ปรากฏการณ์ที่แรงงานพม่าไปรวมตัวกัน ไม่ว่า ณ บริเวณหน้าสถาน ทูตพม่าประจำกรุงเทพมหานคร ไม่ว่า ณ บริเวณหน้าอาคารสหประชาชาติ สะท้อนนัยยะอะไร

1 สะท้อนความผูกพันอย่างยิ่งต่อสถานะของรัฐบาลอันมาจากการเลือกตั้ง 1 สะท้อนบารมีของ นางอองซาน ซูจี

ยิ่งเห็นอย่างเด่นชัดว่าเหตุผลที่กองทัพพม่าภายใต้การนำของ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ใช้เป็นข้ออ้างคือ กล่าวหาว่าชัยชนะของ นางอองซาน ซูจี มาจากทุจริตการเลือกตั้ง

ยิ่งสร้างความไม่พอใจเป็นอย่างสูง เพราะว่าการเลือกตั้งของพม่าอันเกิดขึ้น 2 สมัยอย่างต่อเนื่องเป็นการเลือกตั้งภายใต้กฎกติกาที่กำหนดโดยกองทัพ

ขณะที่พรรคการเมืองของ นางอองซาน ซูจี สามารถเอาชนะได้ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกเมื่อ 4 ปีก่อนและการเลือกตั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความกลัวของ”ทหาร”ที่มีต่อคะแนนและความนิยามที่ประชาชนมีต่อ นางอองซาน ซูจี

 

สภาพความเป็นจริงที่เห็นในปัจจุบันก็คือ นางอองซาน ซูจีและผู้นำอื่นๆในทางการเมือง ล้วนถูกรวบตัวและยัดข้อหาเพื่อนำไปสู่การจับกุมและคุมขัง

หวังว่าเมื่อ นางอองซาน ซูจี และคณะถูกจับกุมคุมขังแล้วก็เท่า กับเป็นการกำราบมิให้ประชาชนลุกขึ้นมาต่อต้าน

แต่แล้วไม่ว่าจะเป็นชาวพม่าที่อยู่ในประเทศ หรือชาวพม่าที่อยู่นอกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นที่ญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นที่ประเทศไทย ต่างก็ออกมาแสดงปฏิกิริยาอย่างกว้างขวาง

1 เป็นการประณามต่อต้านต่อการยึดอำนาจโดยวิธีรัฐประหาร ของกองทัพ ขณะเดียวกัน 1 เป็นการเรียกร้องเพื่อให้ปลดปล่อย นาง อองซาน ซูจีน ให้ได้อิสรภาพ

นี่คือผลสะเทือนในทางความคิดที่มีต่อ นางอองซาน ซูจี

นี่คือบารมีในทางความคิด อันส่งอิทธิพลอย่างลึกซึ้งให้เกิดการ เคลื่อนไหวในทางการเมือง

 

เมื่อความคิดดำรงอยู่ในจุดที่มั่นคงก็มีความแข็งแกร่งอย่างเพียงพอที่จะกลายเป็นพลังในทางการเมือง นำไปสู่ปฏิบัติการทางการเมืองอันคึกคัก เข้มข้น

ทั้งหมดยืนยันว่าบารมีของ นางอองซาน ซูจี ได้กลายเป็นพลานุภาพอันทรงความหมายยิ่งในทางการเมือง