายในหรูหราสะดวกสบายด้วยความกว้างใหญ่ของตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,820 x 4,855 x 1,695 ม.ม. ที่นั่ง 3 ตอน รองรับที่นั่งสูงสุด 8 ที่นั่ง เน้นความสบายของที่นั่งแถวกลาง ส่วนเบาะแถวหลัง สามารถถอดออกและปรับระดับมาทางด้านหน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระได้มากขึ้น

ห้องโดยสาร คอนโซลตกแต่งด้วยลายไม้นอกจากจะเพิ่มความสวยงามหรูหราแล้ว ยังเป็นการพรางช่องเก็บของอีกด้วย สำหรับหน้าจอเพื่อความบันเทิงแบบสัมผัส (Touch Screen) ขนาด 10 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงยังรองรับการเชื่อมต่อจาก Apple CarPlay และ Android Auto

 

ขุมพลัง 2 บล๊อกทั้งเครื่องยนต์ไฮบริด (e:HEV HYBRID ABSOLUTE EX) ขนาด 2.0 ลิตร ทํางานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบ่งหน้าที่ในการขับเคลื่อนและชาร์จไฟฟ้ากลับไปยังแบตเตอรี่ และแบตเตอรี่แบบลิเธียม-ไอออน กําลังสูงสุด 145 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 175 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

และเครื่องยนต์เบนซิน (ABSOLUTE EX) ขนาด 2.4 ลิตร กําลังสูงสุด 175 แรงม้า ที่ 6,200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 225 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที

ขับเคลื่อนระบบเกียร์ CVT 7 Speed + Paddle Shift (Continuous Variable Transmission)

ความปลอดภัยอัจฉริยะ “Honda Sensing” แบบเต็มระบบ อาทิ ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System : CMBS)

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow : ACC with LSF)

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System : LKAS)

ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)

ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam : AHB)

ระบบแจ้งเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor) ฯลฯ

“ฮอนด้า โอดิสซีย์” ราคาเริ่มต้น 2.7 ล้านบาท

 

“ซูซูกิ สวิฟต์” รถอีโคาร์รุ่นดังรุ่นหนึ่งนับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเจเนอเรชั่นก่อนหน้านี้ มาในรุ่นล่าสุดยังขายดิบขายดี

กลายเป็นรถธงที่ช่วยให้ค่ายซูซูกิ กวาดยอดขายในปี 2563 สูงถึง 25,528 คัน เติบโต 7% เมื่อเทียบกับปี 2562

เรียกว่าเป็นเพียงไม่กี่ค่ายที่โตสวนตลาดที่ติดลบในปีที่แล้ว

จึงเมื่อย่างเข้าเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซูซูกิตัดสินใจปรับโฉมสวิฟต์ เพื่อสร้างสีสันทันที

อัพดีไซน์สไตล์สปอร์ตด้วยกระจังหน้าตกแต่งโครเมียมแบบใหม่ ไฟหน้า LED Projector และไฟท้าย LED และล้ออะลูมิเนียมอัลลอยปัดเงาใหม่ขนาด 16 นิ้ว

ระบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ครบครันและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย ด้วยหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับทุกการเชื่อมต่อทั้ง Apple CarPlay, Android Auto และ Bluetooth

ภายในห้องโดยสารสีดำ ตกแต่งด้วยวัสดุสีเงินสไตล์สปอร์ต มาตรวัดตกแต่งลายเส้นสีแดง พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นทรง D-Shape เพิ่มพื้นที่วางขาและปรับระดับได้ 4 ทิศทาง

เบาะนั่งทรงสปอร์ตโอบกระชับสรีระ

ปรับพับเบาะหลังแบบ 60:40 เพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ

Keyless Entry เปิด-ปิดล็อกประตูได้โดยไม่ต้องกดกุญแจรีโมต

Keyless Push Start สตาร์ตหรือดับเครื่องยนต์ได้ในปุ่มเดียว

เสริมความปลอดภัยในการถอยจอดทุกพื้นที่ด้วยกล้องมองหลัง

 

เครื่องยนต์ยังใช้บล๊อกเดิม K12M 4 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 83 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 108 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที

มาพร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดคู่หรือ DUALJET

เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบหัวฉีดคู่ที่จัดวางไว้ใกล้กับห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันมากกว่า 23 กิโลเมตร/ลิตร รองรับน้ำมันสูงสุด E20

ความปลอดภัยโครงสร้างตัวถังแบบ TECT ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตัวรถ พร้อมระบบ NVH ช่วยกันการสั่นสะเทือน และลดเสียงรบกวนจากภายนอก

ระบบ ESP ช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว

ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS

ระบบ IDLING STOP ที่ลดมลพิษและลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง เหมาะกับการขับขี่ในเมือง

เสริมด้วยระบบ Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

ระบบ Hill Hold Control ช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน

ถุงลมนิรภัยถึง 6 ตำแหน่ง ฯลฯ

“ซูซูกิ สวิฟต์” ราคาเริ่มต้น 557,000 บาท