สรุปคดี : เปิดข้อหาฟัน ‘กาละแมร์’ รีวิวอาหารเสริมเกินจริง กินแล้วดั้งโด่ง-ตา 2 ชั้น ยิ่งยงโดนถั่งเช่า

อาชญา ข่าวสด

 

เปิดข้อหาฟัน ‘กาละแมร์’

รีวิวอาหารเสริมเกินจริง

กินแล้วดั้งโด่ง-ตา 2 ชั้น

ยิ่งยงโดนโฆษณาถั่งเช่า

 

กลายเป็นช่องทางหากินของเหล่าดาราเซเลบในยุคปัจจุบันกันอย่างกว้างขวาง

สำหรับการทำอาหารเสริมขายให้กับประชาชนทั่วไป โดยใช้ความที่เป็นบุคคลสาธารณะ สื่อสารข้อมูลโฆษณาให้ประชาชนเชื่อและเลือกจะอุดหนุนผลิตภัณฑ์นั้นๆ

จนบางครั้งทำยอดขาย สร้างรายได้ถล่มทลาย ยิ่งกว่าทำงานในวงการบันเทิงเสียอีก

ซึ่งในกรณีการทำธุรกิจ หากผู้ประกอบการมีจริยธรรม และธรรมาภิบาลในการค้าขาย ก็ย่อมส่งผลดีให้กับสังคม

แต่หากไม่ใช่ มุ่งเน้นกำไรและรายได้เป็นหลัก ฟุ้งข้อมูลไปเรื่อย โดยไม่สนถึงข้อเท็จจริง เน้นสร้างฝัน สร้างจินตนาการ

ไม่ว่าจะเป็นสรรพคุณที่ดีเลิศ เสมือนยาวิเศษ หรือมีผลถึงขั้นเปลี่ยนแปลงรูปหน้าประดุจทำศัลยกรรมกับแพทย์ชั้นแนวหน้า

ทั้งหมดถือว่าน่าเป็นห่วงประชาชนที่ถูกหลอกลวงด้วยความน่าเชื่อถือของเจ้าของกิจการหรือพรีเซ็นเตอร์

จึงเป็นหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ อาทิ คณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. รวมทั้งตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ต้องเข้ามาดูแลอย่างจริงจัง

ไม่ให้ใครร่ำรวยจากการหลอกลวงประชาชน!??

ฟันกาละแมร์โฆษณาเกินจริง

 

เหตุการณ์เชือดกรณีรีวิวอาหารเสริมเกินจริงครั้งนี้ ปรากฏในความรับรู้ของสังคมเมื่อวันที่ 18 มกราคม โดย ภญ.สุภัทรา บุญเสริม รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ระบุว่า ตรวจสอบพบว่ามีการโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยเป็นการโฆษณาของ น.ส.พัชรศรี เบญจมาศ หรือกาละแมร์ พิธีกรชื่อดัง

โดยโฆษณาดังกล่าวเป็นการทำคลิปวิดีโอบรรยายสรรพคุณอาหารเสริมของตัวเอง ที่ใช้เครื่องหมายการค้า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โบเทรา ดริ้งค์ เลขสารบบอาหาร 10-1-03958-5-0229 และโบเทรา ชอต เครื่องดื่มชนิดผง เลขสารบบอาหาร 10-1-03958-5-0233 เผยแพร่ผ่านอินสตาแกรม “hipowershot” และเฟซบุ๊ก “Botera โบเทรา สวยทรงพลัง”

มีเนื้อหาเป็นการบรรยายสรรพคุณของอาหารเสริมตัวเอง โดยใช้ถ้อยคำว่า “กรอบหน้าชัด เหนียงหาย หน้ายก ตาที่เคยหนังตาตกก็เป็นตา 2 ชั้น รอยขมวดคิ้วหาย ร่องแก้มตื้น จมูกเข้ารูป ย้ำอีกครั้งว่า ไม่เคยทำจมูกอะไรใดๆ ตอนนี้กินแต่ผลิตภัณฑ์ตัวเองเท่านั้น”

เปรียบเทียบสรรพคุณอาหารเสริมเทียบชั้นได้กับการทำศัลยกรรม ถึงขั้นมีตา 2 ชั้น!??

ภญ.สุภัทราระบุว่า อย.ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีผลิตภัณฑ์อาหารตัวใดที่สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างหรือการทำงานของร่างกายได้ตามที่กล่าวอ้าง การโฆษณาดังกล่าวเป็นการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต และโฆษณาคุณประโยชน์ คุณภาพ หรือสรรพคุณอันเป็นเท็จ หลอกลวงให้หลงเชื่อโดยไม่สมควร

มีโทษตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ อย.สั่งระงับการโฆษณา พร้อมดำเนินมาตรการทางปกครอง และมีหนังสือถึงตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว

และไม่ใช่แค่กรณีนี้เป็นกรณีแรก อย.ยังดำเนินคดีกับบริษัทพาวเวอร์ชอต และ น.ส.พัชรศรี 1 ในกรรมการผู้จัดการบริษัทดังกล่าว ฐานโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต และโฆษณาสรรพคุณอาหารอันเป็นเท็จ หลอกลวงให้หลงเชื่อโดยไม่สมควรทางเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมมาแล้ว 7 คดี

พร้อมเตือนบุคคลสาธารณะ ก่อนคิดจะรีวิวผลิตภัณฑ์สุขภาพใด ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ให้ข้อมูลกับผู้บริโภค

ทั้งนี้ เมื่อตรวจสอบคลิปต่างๆ ของกาละแมร์ ก็ยังมีอีกหลายเนื้อหา ไม่ว่าเรื่องของคนที่กินอาหารเสริมแล้ว จากที่ตรวจเชื้อโควิดเป็นบวก ก็กลายเป็นลบ หรือช่วยให้สามี-ภรรยาที่ทะเลาะกัน กินแล้วเลิกทะเลาะกันได้

อวดอ้างเกินข้อเท็จจริงจนเกินเลย

เจ้าตัวอ้างไม่รู้ข้อกฎหมาย

 

ขณะที่ในส่วนของคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ประสานไปยัง น.ส.พัชรศรี หรือกาละแมร์ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้เข้าพบพนักงานสอบสวน

แต่เมื่อโทรศัพท์ไปหา น.ส.พัชรศรีกลับไม่รับสาย และไม่โทร.กลับ พนักงานสอบสวนจึงออกหมายเรียกครั้งที่ 1 ไปตามที่อยู่ โดยนัดหมายให้ น.ส.พัชรศรีเข้าพบในที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา เวลา 11.30 น. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 40

แต่สุดท้ายเมื่อถึงวันเวลานัด กาละแมร์ พัชรศรี กลับไม่ได้ปรากฏตัวตามหมายเรียก เป็นเหตุให้ พ.ต.อ.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ รอง ผบก.ปคบ. พิจารณาออกหมายเรียกครั้งที่ 2 เพื่อให้กาละแมร์มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564

พร้อมกันนั้นยังออกหมายเรียกติช่า กันติชา ชุมมะ นางแบบชื่อดังที่ปรากฏตัวในคลิปอวดอ้างสรรพคุณอาหารเสริมเพื่อมาให้ถ้อยคำด้วย

สำหรับความเคลื่อนไหวของกาละแมร์นั้น พบว่าในวันที่ 28 มกราคม ที่พนักงานสอบสวน บก.ปคม.นัดหมาย เจ้าตัวกลับไปโผล่ที่รัฐสภา เพื่อร่วมประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีวาระประชุมพิจารณาศึกษาสรรพคุณและผลกระทบต่อสุขภาพที่เกิดจากการบริโภคผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทต่างๆ ที่จำหน่ายในท้องตลาด รวมถึงแนวทางการคุ้มครองผู้บริโภค

โดย น.ส.พัชรศรีให้สัมภาษณ์หลังชี้แจงว่า กมธ.เชิญมาให้ข้อมูลในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการ ถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้แสดงความคิดเห็นและหาทางออกร่วมกันในแง่การโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมควรจะทำอย่างไรดี เพราะไม่เคยรู้เรื่องประกาศ อย.

แต่เมื่อเกิดเรื่องก็ได้ไปศึกษาว่าอะไรทำได้และทำไม่ได้บ้าง ปรากฏว่ามีรายละเอียดของกฎหมายมาก จึงต้องมาหาทางออกให้กับผู้ประกอบการทุกคน ตอนนี้ต้องศึกษาข้อกฎหมายให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก

ทั้งนี้ ก่อนหน้าจะไปพบ กมธ.สาธารณสุข กาละแมร์โพสต์ในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า คลิปโปรโมตดังกล่าวได้ตัดมาจากเนื้อหาของการไลฟ์ที่แมร์พูดคุยกับแฟนคลับ และลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์ ที่ชวนกันมาพูดคุยถึงประสบการณ์จริงจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว

แมร์ได้เล่าถึงประสบการณ์จริงและผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นกับแมร์ โดยไม่ทันได้ระวังในความไม่เหมาะสมของเนื้อหาดังกล่าว และหลังจากนั้นทีมงานก็ได้นำเนื้อหาบางส่วนจากการไลฟ์มาตัดเป็นคลิปวิดีโอเพื่อใช้โปรโมตทางโซเชียลมีเดียจนเกิดกระแสดังกล่าว

ทันทีที่แมร์ได้ทราบถึงกระแสที่เกิดขึ้น แมร์ไม่ได้นิ่งนอนใจและได้สั่งลบและระงับโฆษณาชิ้นนี้ทันที และขอย้ำอีกครั้งว่าผลลัพธ์จากการใช้ผลิตภัณฑ์ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล

ยังคงยืนยันว่าเป็นผลที่เกิดขึ้นจริง!??

‘ยิ่งยง’ ก็โดน-ขาย ‘ถั่งเช่า’

 

นอกจากนี้ ยังมีกรณีถั่งเช่า ที่โฆษณากันทั้งบ้านทั้งเมือง โดยเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สั่งการให้ตรวจสอบ โดยสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ประสานกับ กสทช. ดำเนินคดีกับผลิตภัณฑ์ถั่งเช่า ที่มีดารา นักแสดง นักร้องเป็นพรีเซ็นเตอร์ อวดอ้างสรรพคุณรักษาโรคทางสื่อต่างๆ ทำให้ประชาชนเสียโอกาสในการรักษาโรคอย่างถูกต้อง

ประกอบด้วย 1.การโฆษณาผลิตภัณฑ์ถั่งเช่าผสมมัลติวิตามินบี และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดถั่งเช่าผสมยูซี-ทู (เครื่องหมายการค้า ลีฟเนส) ทางเว็บไซต์บริษัทผู้ผลิต 2.การโฆษณาผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดถั่งเช่าผสมยูซี-ทู (เครื่องหมายการค้าลีฟเนส)

โดย กสทช.สั่งปรับสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม 2 ช่อง รายละ 5 แสนบาท และตรวจสอบพบสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมอีก 1 ช่องที่จะเข้าสู่การพิจารณาลงโทษปรับ 5 แสนบาท พร้อมเตือนสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมกว่า 10 แห่ง และสถานีวิทยุอีกกว่า 150 สถานี ให้ระงับการโฆษณา

ขณะที่ทางคดี บก.ปคบ.เตรียมออกหมายเรียกนายประยงค์ บัวงาม หรือ “ยิ่งยง ยอดบัวงาม” นักร้องลูกทุ่งชื่อดัง และบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา ฐานความผิดตาม พ.ร.บ.อาหาร 2522 มาตรา 40

ขณะที่นักร้องดัง ยิ่งยงชี้แจงว่า ยืนยันในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ทำมาตลอด 10 ปี ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสารสกัดถั่งเช่าผสมยูซี-ทู ได้ระงับโฆษณาที่ไม่ได้รับอนุญาตนั้น และชำระค่าปรับเรียบร้อย ส่วนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารถั่งเช่าผสมมัลติวิตามินบี ก็สั่งระงับโฆษณาตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2563

พร้อมประกาศจะเข้าไปชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังได้รับหมายเรียกในความผิดโฆษณาเกินจริง

ถือเป็นบทเรียนสำคัญของดารา-นักร้องที่ผันตัวเองไปขายอาหารเสริม

ให้รับผิดชอบต่อสังคมมากยิ่งขึ้น