หลังเลนส์ในดงลึก : ‘ชะตากรรม’ / ปริญญากร วรวรรณ

ม.ล.ปริญญากร วรวรรณ
หมาไนกับวัวแดง - หมาไนทำงานของมันสำเร็จ แต่สำหรับวัวแดง นี่เป็นความผิดพลาดที่ต้องรับบทเรียนด้วยชีวิต

‘ชะตากรรม’

หลายปีก่อนหน้านี้

ผมทำงานชิ้นหนึ่งใช้ชื่อว่า “เจ้าถิ่น” งานชิ้นนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากที่ผมได้รับอนุญาตให้อยู่ร่วมในโอกาสพิเศษ ได้เห็นการทำงานของเสือดาวตัวหนึ่ง

วันนั้นขณะกำลังนั่งเฝ้ารอนกยูงในซุ้มบังไพร ริมลำห้วย ลิงแสมวิ่งออกมาจากด่านชายป่า มุ่งหน้าไปตามหาดทราย ที่ตามติดมาออกมาคือ เสือดาว

ผมบันทึกภาพการทำงานของเสือดาวไว้ และภาพได้รับการเผยแพร่ไปทั่ว

ผมมีรูปเสือดาวคาบคอลิงแสม ใส่กรอบวางไว้ข้างโต๊ะทำงาน

ในรูป ทั้งเสือดาวและลิงแสมที่ยังไม่สิ้นใจ มองมาทางผมด้วยแววตาอันแตกต่างกัน ผมเขียนในงานชิ้นนั้นว่า “แววตาของลิงแสมดูคล้ายปลงตกในชะตากรรม มันบาดเจ็บเกินกว่าจะต่อสู้ดิ้นรนแล้ว ส่วนแววตาของเสือ ไม่มีแววของความหวาดหวั่น เป็นแววตาของเจ้าถิ่นผู้ทะนงในศักดิ์ศรี”

ช่วงเวลาที่เสือคาบลิงเพื่อลากเข้าป่านั้น ผมมองพวกมันผ่านเลนส์เทเล 400 มิลลิเมตร

แต่อีกราวสองเมตรจะถึงปากทางด่าน ก่อนที่เสือจะลับตาเข้าป่าทึบ

ผมละสายตาจากช่องมองภาพ

สายตาของเราสบกัน

ผมจบงานชิ้นนั้นไว้ว่า

“เสือก้าวตีนเข้าปากทางด่าน การเผชิญหน้าระหว่างเราสิ้นสุดลง แต่ไม่ก่อนที่ผมจะก้มหัวให้ทั้งสองด้วยความคารวะ”

จากวันนั้น ผมพบกับเสือ ทั้งเสือดาวและเสือโคร่งอีกเสมอๆ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ “เป็นลูกมือ” ทีมศึกษานิเวศวิทยาของเสือโคร่ง ของสถานีวิจัยสัตว์ป่าเขานางรำ

ผมเขียนในงานบ่อยว่า เป็นโอกาสดีที่ได้ใกล้ชิดกับเสือ ได้เรียนรู้จากนักวิจัย ว่า “วิถี” ของเสือจริงๆ นั่นเป็นอย่างไร

ใกล้ชิดเสือแบบได้สัมผัสตัว ช่วงที่มันยังอยู่ในฤทธิ์ยาสลบ ก่อนที่เสือจะฟื้น

และโลกแห่งความเป็นจริงระหว่างเรา ก็กลับมา

การเฝ้ารอใกล้ๆ เสือ เมื่อมันเริ่มฟื้นคืนสติ คือโอกาสดีที่สุดของผม มันสอนผมหลายอย่าง เมื่อไม่พร้อมจะต่อสู้ พวกมันเลือกที่จะถอย และถ้าพร้อม มันไม่ลังเลในการเข้าโจมตี

เสือโคร่งตัวเมียตัวหนึ่งทำเช่นนั้น วันนั้นผมเฝ้ามันอยู่กว่า 6 ชั่วโมง ตั้งแต่เช้าจนบ่าย มันลุกขึ้นเดินเซๆ ไปนั่งพักอยู่ในลำห้วยแห้งๆ ตาจ้องมาทางผมเขม็ง อ้าปากคำรามขู่

ที่จริง นั่นคืออาการเตือนให้ผมรักษาระยะห่าง มันไม่อนุญาตให้ผมเข้าใกล้กว่านั้นแล้ว

ผมละเลยกับคำเตือน ก้าวเท้าไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว นั่นเป็นความผิดพลาด เสือกระโจนเข้าหาทันที ผมหลบพ้นมาได้ อาจเพราะมันยังไม่แข็งแรงพอ หรือเป็นแค่การเตือน

เป็นบทเรียนแห่งความผิดพลาดอีกครั้ง

มีสิ่งหนึ่งที่ผมเห็นชัดเจน ไม่ว่าจะพบกันในสภาวะใด หรือเมื่อไหร่ ในแววตาของเสือที่จ้องมองมานั้น ไม่แตกต่างจากแววตาเสือดาวตัวที่ผมพบมันล่าลิงแสม

ไม่มีแววแห่งความหวาดหวั่น ทะนง

ผมใช้เวลานานพอสมควร จึงเริ่มเข้าใจว่า แท้จริงพวกมันรู้จักซ่อนแววแห่งความหวาดหวั่นไว้ข้างใน

ในป่าทุ่งใหญ่ การบันทึกภาพเสือ ทั้งเสือโคร่ง และเสือดาว คล้ายจะไม่ยากนัก เมื่อใช้กล้องดักถ่ายภาพ ด่านหรือเส้นทางเดินของสัตว์ป่ามีทั่วไป บนเส้นทางที่คนทำขึ้นเพื่อสัญจรนั้น เสือก็ใช้ด้วย การวางกล้องดักถ่ายไว้ริมทางได้ผล

แต่สถานการณ์จะเปลี่ยนไป เมื่อใช้วิธีเฝ้ารอในซุ้มบังไพร แม้จะพบซากเหยื่ออย่างกระทิงและกวางที่เสือล่าได้ก็เถอะ ความผิดปกติเพียงนิด รวมทั้งกลิ่นคนที่ติดอยู่ในบริเวณนั้น ทำให้เสือระแวงไม่เข้ามา

สำหรับผม นี่เป็นบทเรียนอันทำให้รู้ว่า ต้องเลี่ยงการเข้าใกล้ซากของพวกมัน

เป็นเรื่องจำเป็นของการทำงานกับสัตว์ป่า ที่ต้องรับรู้ว่า งานที่ได้คือเรื่องรอง

วิถีชีวิตที่ควรเป็นของสัตว์ป่าต้องมาก่อน

ในป่า พูดได้ว่า ทุกพื้นที่ ต่างล้วนมีเจ้าของ สัตว์ป่าแต่ละตัวมีอาณาเขตของตัวเอง

นักวิชาการอธิบายเหตุผลที่เสือโคร่งกับเสือดาวอาศัยอยู่ร่วมในพื้นที่ ในถิ่นเดียวกันได้เพราะเหยื่อพวกมันแตกต่างกัน กระทิง, วัวแดง, รวมทั้งกวางโตเต็มวัยเหล่านี้คือเหยื่อหลักๆ ของเสือโคร่ง ส่วนเสือดาว เป็นเหยื่อที่มีขนาดย่อมลงมา เช่น กวางตัวเมีย เก้ง หมูป่า และสัตว์ขนาดเล็กอื่นๆ

ข้อสำคัญอีกประการ เสือยอมรับและเคารพกฎในการอยู่ร่วมอย่างเคร่งครัด

ปกติพวกมันจะไม่ยุ่งกับเหยื่อที่ตัวอื่นล่าไว้

แต่กฎระเบียบนี้ใช้ไม่ได้กับนักล่าอย่างหมาไน ผมเคยพบฝูงหมาไนผ่านมาพบซากที่เสือโคร่งล่าไว้ พวกมันจัดการอย่างไม่ลังเล กินจนหมด เหลือไว้เพียงกระดูกท่อนโตๆ

เสือจะตะกุยพื้น รวมทั้งพ่นฉี่ หรือที่เรียกว่าสเปรย์ไว้ตามต้นไม้ พุ่มไม้ใกล้ๆ ซากเหยื่อ แสดงความเป็นเจ้าของ

บอกให้ผู้อื่นรู้ว่า เป็นเหยื่อของใคร เป็นถิ่นใคร

ในหมู่เสือ พวกมันเคารพกฎนี้อย่างเคร่งครัด เมื่อใดที่เกิดการละเมิด ผู้ละเลยกฎอาจต้องรับบทเรียนด้วยชีวิต

ผมเคยพบซากเสือดำตัวหนึ่งนอนอยู่ข้างทาง ไม่ไกลจากสถานีวิทยุแม่ข่ายเขาพระฤๅษี

รอบซากมีรอยตีนเสือโคร่งย่ำไว้ เสือดำมีบาดแผลเป็นรอยเขี้ยวตรงคอ ในปากมันมีขนเสือโคร่งอยู่กระจุกหนึ่ง

อย่างน้อยก่อนสิ้นใจ มันมีโอกาสได้สู้

ใกล้ๆ มีซากกวางตัวเมียโตเต็มวัย ซากถูกกินไปค่อนตัว

เสือดำตัวนี้ละเมิดกฎเข้าไปยุ่งกับเหยื่อของเสือโคร่ง จึงถูกสั่งสอน

ดวงตาเสือดำยังไม่ปิด แต่ไร้แววของความมีชีวิต

ในแววตาของมัน ผมไม่เห็นความทะนงอย่างที่เคยเห็นในแววตาเสือ

ผมนึกถึงแววตาของลิงแสม ตัวที่ถูกเสือดาวล่า

ผมเห็นแววตาของมัน และเอามาเขียนว่า คล้ายแววตาที่ปลงตก ยอมรับในชะตากรรม

แต่กับแววตาเสือดำตัวนี้ ผมเห็นแววตาอันยอมรับความผิดพลาด

ความผิดพลาดที่มักถูกซ่อนไว้ข้างหลังคำว่า “ชะตากรรม”