ศึก 3 ก๊ก ‘วิรัช-ธรรมนัส-ณัฏฐพล’ ขย่มกันเอง ‘ศึกซักฟอก’ ลากยาวถึงปรับ ครม. / ในประเทศ

ในประเทศ

 

ศึก 3 ก๊ก

‘วิรัช-ธรรมนัส-ณัฏฐพล’

ขย่มกันเอง ‘ศึกซักฟอก’

ลากยาวถึงปรับ ครม.

 

พรรคพลังประชารัฐเจอทั้ง ‘ศึกใน-ศึกนอก’ ก่อนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ 10 รัฐมนตรี

ขณะที่กำลังเผชิญศึกนอกจากพรรคฝ่ายค้าน ในการเตรียมตัวก่อนขึ้นเขียงศึกซักฟอก แต่กลับต้องมาเจอศึกใน พปชร.ด้วยกันเอง เรียกได้ว่า ‘ขย่มกันเอง’ ก่อนศึกซักฟอกจะเริ่มเพียง 1 สัปดาห์

ว่ากันว่าการขย่มครั้งนี้หวังผลไปถึงขั้น ‘ปรับ ครม.’ แม้ ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเคยระบุว่า ยังไม่ได้คิดปรับ ครม.ก็ตาม

ส่วน ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ-หัวหน้า พปชร. ก็โยนให้ไปถามนายกฯ เองเรื่องปรับ ครม. พร้อมย้ำว่าตนไม่มีสิทธิ์เสนอ และนายกฯ ก็ไม่ได้ถามอะไร

แต่เมื่อสื่อถามว่า นายกฯ ไม่ถาม แต่ พล.อ.ประวิตรบอกเองใช่หรือไม่ แม้ ‘บิ๊กป้อม’ จะปฏิเสธตอบคำถาม แต่ได้ทำหน้าหมั่นเขี้ยวสื่อแทน เปรียบเสมือนว่าสื่อรู้ทัน

อย่าลืมว่าปรับ ครม.เมื่อปีที่แล้ว ก็มีรัฐมนตรีหน้าใหม่ที่ได้ชื่อว่า ‘เด็กบิ๊กป้อม’ เข้ามา

แต่ศึกใน พปชร.ครั้งนี้ เริ่มต้นจากมีออกมาให้ข่าวว่าจะมี 30 ส.ส.พลังประชารัฐทำการงดออกเสียงหรือโหวตสวนในศึกซักฟอกต่อรัฐมนตรีบางราย เพื่อหวังผลลากยาวไปสู่การกดดันให้มีการปรับ ครม.

ซึ่งเรื่องนี้ ‘บิ๊กตู่’ ก็มีความเป็นกังวล จึงสอบถาม ‘บิ๊กป้อม’ โดยนายกฯ เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตรยืนยันไม่มีเรื่องนี้ โดยตนมองว่าเป็นเรื่องพรรคการเมือง

พร้อมย้ำถึงสัมพันธ์ พปชร.และพรรคร่วมรัฐบาล ยังคงเหนียวแน่น

 

ศึกครั้งนี้ถูกมองว่าเป็น ‘ศึกสามก๊ก’ ระหว่าง ‘ก๊กเฮียยักษ์’ วิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้า พปชร. และประธานวิปรัฐบาล ‘ก๊กตั้น กปปส.’ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ-รองหัวหน้า พปชร. และ ‘ก๊กผู้กอง’ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ-รองหัวหน้า พปชร.

ซึ่งทั้ง ‘ณัฏฐพล-ร.อ.ธรรมนัส’ ก็เป็นรัฐมนตรีที่ถูกขึ้นเขียงศึกซักฟอกครั้งนี้ด้วย โดยเฉพาะ ‘ณัฏฐพล’ ที่ตกเป็นเป้าใหญ่ที่สุด

ศึกภายใน ส.ส.กรุงเทพฯ ที่เป็นพื้นที่ดูแลของ ‘ณัฏฐพล-พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์’ เดิมนั้น ถูกแบ่งเป็น 2 ก๊ก โดยอีกก๊กที่แยกไปคือกลุ่ม ‘ส.ส.ดาวฤกษ์’ ที่นำโดย ‘มาดามเดียร์’ วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรรายชื่อ พปชร.

ทั้งนี้ หนึ่งในชนวนสำคัญมาจากกรณี ‘ณัฏฐพล’ เสนอชื่อ ‘อีฟ’ ทยา ทีปสุวรรณ อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ภรรยา เพื่อให้ พปชร.สนับสนุนชิงนั่งผู้ว่าฯ กทม.

แต่เป็นที่รู้กันว่า ‘บิ๊กป้อม’ มีชื่ออยู่ในใจแล้ว ก็คือ ‘บิ๊กแป๊ะ’ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. น้องเลิฟสาย ตร.นั่นเอง

ทว่า ‘บิ๊กป้อม’ ก็นิ่งเพื่อ ‘บัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น’ จึงประกาศชัด พปชร.ไม่ส่งคนลงผู้ว่าฯ กทม. แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าจะหนุนทางอ้อมแทน

จึงมีกระแสข่าว ‘บิ๊กป้อม’ เรียก ส.ส.กรุงเทพฯ พปชร.ไปล็อบบี้เพื่อให้หนุน ‘บิ๊กแป๊ะ’ แม้สุดท้าย ‘บิ๊กป้อม’ จะออกมาปฏิเสธก็ตาม

 

ทว่าเกมนี้ ‘บิ๊กป้อม’ มีขุนพลข้างกายคือ ร.อ.ธรรมนัส ที่เป็น ‘มือประสานสิบทิศ’ มาตั้งแต่ยุคตั้งพรรค พปชร. จนมาถึงการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะมีรายงานว่า ร.อ.ธรรมนัสหนุนชื่อ ‘บิ๊กแป๊ะ’ ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ กทม. ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม 2563 ที่ ‘บิ๊กแป๊ะ’ เปิดตัวชิงนั่งผู้ว่าฯ กทม.

แน่นอนว่าการที่ ร.อ.ธรรมนัสหนุน ‘บิ๊กแป๊ะ’ ก็เท่ากับเป็นการเตรียมตีตลาดเมืองกรุง ย่อมเท่ากับ ‘กระตุกหนวดเสือ’ เจ้าพ่อนครบาล พปชร. อย่าง ‘ณัฏฐพล’ ด้วยนั่นเอง

แถมงานนี้ ‘ณัฏฐพล’ ยังเจอคนใน พปชร. ‘แทงข้างหลัง’ ส่งข้อมูลให้กับฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลัง ‘วิโรจน์ ลักขณาอดิศร’ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผยว่า ส.ส.ต่างพรรคเจอหน้ากันในสภา พอถอดหัวโขนออก ส.ส.ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันถึงการทำงานของนายณัฏฐพล บางคนถึงขั้นตำหนิอย่างแรง โดยเฉพาะเรื่องร้องเรียนทางด้านการศึกษา ที่ ส.ส.ในแต่ละพื้นที่แต่ละจังหวัดส่งเรื่องไป แต่กลับไม่ได้ตอบรับ

“ผมบอกให้ก็ได้ว่าข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เตรียมไว้บางส่วน ผมได้มาจาก ส.ส.พลังประชารัฐหลายคน ดังนั้น ขอทำนายไว้ล่วงหน้าเลยว่า รัฐมนตรีศึกษาธิการจะได้คะแนนไว้วางใจน้อยที่สุดในศึกซักฟอกรอบนี้” นายวิโรจน์กล่าว

นอกจากนี้ ‘วิโรจน์’ ยังกล่าวอีกว่า

“การที่เขาไปอวดดี เที่ยวไปคุยโวว่าเป็นปาร์ตี้ลิสต์อันดับหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐ คุณเคยถาม ส.ส.พลังประชารัฐหรือยังว่าเขาหมั่นไส้ประโยคนี้หรือเปล่า เข้ามาในสภา อันดับไม่สำคัญ ขึ้นอยู่กับผลงาน ถ้าเป็นจริงตามข่าว ก็เป็นเรื่องของผลกรรม ผมว่า ต่อให้ผู้ใหญ่จะวิ่งเคลียร์ให้ก็ไม่ไหวหรอก ส.ส.พลังประชารัฐ เขารอเห็นวันนี้มานานแล้ว มาแอบกระซิบให้ผมอภิปรายหนักๆ”

 

กล่าวโดยสรุปคือ ‘ณัฏฐพล’ ถูกวิจารณ์ภายใน พปชร.ถึงการดูแล ส.ส.ที่ไม่ทั่วถึง ซึ่งก็เป็นจุดที่ทำให้ ‘ถูกขย่ม’ ซ้ำลงไปอีก แน่นอนว่าการปล่อยข่าวเช่นนี้ย่อมต้องมีที่มา เพราะเป็น ‘แรงกระเพื่อม’ ภายใน พปชร.ที่ทำให้เกิดเรื่อง ‘สามก๊ก’ ขึ้นมา

โดย ‘ณัฏฐพล’ กล่าวเพียงว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งเรื่องความเห็นที่ไม่ตรงกันนั้นมีอยู่แล้วในพรรคการเมือง ไม่น่าจะเป็นอะไรที่น่ากังวล เราทำหน้าที่ต่อสภา และไม่รู้สึกน้อยใจอะไร เป็นเรื่องธรรมดา

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่าบุคคลที่ต้องการให้ ‘ณัฏฐพล’ ได้รับคะแนนอภิปรายไม่ไว้วางใจน้อยที่สุดคือ ‘รัฐมนตรีช่วยกระทรวงคนหนึ่ง’ ในพรรค พปชร. โดยสื่อได้ถามว่าเกิดจากปัญหาในพรรคหรือไม่ โดย ‘ณัฏฐพล’ ชี้แจงว่า ไม่มี และทำงานตามปกติ การเห็นต่างเป็นธรรมดาของพรรคการเมือง ความรุนแรงก็แตกต่างกันไป และความต่างทางความคิดเห็น สามารถพูดคุยกันได้ เชื่อว่าในพรรคจะเรียบร้อย ไม่มีปัญหาอะไร

นอกจากนี้ ‘ณัฏฐพล’ ยังขอเคลียร์ปมหนุน ‘ทยา’ ลงชิงผู้ว่าฯ กทม. ว่า ข่าวที่ออกมาไม่เกี่ยวกับการที่ผมสนับสนุนนางทยาให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพราะเป็นคนละเรื่อง และคิดว่าทุกคนน่าจะเข้าใจเรื่องนี้แล้ว

 

แต่ในศึกครั้งนี้มีชื่อ ‘เฮียยักษ์ วิรัช’ ถูกพูดถึงขึ้นมาด้วย ซึ่งต้องย้อนไปถึง ‘ศึกซักฟอก’ เมื่อปี 2563 ที่ ร.อ.ธรรมนัสได้คะแนนไว้วางใจน้อยที่สุด ทำให้ ‘วิรัช’ ตกเป็นเป้าวิจารณ์ตามมา เพราะเป็นประธานวิปรัฐบาล ที่ต้องรับผิดชอบการโหวตในสภา จึงถูกมองว่าเป็นอีกชนวนที่ทำให้มีเรื่อง ‘คาใจ’ กันมาด้วย

แต่ไม่ใช่ประเด็นใหญ่เท่า ‘บารมี’ ของ ร.อ.ธรรมนัสที่แผ่ขยายใน พปชร.มากขึ้นเรื่อยๆ ว่ากันว่า ส.ส. 1 ใน 3 ของ พปชร.อยู่ใน ‘มุ้ง ร.อ.ธรรมนัส’ ส่วน ‘วิรัช’ ก็คุม ส.ส. ภายใน พปชร.ไม่น้อยเช่นกัน เข้าสำนวน ‘เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้’ แต่ละฝ่ายต่างมี ‘ขุนพล’ ระดับบิ๊กใน พปชร.เป็นพรรคพวก

อย่างไรก็ตาม ‘วิรัช’ กล่าวถึงกรณีกระแสข่าว 30 ส.ส.พปชร.โหวตสวนในศึกซักฟอกต่อ ‘ณัฏฐพล’ โดย ‘วิรัช’ เองก็ไม่ได้ปฏิเสธ พร้อมชี้ว่าเป็นการ ‘พูดกันสนุกๆ’ และเป็นการ ‘เสี้ยมให้แตก’

“ผมขอยืนยันว่า พปชร.ซึ่งเป็นพรรคหลักของรัฐบาล มีความมั่นคง รักกันเหนียวแน่น ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีไปทางไหน เพียงแต่คำพูดบางครั้งพูดกันสนุกๆ เราก็อย่าเก็บนำมาเป็นประเด็น” นายวิรัชกล่าว

“นายณัฏฐพลเป็นคนเก่ง ตั้งใจทำงาน บางครั้งก็มีบ้างที่คนไม่พอใจ แต่ไม่ถึงขนาดต้องออกมาแบบที่เป็นข่าว และไม่มีใครคิดว่าใครแตกแถว เพราะเราต้องยึดหลักการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เขาก็พยายามเสี้ยมให้แตก แต่เราจิตใจมั่นคง เหนียวแน่น ไม่ไปไหน คงอยู่กันแบบนี้”

นายวิรัชกล่าว

 

ส่วนท่าทีของ พล.อ.ประวิตรก็ถึงกับเสียงสูง เมื่อสื่อถามว่าพรรคถูกแบ่งออกเป็นสามก๊ก พล.อ.ประวิตรตอบกลับทันควันว่า “ใครสามก๊ก มีที่ไหน” หลังมีรายงานว่า พล.อ.ประวิตรได้พูดคุยกับ ‘ณัฏฐพล’ ที่ทำเนียบฯ ในวันประชุม ครม.ด้วย

ย้อนกลับไปต้นสัปดาห์ ‘อ.แหม่ม-นฤมล ภิญโญสินวัฒน์’ รมช.แรงงาน ในฐานะเหรัญญิก พปชร. ก็มาพบ ‘บิ๊กป้อม’ ที่ทำเนียบฯ โดยสื่อถาม ‘บิ๊กป้อม’ ว่าได้มีการหารือเรื่องภายใน พปชร.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรเลี่ยงตอบคำถามว่า “ไม่มี ก็คุยกันเพียงว่าทำอย่างไรให้พรรคเข้มแข็ง”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียง ‘ศึกสามก๊ก’ ที่ถูกฉายภาพออกมา แต่ภายใน พปชร.มีก๊กมากกว่านี้ จึงเป็นเหตุผลที่ ‘บิ๊กป้อม’ สายตรงจาก ‘บิ๊กตู่’ มาคุมพรรคเอง ซึ่ง ‘บิ๊กป้อม’ เคยลั่นวาจาไว้ว่า “ผมยังอยู่ ไม่มีแตก” ศึกครั้งนี้ดูกันไปยาวๆ ไม่จบง่ายๆ

รวมพลังประชา (ทัณฑ์) รัฐ!?!?