ครัวอยู่ที่ใจ / ทางรอดอยู่ในครัว : ไม่เสียใจและไม่เสียดาย / อุรุดา โควินท์

ทางรอดอยู่ในครัว

: ไม่เสียใจและไม่เสียดาย

“ตายแล้ว ลืมจ่ายตลาด เมื่อวานมัวแต่วุ่นวายกับตัดสบู่ จะมีอะไรกินเป็นมื้อเช้ามั้ย” ฉันโวยวายเสียงขณะเปิดลังโฟมดูสบู่ที่ทำไว้เมื่อวาน

สบู่ดูดี ไม่มีทั้งโซดาแอช และหน้าไม่แตก

ทีนี้ก็มื้อเช้า และถ้าอยากไปจ่ายตลาดตอนบ่ายแก่ หมายความว่าฉันต้องกวนสบู่ให้เสร็จก่อนบ่ายโมง

ทำสบู่นั้นสนุก แต่มีเรื่องจุกจิกเยอะมาก ตั้งแต่เตรียมวัตถุดิบ เตรียมสี ขึ้นสูตร คิดลาย กวน เท นั่นยังไม่เสร็จ ต้องลุ้น ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และสุดท้าย หากว่ามันพัง เราก็ต้องปล่อยไป

“วันนี้จะเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จก่อนบ่ายสอง พักชั่วโมงหนึ่งแล้วไปตลาดกัน ตอนกลางคืนเขียนหนังสือ”

เขาหัวเราะ “ไม่มีสบู่ให้ตัดเหรอ เห็นชอบตัดสบู่ตอนบ่าย”

อา ใช่ มีสบู่รอตัดสองแบช แต่สบู่ของฉันเป็นสบู่อ่อน ยังรอได้อีกหลายวัน

“ตัดพร้อมสองแบชที่กำลังบ่มนี้ได้” ฉันบอกเขา

“แน่ใจนะว่าไม่อยากเห็นข้างใน”

“อยาก แต่รอได้ เพราะอยากไปตลาดมากกว่า”

การทำสบู่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราเท่านั้น อากาศ ความชื้น ก็ช่วยเราทำสบู่ด้วย นั่นหมายความว่า สบู่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถควบคุมได้อย่างหมดจด ที่เราทำได้ คือลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น และแก้ปัญหาให้ดีที่สุด

สบู่กวนเย็นเป็นทั้งวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และโชค นั่นส่งผลให้ฉันมีเรื่องลุ้น ข้อดีที่สุดของมันก็คือ มันทำให้ฉันรอคอยวันพรุ่ง มีเรื่องให้ใจเต้นได้ทุกวันสิน่า

“เคยมีคนเตือนว่า ถ้าทำสบู่จะไม่ว่าง ตอนแรกก็ไม่เชื่อ ตอนนี้รู้ละ” ฉันยิ้มหวาน เดินเข้าครัว

ต่อให้ยุ่งอย่างไร เมื่อเดินเข้าครัว ฉันจะวางทุกอย่างลง แล้วคิดแต่ว่า จะกินอะไร

ใช่ ฉันลืมแม้กระทั่งสบู่

จําได้ว่าเรามีไข่ไก่ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ แล้วก็มีขนมปัง ลำพังฉัน ไข่ลวกสองฟอง กับขนมปังทาเนยโรยน้ำตาล ก็อยู่ได้ถึงเที่ยง แต่กับผู้ชาย นั่นอาจน้อยไป

หมูหมดไปเมื่อวาน ถ้าจะกินข้าว ก็คงเป็นข้าวไข่เจียว อืม…แต่นั่นเหมาะกับมื้อกลางวันมากกว่า

ระหว่างที่ฉันหันซ้ายหันขวาในครัว เขาก็เดินมาสบทบ

“ถ้าจะถามว่าไปกินข้างนอกกันมั้ย ขอตอบว่าต้มบะหมี่ใส่ไข่ดีกว่า” ฉันดักคอ

เขาปล่อยก๊าก “ก็ได้ ขอรสหมูสับนะ”

เป็นตัวเลือกสุดท้ายแล้วกัน บะหมี่รสหมูสับในซองน่ะ

จริงๆ แล้วฉันนึกถึงเย็นตาโฟเจ้าอร่อย แต่การกินอาหารในบ้าน ช่วยบริหารเวลาได้

บอกแล้ว-คนทำสบู่และเขียนหนังสือด้วยน่ะ ไม่มีเวลา

เย้ เรามีแฮมของเพื่อนบ้านชาวเยอรมันเต็มแพ็ก ได้โปรตีนมาเพิ่ม รอดแล้ว และง่ายมาก เพราะแค่แกะใส่จาน กินกับมะเขือเทศเนื้อหั่นบางๆ (โรยเกลือ)

“ไม่ต้องกินบะหมี่ รับรองเลย” ฉันเปิดเตา ตั้งน้ำให้เดือด

ไข่ลวกเป็นวิทยาศาสตร์ สูตรที่จะได้ไข่ลวกอร่อยมีสามข้อ

ข้อแรก ไข่ควรสด ถ้าไม่สดก็ลวกได้ แต่ไม่อร่อยเท่าไข่สด

ข้อสอง ไข่ต้องไม่เคยผ่านตู้เย็นมาก่อน

ข้อสาม ต้มน้ำให้เดือด ปิดไฟ หย่อนไข่ลงไปแช่ในน้ำเดือดโดยให้น้ำท่วมไข่ (ไม่ปิดฝา) จับเวลา 6-8 นาที

หกนาทีจะค่อนข้างดิบ แปดนาทีค่อนข้างสุก เจ็ดนาทีคือตรงกลาง ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้น และฉันเลือก 7 นาที

ระหว่างเจ็ดนาที ฉันจัดแฮมลงจาน หั่นมะเขือเทศ เตรียมขนมปังและเนย อ่ะ เวลายังเหลือ ฉันผสมด่างสำหรับทำสบู่ จากนั้นก็ตั้งกาแฟ

ครบเจ็ดนาที ตอกไข่ลงถ้วย ถ้วยละสองฟอง อาหารเช้าก็พร้อมบนโต๊ะ ครบห้าหมู่อย่างไม่น่าเชื่อ

เรากินมื้อเช้าด้วยกัน แล้วเขาก็ตรงไปนั่งที่โต๊ะ ทำงานแปล ฉันเดินเข้าห้องทำสบู่ ซึ่งตอนนี้อาจเรียกว่าสตูดิโอ (ก็ได้มั้ง)

ฉันใช้ห้องครัวเก่าของร้านอาหาร และห้องที่เคยเป็นห้องพักแม่ครัว ทั้งสองห้องอยู่ถัดจากบาร์ แยกออกจากตัวบ้านของเรา

ตอนที่เรามาถึง มันรกและเหม็น เราไม่ได้ใช้ก็จริง แต่ถ้าจะเดินขึ้นบ้าน เราต้องผ่านด้านข้างของสองห้องนี้ เราจึงทำความสะอาด เก็บขยะไปทิ้ง ล้างตั้งแต่ผนังลงมา ซื้อสีขาวถูกๆ มาทา ได้ห้องโล่ง ที่แม้จะทรุดโทรมไปบ้าง แต่ก็สะอาดตา

ก่อนหน้านี้ เราแค่เดินผ่าน กับทำน้ำพริกคั่วทรายเดือนละสี่ห้าวัน แต่เมื่อฉันสนุกกับการทำสบู่ ฉันต้องการพื้นที่และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ฉันจึงจัดมันเสียใหม่ ให้ทำงานสะดวก มีที่ตากสบู่ และดูสวยงาม

มันดูเปลี่ยนไปมาก โดยแทบไม่ได้ใช้เงิน ฉันเรียกช่างคู่ใจมาหนึ่งวัน ให้เขาย้ายชั้นในห้องเก็บของของน้องสาวมาติดในห้องทำสบู่ ส่วนชั้นบางอันที่ติดสูงไป หรือใหญ่ไป ก็ตัดให้เล็กลง และย้ายลงมาให้ฉันใช้สะดวก

หาผ้าสวยๆ มาปูโต๊ะ ติดม่านบังตาแบบใช้ลวดขึง หาแจกันดอกไม้ ต้นไม้มาวาง เก้าอี้เก่าๆ มี ก็ยกมาใช้วางของ

สมบูรณ์พร้อม เมื่อเขายกแผ่นซีดี พร้อมเครื่องเล่นที่เราไม่ได้ใช้มาวางให้ มันกลายเป็นสตูดิโอเล็กๆ ที่แสนน่ารัก มีเพลงเพราะๆ ทั้งยังอยู่ใกล้บาร์ จะดื่มน้ำดื่มกาแฟตอนไหนก็สะดวกง่ายดาย

แสงสวย มีลมล่อง เมื่อมองผ่านหน้าต่างออกไป ฉันเห็นต้นไผ่ ชานบ้าน และสระหน้าบ้าน

สูดลมหายใจลึก นี่ละชีวิตน้อยๆ ของฉัน ฉันจะใช้ให้หมดจดทุกวัน อย่างไม่เสียใจและเสียดาย