การศึกษา / ‘โควิด-19’ ฝ่ามาตรการคุมเข้ม ป่วน ‘น.ร.-นิสิต’ รับเปิดเรียนวันแรก!!

การศึกษา

‘โควิด-19’ ฝ่ามาตรการคุมเข้ม

ป่วน ‘น.ร.-นิสิต’ รับเปิดเรียนวันแรก!!

 

ป่วนกันตั้งแต่วันแรกของการเปิดเรียน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) มีมาตรการผ่อนคลายการใช้มาตรการ และยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 เนื่องจากผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนสังกัดเทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก มารับลูกหลานกลับบ้าน หลังจากทางโรงเรียนประกาศแจ้ง เพราะมีข่าวว่ามีนักเรียน 5 คนติดเชื้อโควิด-19

นอกจากนี้ ยังมีนักเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ใน จ.ตาก อีก 2 ราย ที่ติดเชื้อโควิด-19 จนต้องสั่งปิดโรงเรียนตั้งแต่วันแรกที่เปิดเรียน

ขณะที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) วิทยาเขตกำแพงแสน ก็พบนิสิต 1 รายที่เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร เพื่อสอบกลางภาค ติดเชื้อโควิด-19 เช่นกัน โดยได้ส่งตัวเข้ารักษาที่สถาบันบำราศนราดูร

สำหรับนิสิตที่ใกล้ชิดอีก 2 ราย ได้รับการตรวจเชื้อแต่ไม่พบ ได้ให้กักตัวภายในหอพัก ส่วนอีก 1 ราย เดินทางกลับบ้านที่ จ.นครราชสีมา

 

ทั้งนี้ ศบค.ได้มีมาตรการผ่อนคลายการใช้มาตรการ โดยมาตรการผ่อนปรนในพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) ใน 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ปทุมธานี และนนทบุรี มีมาตรการผ่อนปรน โดยเงื่อนไขสถานที่ที่ยังคงปิด คือ สถานประกอบการคล้ายผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้ปิดสถานที่ หรือซื้ออาหารนำไปรับประทานที่อื่น

ส่วนเงื่อนไขสถานที่ที่เปิดได้ อาทิ ร้านอาหาร จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม ให้นั่งรับประทานอาหารได้ จำกัดจำนวนคนต่อโต๊ะ จำกัดเวลาไม่เกิน 23.00 น. และงดดื่มสุราในร้าน ให้ซื้อกลับบ้านได้ รวมถึงการจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม จัดการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (On site, Online, On air) กรณีโรงเรียน หรือสถานศึกษาที่มีจำนวนนักเรียน รวมทั้งโรงเรียนไม่เกิน 120 คน หรือโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ทุกพื้นที่เปิดเรียนได้ตามปกติ

ส่วนการกำกับมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) จ.สมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่ ศบค.ยังกำหนดให้เป็นพื้นที่สีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด โดยยังคงปิดสถานที่ และเข้มงวดการควบคุมกำกับ รวมถึงโรงเรียน โรงเรียนกวดวิชา สถาบันการศึกษา

 

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้กำหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนในสังกัด ศธ.ใน 3 แนวทาง แบ่งแยกตามพื้นที่ โดยทุกแนวทางต้องปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยตามหลักของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด ดังนี้

  1. พื้นที่ จ.สมุทรสาคร ที่ยังมีการแพร่ระบาดในวงกว้าง และถือเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ยังต้องปิดโรงเรียน และใช้การเรียนการสอนตามแนวทางที่ ศธ.กำหนดไว้
  2. พื้นที่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คือ นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม และปทุมธานี ให้โรงเรียนเปิดได้ แต่ต้องจำกัดจำนวนนักเรียนไม่เกิน 25 คนต่อชั้น หรือให้สลับวันเรียน

และ 3.พื้นที่จังหวัดอื่นๆ ให้เปิดโรงเรียนได้ตามปกติ

โดยรัฐมนตรีว่าการ ศธ.ระบุว่า โรงเรียนในสังกัดทั่วประเทศ จะต้องดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัด ทั้งการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมืออย่างสม่ำเสมอ รักษาระยะห่าง งดกิจกรรมที่ต้องรวมตัวกันจำนวนมาก หรือในที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ทำความสะอาดพื้นที่ของโรงเรียนบ่อยๆ เพราะการดูแลในโรงเรียน จะชะลอการติดเชื้อในเด็กและเยาวชน

ทั้งนี้ ทุกโรงเรียนมีความเข้าใจตรงกันว่าในการเปิดเรียนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ อาจมีบางโรงเรียนที่ไม่ได้อยู่ใน จ.สมุทรสาคร แต่มีครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนอาศัยอยู่ที่ จ.สมุทรสาคร อาจต้องวางแนวทางการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ หรือให้ใบงาน และแบบฝึกหัดกับนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งโรงเรียนสามารถปรับตัว และสร้างความยืดหยุ่น เพื่อจะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้ ในอนาคตอาจมีบางโรงเรียนอยู่ในพื้นที่ที่เกิดการแพร่ระบาดขึ้นอีกระลอกหนึ่ง โรงเรียนจะต้องบริหารจัดการตามมาตรการที่เคยทำ เช่น ปิดชั้นเรียน ให้นักเรียนเรียนสลับเวลา สลับวันมาเรียน หรือสลับสัปดาห์เรียน เป็นต้น

ซึ่งโรงเรียนทุกแห่งมีความคุ้นเคยในการรับมือสถานการณ์เหล่านี้อยู่พอสมควรแล้ว

 

โดยโรงเรียนต่างๆ ในสังกัด ศธ.มีทั้งโรงเรียนที่พร้อมเปิดเรียนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ขณะที่ยังมีอีกหลายโรงเรียนที่ขอรอดูสถานการณ์ก่อน โดยอาจเปิดเรียนในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ หรือวันที่ 8 กุมภาพันธ์

อย่างโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ซึ่งผู้บริหารจะขอรอดูสถานการณ์อีก 1 สัปดาห์ โดยเลื่อนเปิดเรียนออกไปเป็นวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เพราะมองว่าโรงเรียนบดินทรเดชาฯ เป็นโรงเรียนขนาดใหญ่ มีนักเรียนจำนวนมาก จึงยังกังวล และไม่แน่ใจว่าจะเปิดเรียนได้หรือไม่ อีกทั้งเด็กกว่า 95% มีความพร้อมเรียนออนไลน์

ขณะที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้ออกประกาศเรื่องการปิดสถานศึกษาเนื่องจากเหตุพิเศษ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด จึงแจ้งปิดสถานศึกษาด้วยเหตุพิเศษ วันที่ 1-5 กุมภาพันธ์ โดยเรียนในรูปแบบออนไลน์ และเปิดเรียนวันที่ 8 กุมภาพันธ์

ส่วนโรงเรียนวัดราชบพิธ ได้ออกประกาศปิดสถานศึกษาด้วยเหตุพิเศษ โดยปิดสถานศึกษาตั้งแต่วันที่ 1-5 กุมภาพันธ์ ระหว่างการปิดสถานศึกษา ซึ่งอยู่ในช่วงวัดการประเมิน และสอบกลางภาค ให้ครูผู้สอนติดตามภาระงาน เก็บคะแนนระหว่างภาคเรียน หรือจัดให้สอบออนไลน์

สำหรับโรงเรียนเอกชนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) มีทั้งโรงเรียนที่มีความพร้อมที่จะเปิดเรียนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แต่โรงเรียนเอกชนขนาดใหญ่อาจยังไม่เปิดเรียนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ เพราะแม้จะมีความพร้อม แต่ผู้ปกครองยังกังวล จึงขอให้โรงเรียนเลื่อนเปิดไปอีก 1 สัปดาห์

 

สําหรับความพร้อมเปิดเรียนในส่วนของมหาวิทยาลัยต่างๆ นั้น นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มั่นใจว่ามหาวิทยาลัยได้เตรียมเปิดการเรียนการสอนในสถานที่ตามมาตรการของ ศบค.โดยได้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง

ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยจะดำเนินการ ดังนี้

  1. พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จ.สมุทรสาคร ให้ปิดสถานศึกษา โดยให้จัดการเรียนการสอนแบบออนไลน์
  2. พื้นที่ควบคุมสูงสุด กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ให้ใช้อาคารสถานที่ได้ โดยกำกับมาตรการป้องกันโรคอย่างเข้มงวด และให้จัดการเรียนการสอนแบบผสมผสานทั้งแบบในสถานที่ และแบบออนไลน์ พร้อมให้งดกิจกรรมที่มีผู้ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

และ 3. พื้นที่ควบคุมเฝ้าระวังสูง หรือเฝ้าระวัง 72 จังหวัด ให้สามารถเปิดการเรียนการสอนได้ตามปกติ และใช้แบบผสมผสานได้ โดยกำกับมาตรการป้องกันโรค จำกัดจำนวนผู้ร่วมกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มคนในพื้นที่

ทั้งนี้ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการ อว.ได้ออกประกาศกระทรวง ย้ำว่า หากนิสิต นักศึกษา อาจารย์ และบุคลากร มีข้อจำกัด หรือมีเหตุจำเป็นไม่สามารถเดินทางมายังสถานศึกษา หรือที่ทำงานได้ เนื่องจากมีภูมิลำเนาตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด พื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือต้องเดินทางผ่านพื้นที่ดังกล่าว ให้แจ้งอาจารย์ผู้สอน หรือผู้บังคับบัญชาทราบ และไม่ให้ถือว่าผู้นั้นขาดเรียน หรือขาดงาน โดยให้จัดการเรียนการสอนที่เหมาะสม หรือมอบหมายงานทดแทน

ต้องติดตามว่าการเปิดเรียนในช่วงที่มีการแพร่ระบาดระลอกใหม่ โรงเรียนและสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ จะเอาอยู่หรือไม่!!