เดือนแห่งความรักไร้รุนแรง / แตกกอ-ต่อยอด ศิลา โคมฉาย

แตกกอ-ต่อยอด

ศิลา โคมฉาย

 

เดือนแห่งความรักไร้รุนแรง

 

เดือนแห่งความรักของผม เปิดฉากแบบไม่น่ารัก

ในสายลมเย็นสดชื่น แดดนอกหน้าต่างสดแจ่ม ฟ้าครามสูงโล่ง เสียงทุ่มเถียงระหว่างชาย-หญิงแว่วมาเป็นพักๆ เว้นระยะ ค่อยเพิ่มแรงปะทะ สู่การทะเลาะเบาะแว้ง น่าจะเป็นเรื่องปกติในครอบครัว

แต่เสียงที่แผดดังทะลุทะลวง ทั้งกระชากกระแทกกระทั้น ตามมาด้วยเสียงปึงปังของประตู เสียงข้าวของแตกทำลาย เสียงคำราม การปะทะ เสียงหวีดร้อง พ้นสภาพปกติ เป็นเลวร้าย

เพื่อนบ้านห้องถัดๆ ไปด้านใน เหมือนกำลังเกิดปัญหาหนัก

ประตูพลันเปิดกระแทกโครม เสียงกรีดร้องโฮของผู้หญิงดังสะท้าน ปนอยู่ในเสียงพล่ามฟังไม่ได้สรรพ แต่พอรู้ได้ว่า หวาดกลัวสุดขีด และวอนขอ ดูเธอจะพยายามวิ่งหนี ขณะผู้ชายไล่ล่าด่าทอ…

ความเลวร้ายกลายเป็นชั่วร้าย ยามสายบนตึกสูงของผมจึงอลหม่าน ตึงเครียด แม้มันจะกินเวลาไม่นาน และผ่านพ้น แต่กลับตกค้างคาใจ หม่นหมองและหดหู่

ที่นี่เป็นคอนโดมิเนียม มันอาจเริ่มด้วยภาพดูดีจากโฆษณา กลุ่มผู้พอจะมีกำลังลงทุน อนาคตเพื่อนบ้านใกล้เคียง ที่ดูเหมือนจะพออยู่ร่วมสังคมกัน แล้วมันเริ่มเปลี่ยนสภาพ เมื่อถูกปล่อยให้มีผู้เช่าร้อยพ่อพันแม่ ผมจึงเห็นภาพที่ใครบางคนนิยามไว้ มันเป็นแค่สลัมในแนวตั้ง

เดือนกุมภาพันธ์นี้ จึงเริ่มต้นด้วยรักร้าย

และอาจด้วยผมเป็นพ่อของลูกสาว ถึงรู้สึกเหลือรับกับการลงไม้ลงมือทำร้ายหญิง จนจมอยู่กับสภาพหดหู่ ภาวนาให้ลูกห่างจากวิบากกรรมเถื่อนทั้งมวล

ครอบครัวเราปฏิเสธและประณามสิ่งนี้

 

ดูเหมือนบ้านเมืองเราจะเคยรณรงค์หัวข้อ รัก…ไร้รุนแรง

เมื่อองค์การสหประชาชาติให้ตัวเลขว่า ประเทศไทยเรามีปัญหาความรุนแรงในครอบครัวอยู่ในระดับสูง แต่รณรงค์สำหรับเรา ก็คือการตีฆ้องร้องป่าว ไม่ได้เกิดผลเป็นกระแสนำพาผู้คนทั้งมวลรู้จักและเข้าถึงความรัก ตามความหมายที่มีอยู่ในตัวเอง

หากลองพินิจพิจารณาจะพบว่า ความรักเป็นความรู้สึก

พึงพอใจ ชื่นชม ชมชอบอย่างมาก ปลื้มจนอิ่มเอมใจ ทั้งรู้สึกดีงาม มีความปรารถนาดี ต้องการให้ผู้เป็นที่รักประสบแต่ความสุข ความเจริญ มุ่งทะนุถนอม ภัยร้าย ความหม่นหมองเพียงน้อยไม่ให้กรายต้อง

เมื่อหวนคืนไปสู่แรกรักจะเห็นความรู้สึกชัดเจน

พ้นไปจากความรู้สึก สิ่งที่แสดงออกต่อมากลายเป็นการเผยตัว หวังแสดงความเป็นเจ้าของ เรียกร้อง คาดหวัง และมุ่งเข้าครอบครองกันและกัน ซึ่งผ่านเลยจากความรักไปแล้ว

พวกนั้นต้องการหลักการ วิธีคิด ศิลปะการใช้ชีวิตนานาเข้ามาประคับประคอง

ในสื่อสังคมออนไลน์ มีข้อคิดเสนอการถนอมรักสำหรับคู่รักไว้อย่างน่าติดตาม เขาว่าให้พูดคำรัก พูดคำหวานอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เคอะเขิน เสแสร้ง พูดภาษาดอกไม้ให้ติดเป็นนิสัย

รู้จักชื่นชมความสำเร็จ หรือแม้แต่ความก้าวหน้า เพียงก้าวเล็กๆ ของคนรัก พร้อมให้กำลังใจ ไม่รื้อฟื้นในความผิดพลาด พร้อมจะกล่าวคำขอบคุณ และขอโทษ

ไม่กลัวการเสียหน้า เพราะไม่ได้เจ็บปวดเท่าการเสียใจ

ในภาวะประจันหน้า ตึงเครียด อาจจำเป็นต้องยอม ต้องถอยในบางโอกาส การเอาชนะความโกรธ เอาชนะตนเองสำคัญกว่า การเอาชนะในความขัดแย้ง กล้าให้อภัย เชื่อใจ เชื่อมือ ไว้วางใจกันและกัน

ในการครองคู่ สิ่งที่อิงอยู่กับความรัก เป็นความใคร่ ผลต่อเนื่องของมัน เป็นสิ่งต้องเข้าใจและรู้จักเลือกระหว่างการร่วมรัก กับร่วมเพศ การเสพสมเพื่อสุขสม

เรื่องใหญ่ใหญ่ในสิ่งที่เรียกว่ารัก

 

รัก…ไร้รุนแรง แม้จะมีกฎหมายและหลายหน่วยงานพร้อมจะเข้าไปดำเนินการ บางทีจำเป็นต้องนำพาผู้ชายทั้งหลายกลับคืนไปหาความเป็นลูกผู้ชายเช่นกาลก่อน

กระตุ้น รณรงค์ เคลื่อนไหว สร้างความชื่นชมในวิถีลูกผู้ชาย

ประเภทต้องว่ากันอย่างยุติธรรม เปิดเผยซึ่งหน้า รับผิดชอบ กล้าทำกล้ารับ ถือมั่นน้ำมิตร ไม่เอาเปรียบ ฉวยโอกาส รังแก ทำร้ายเพศแม่

ผลักดันให้พ่อรุ่นใหม่ กล้าสร้างลูกชายให้เดินในวิถีนี้

ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนของชุมชน ซึ่งมีส่วนประกอบพื้นฐานเป็นครอบครัว ที่หลายๆ แห่งกำลังเข้าปรับแก้ลึกถึงรากแห่งปัญหา เช่น การติดเหล้า ติดการพนัน ฯลฯ ช่วยให้ค่อยได้ถอนตัวออกห่าง กระทั่งคนพวกนั้นเสนอวาทกรรมให้คนอื่นได้คิด

บ้านเกือบแตก ลูกเกือบเสีย เมียเกือบไป

 

การบรรลุถึงความรัก อาจจำเป็นต้องเข้าถึงธรรมพื้นฐาน

เพราะต้องอาศัยความเมตตากรุณาเป็นเบื้องต้น ทั้งต้องมีสติมั่น สามารถควบคุมตนเอง พร้อมจะเป็นฝ่ายให้ ดูแลรับใช้ และเสียสละ อย่างปีติเป็นสุขไม่รู้สึกฝืนหรือเสแสร้ง

นั่นจิตใจต้องผ่านการฝึกฝนแล้ว กระทั่งละลายความเห็นแก่ตัวจนบางเบา

มองเห็นเพื่อนร่วมทุกข์ โดยเฉพาะคู่ทุกข์คู่ยากข้างกาย

จิตใจที่ดี ย่อมเลือกเพ่งพินิจและเห็นในข้อดีของกันและกัน แม้มนุษย์ต่างมีข้ออ่อนอันไม่น่าพึงใจอยู่ด้วยก็ตาม

คนมีธรรมประจำใจ ยากนักจักก่อการกระทำรุนแรงต่อใคร